xs
xsm
sm
md
lg

“โดม” ยัวะ “พลอย” ด่าสร้างภาพ เหน็บกลับเลิกแล้วทำไมต้องสาดขี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โดม” ฉุน “พลอย” ลั่นเลิกแล้วทำไมต้องสาดโคลน เผยอีกฝ่ายส่งแมสเสจมาให้จริง บอกเป็นความรู้สึกดีต่อกันทำไม่ยอมรับ ยันมีหลักฐานแต่ไม่คิดโชว์หลังฝ่ายหญิงปฏิเสธไม่เคยส่งอะไรให้ โต้ไม่เคยสร้างภาพ บอกไม่โกรธโดนอีกฝ่ายเหน็บพูดอย่างทำอย่าง ย้ำสัมพันธ์ “มิว-โบว์” แค่เพื่อน

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกจนได้ สำหรับอดีตคู่รักคาราคาซัง “พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์” กับอดีตแฟนหนุ่ม “โดม ปกรณ์ ลัม” หลังจากที่หนุ่มโดมเคยให้สัมภาษณ์ว่าสาวพลอย ยังส่งแมสเสจแสดงความรู้สึกดีต่อกันมาให้เสมอๆ แต่พอนักข่าวกลับถามพลอย อีกฝ่ายกลับสวนกลับว่างานนี้หนุ่มโดมพูดมั่วเอง ยันตัวเองไม่เคยส่งข้อความหาอาลัยอาวรณ์แน่นอน ร้อนมาถึงโดม ซึ่งคราวนี้ออกอาการยัวะอดีตแฟนสาวเสียแล้ว บอกเรื่องแค่นี้ไม่มีสาเหตุต้องปิดบัง เพราะยังมีความรู้สึกดีต่อกัน ฉุนเลิกแล้วทำไมต้องสาดขี้ สาดโคลนใส่กัน กลางงงานเปิดตัวเสียงรอสาย "*123 calling Grammy" เจ้าตัวให้สัมภาษณ์อย่างมีอารมณ์ทีเดียว

“ผมไม่รู้ว่าผมจะโกหกไปทำไม และผมก็เคยบอกกับเขาตรงๆ เขาบอกว่าเขาไม่อยากคบกับใครและก็ไม่อยากมาคืนดีกับผมด้วย ผมก็เข้าใจสำหรับตรงนี้ โดมจบแล้วครับ ผมก็มุ่งหน้าทำงาน ตั้งหน้าตั้งตาทำสิ่งที่เป็นประโยนช์ต่อชีวิตของผม แต่ว่าบางทีดึกๆ ก็ยังมีส่งแมสเสจมา คือผมไม่รู้ว่าผมจะโกหกไปทำไม มันก็ไม่ค่อยดีมั้งต้องออกมาพูดหน้ากล้อง ว่าส่งมาอย่างโน่นอย่างนี้ แต่ถ้าเกิดเขาออกมาพูดว่าไม่ได้ส่งเลย จะให้ผมโชว์มั้ยมันคงไม่เหมาะมั้งครับ”

“ที่เขาพูดว่าทำอะไรขัดกัน ผมทำอะไรมันไม่เคยขัดเลยครับ ผมไม่จำเป็นต้องโกหกแล้วครับตอนนี้ ผมถามตรงๆ ว่าผมอยู่ในสถานะภาพที่ต้องโกหกใคร ทั้งตัวคุณแม่พลอยและตัวพลอยด้วย ทุกๆเรื่องที่ผมทำตอนนี้ผมมีสิทธิ์จะทำได้อย่างเต็มร้อย ก็ในเมื่อพลอยเขาก็ยังมีคนที่ไปโน่นไปนี้ด้วยอยู่ เขาเป็นคนบอกผมเองว่าตอนนี้ ต่างคนต่างโสดทั้งคู่ ผมบอกหน่อยว่าผมจะโกหกทำไมมันไม่อยู่ในสถานะที่ต้องโกหกครับ”

โดนอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์ทำนองให้เลิกสร้างภาพ โดมบอกถ้าชอบสร้างภาพจริงคงไม่อยู่วงการนานขนาดนี้ ลั่นตนทำทุกอย่างมีเหตุผลตลอด แอบน้อยใจเลิกแล้วทำไมต้องสาดขี้ใส่กันด้วย ในเมื่อยังรู้สึกดีต่อกัน
“ผมไม่เคยสร้างภาพครับ ตลอดเวลาที่ผมทำงานมา ผมสร้างแต่ความจริงใจมาตลอด และผมเชื่อว่าการสร้างภาพเนี่ย ภาพที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมันถูกทำลายได้ง่ายเสมอครับ ภาพที่เป็นภาพจริงๆ มันก็อยู่มาได้20ปีแล้วครับถ้าผมอยู่ตรงนี้มาแล้วถ้าเกิดผมสร้างภาพ ผมคงออกจากวงการนี้ไปตั้งแต่สองสามปีแรกแล้วครับ ผมยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงแล้วก็จริงใจครับ”

“โอเคมันเป็นไปได้ครับที่คนสองคนคบกันแล้วมันความรู้สึกที่ตกค้างอยู่ แต่โดมไม่ชอบตรงที่ว่าพอเลิกกันแล้วมาสาดโคลนสาดขี้ใส่กัน ตรงนี้มันไม่ใช่เรื่อง ผมจบแล้วก็อยากจบให้มันสวย ตรงนี้มันป็นสิ่งที่ทั้งคู่ตกลงแล้วก็เคยต้องการกัน แต่ผมก็ไม่ทราบว่าพอมันเริ่มวุ่นเริ่มวายกันไปหมดอาจเป็นเพราะว่ามันมีตัวแปรหลายๆ อย่าง อาจจะเป็นที่สื่อคอยดูอะไรทางโน่นด้วย ผมก็ไม่รู้ ท้ายสุดเลยว่าผมพูดตรงเลยว่าจบกันสวยๆ เถอะครับ ถ้า ณ วันนี้เขาไม่ได้คิดอยากจะคบกับผมแล้ว ด้วยความที่เขาบอกว่าผมเอะอะเดี๋ยวก็ไป จะเลิกก็เลิก ผมบอกได้เลยว่าผมจะไปก็ไปจะมาก็มาผมไม่ใช่นินจา”

“ผมทำทุกอย่างด้วยเหตุผล และผมไตร่ตรองตลอดที่ผ่านมาหลายเดือนและผมไม่ได้ทำโดยพลการและผมทำโดยการปรึกษาเขาและคุณแม่ผมละคุณแม่เขา เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้ถูกรับรู้ด้วยผู้ใหญ่ทั้งนั้นก่อนที่ผมจะตัดสินใจออกมาพูด ที่บากหน้ามาพูดพี่คิดว่ามันสบายนักเหรอครับ การที่คบกันผมลงทุนครับผมลงทุนทั้งแรงทั้งใจผมลงทุน ทุกอย่างครับผมไม่ได้ชุ่ยๆ ครับมันน่าจะจบได้แล้วและมันน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราพูดกัน ทางเขาก็บอกเองว่าเบื่อเหลือเกินไม่อยากจะพูดแล้ว แล้วมันไม่หยุดพูดแล้วมันจะจบได้ไงครับ”

“ผมรักความสงบครับ ผมถูกเลี้ยงมาอย่างนี้นะ เพราะฉะนั้นแล้วมันน่าจะจบกันดีๆ ความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้เขามันยังมีอีกมากมาย อย่าให้มันต้องมาเสียด้วยอารมณ์ชั่ววูบหรือกับอะไรตรงนี้เลยผมว่า”

บอกแม้ว่าจะน้อยใจอีกฝ่ายหลายครั้ง แต่ไม่เคยโกรธ แต่ที่ไม่พร้อมโทรเพราะไม่ร็จะโทรไปในฐานะใด ยันยังใส่แหวนที่อีกฝ่ายซื้อให้เสมอ

“ผมคุยได้เสมอ ผมพร้อมที่จะคุยเสมอแต่ตอนนี้ผมจะโทรไปในสถานะอะไรเพื่ออะไรผมก็คงไม่จำเป็นต้องโทรหรอกครับโกรธมั้ย ไม่โกรธเลย ห่างไกลคำว่าโกรธมากครับขอบอก ใจมันไม่ใช่ตรงนั้นเลยครับ”

