ปิดฉากอภิปรายไม่ไว้วางใจ"นายกฯ-7รมต." ปชป.ตบหน้า"สมพงษ์" ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ก็ไม่ควรมานั่ง รมว.ยุติธรรม เพราะอันตราย มีโอกาสถูกขรก.จูงจมูก จวก"เหลิม" โง่เรื่องงาน แต่ขยันหาเรื่อง เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก นัดโหวตชี้ชะตาวันนี้ "ปู่ชัย"ไม่ห่วงรัฐบาลล้ม คุยมีเสียงเหลือเฟือ จับตาพรรคร่วมมีโหวตสวน "บรรหาร" ส่งสัญญาณปรับครม. เขี่ยรัฐมนตรีที่มีปัญหา ด้าน "สุเทพ" แนะโละทั้ง 7 เก้าอี้ที่ถูกจับขึ้นเขียง หากต้องการต่ออายุรัฐบาล
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า มีความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดิน ใช้กฎหมายในอำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ขาดคุณธรรม และจริยธรรม จึงไม่สามารถปล่อยให้ใช้อำนาจบริหารต่อไปได้
ทั้งนี้ นายพีรพันธุ์ ได้หยิบยกพฤติกรรมการโยกย้ายอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุนัย มโนมัยอุดม ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) อย่างมีเงื่อนงำ เนื่องจากมีการสั่งโยกย้ายอย่างรวดเร็ว ภายใน 10 วัน ทั้งที่มีเวลาตามกฎหมายถึง 30 วัน ซึ่งทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่า เป็นการโยกย้ายเพื่อเอื้อประโยชน์ทางคดีให้กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในคดีปกปิดโครงสร้างหุ้น บ.เอสซีแอสเสท แต่การตั้งคณะกรรมการ ปปท. กลับมีความล่าช้า จนขัดต่อรัฐธรรมนูญกำหนด แต่ท่านบอกว่าไม่มีบทลงโทษ ซึ่งถือว่าเป็นสองมาตรฐาน และยังมีการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ด้วยการขึ้นเงินเดือนให้กับ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ไปรักษาการณ์อธิบดี ดีเอสไอ เพียงไม่นานและยังมีการปรับขั้นเงินเดือนให้อีกครั้ง หลังจากที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยใช้เวลาเพียง 14 วัน แต่กลับปรับเงินเดือนถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังมีการตั้งอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน นายไสว พราหมณี ร่วมเป็นหนึ่งใน 6 คณะ ปปท.ด้วย
นอกจากนี้ ทันทีที่พล.ต.อ.ทวี ได้เป็นอธิบดีก็บุกไป กกต. ดำเนินคดีกับ กกต.เกี่ยวกับการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความไม่โปร่งใส แต่ในที่สุดกลับพบว่าไม่อยู่ในอำนาจของ ดีเอสไอ เพราะวงเงินการพิมพ์บัตรต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่ทำไมไม่มีการตรวจสอบตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้คิดได้ว่ามีการเมืองเข้าไปแทรกแซงดีเอสไอ หรือไม่
"ล่าสุดท่านให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีสินบน 2 ล้านบาท ที่ทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกคำพิพากษาให้ติดคุก 6 เดือนว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นการชี้นำ ไม่เหมาะสมเพราะอยู่ในตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ควรที่จะมีท่าทีที่เป็นกลาง ในการแสดงความเห็นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม"
"สมพงษ์"ยอมรับไม่ค่อยรู้ กม.
ด้าน นายสมพงษ์ ชี้แจง การโยกย้ายนายสุนัย เพราะเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมที่ควรจะไปวางแผนงานต่างๆให้กับสำนักงาน ปปท. และก่อนที่จะแต่งตั้ง ก็ได้หารือไปยังนายจรัล ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง
"ผมยอมรับว่ามีความรู้ทางด้านกฎหมายน้อย แต่ทุกเรื่องที่ทำจะได้สอบถามนาย จรัล ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และยืนยันว่า การโยกย้ายดังกล่าวไม่กระทบต่อคดีเอสซีแอสเสท เนื่องจากพ้นความรับผิดชอบของดีเอสไอไปแล้ว ส่วนกรณีการแต่งตั้ง นายไสว ก็เป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่มีเจตนาชี้นำกรณีให้สัมภาษณ์คดีสินบนสองล้านบาท เพียงแต่พูดไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่เกี่ยวข้องเท่านั้น" นายสมพงษ์กล่าว
การชี้แจงดังกล่าว ทำให้นายพีรพันธุ์ ลุกขึ้นอภิปรายอีกครั้ง ระบุว่า คนเป็นรมว.ยุติธรรม จะต้องมีความรู้ทางกฎหมาย ถ้ามีความรู้น้อยก็ต้องพยายามเรียนรู้ให้มีความรู้ไม่ได้ เพราะการไปเชื่อข้าราชการเพียงอย่างเดียว จะรู้ได้อย่างไรว่ามีใครใช้ให้ท่านเป็นสะพานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
จวก"เหลิม"ใช้อำนาจ 2 มาตรฐาน
จากนั้นเป็นการอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย โดยนายวิรัช กัลยาสิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายถึงการใช้อำนาจหน้าที่สองมาตรฐาน บริหารราชการบกพร่อง ล้มเหลว ขาดคุณธรรมจริยธรรม ใช้อำนาจบีบบังคับข้าราชการให้มาเป็นพวก เช่น กรณีการสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิดเคเบิลทีวี และกรณีการสั่งให้กรมที่ดิน เข้าไปดำเนินการกับที่ดินของ บ.ศรีสุบรรณฟาร์ม ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่วม ถือหุ้นอยู่ แต่กลับไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบกรณี ที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ของนายชัย ชิดชอบ และนาย เนวิน ชิดชอบ เป็นเจ้าของ ทั้งที่มีความผิดชัดเจน แต่ไม่มีการเข้าไปเร่งดำเนินการทันที
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ลุกขึ้นชี้แจงทันควันว่า ตนไม่ได้สั่งผู้ว่าฯ ให้ตัดสัญญาณ เคเบิ้ลทีวี แต่เป็นเรื่องที่พวกข้างนอกไปบิดเบือน คนฟังนิดเดียวก็ตื่นเต้น ตนได้ประชุมกับผู้ว่าฯ โดยผ่านคอนเฟอเรนส์