“ความรู้สึกของผมเ ริ่มต้นจากความรู้สึกที่ดีครับ เริ่มจากความจริงใจ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ผก็ยังรู้สึกดีๆ กับเขาครับ ถึงแม้มันจะมีปัญหาอะไรก็ตาม ผมเองก็มีส่วนทำหลายๆเรื่องๆ ที่ทำให้พลอยต้องเจ็บต้องช้ำ ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรผมก็เป็นมนุษย์คนนึง เพราะฉะนั้นเรื่องสองเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ผมทำคนเดียวมันก็ไม่ใช่เขาทำคนเดียวมันก็ร่วมกันสร้างร่วมกันก่อขึ้นมา มาถึงจุดนึงแล้วมันเกิดการแตกหักมันก็ต้องยอมรับในกฎกติกาในสิ่งที่มันป็นทั้งคู่ก็แค่นั้นเอง ไม่โกรธเลย ผมไม่โกรธ ผมพูดตรงๆ ผมพูดให้ทุกคนได้ยิน ผมยังรู้สึกดีๆ อยู่ตลอดเลยครับ ทั้งเขาและครอบครัวเขาครับ”

“ผมยังใส่แหวนที่เขาเคยให้ผม ผมก็อยากใส่ไว้ ก็ใส่อยู่ตลอดครับ ก็ถอดเวลาอาบน้ำครับ คนเราผมมองว่าเวลาที่เราเลิกกันแรกๆ มันอาจจะมีอารมณ์ที่มันโกรธพอมันถอยห่างกันออกมานานๆ แล้วมันคิดถึงความรู้สึกดีๆ ที่ให้กัน ที่ๆ ยังเคยไปด้วยกัน ก็ควรเก็บตรงนั้นไว้ ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่เหรอไม่รู้ซิครับ ผมไม่ใช่คนที่ประเภทสาดโคลน”

ยันเรื่องราวทุกอย่างไม่เกี่ยวกับ “มิว” และ “โบว์” ย้ำทั้งสองคนแค่เพื่อนเท่านั้น

“เรื่องมิวนี้ตัดไปเลยมันไม่ใช่ประเด็น อย่ามาทำให้ประเด็นครับ โบว์นี่ตัดไปได้เลยอย่ามาทำให้เป็นประเด็นเพราะผมไม่ยุ่งกับสองคนนี้ สองคนนี้เป็นในแค่ฐานะเพื่อน วันนั้นไปไหว้พระไปไหว้จริงๆ ครั้งแรกที่ถามผม ผมก็บอกตรงๆ ว่าผมไปไหว้ก็น่าจะจบได้แล้ว คนไหนที่คิดว่าจะคบเป็นแฟนเดี๋ยวจะมาบอกครับ สองคนนั้นไม่ใช่คนที่ผมจะคบเป็นแฟน ก็ไม่ได้มีอะไรตื้นลึกหนาบางไปมากกว่าเพื่อนที่ร่วมไปไหว้พระเท่านั้นเอง ตอนนี้ผมไม่ทราบเรื่องตอนนี้ชีวิตใครชีวิตมันอยู่แล้ว ผมไม่ได้สนิทถึงขั้นมานั่งตามเรื่องอัพเดทตลอดเวลาเขาจะไปคบใคร”

ก่อนทิ้งท้ายว่าความสัมพันธ์ของตนและสาวพลอยนั้น คงกลับไปคืนดีกันไมได้ เนื่องจากตนคิดอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนกรณีพลอยพูดว่าเจ็บแล้วจำ เจ้าตัวบอกเป็นใครก็คงคิดแบบนั้น
“ณ ตอนนี้ที่ผ่านมา ผมคงไม่คิดแล้วครับ เพราะผมเชื่อว่าถ้าคิดคนเดียวไปมันก็ไม่มีประโยชน์ มันก็เหนื่อยเปล่าๆ ผมไม่ได้หยอดครับแต่ผมรู้สึกดีกับเขาอยู่ครับ แล้วผมก็ไม่ใช่เป็นคนมาหักหาน มาสาดเรื่องเสียๆ หายๆ ใส่คนอื่นเรื่องอะไรพวกนี้มันต้องคุยกันสองคน มันไม่จำเป็นต้องมาแสดงอารมณ์มาทำอะไรผ่านตรงนี้ผมว่า ส่วนเรื่องเจ็บแล้วจำ เป็นใครๆก็เจ็บๆ แล้วก็จำครับ ใช่มั้ยครับ”




กำลังโหลดความคิดเห็น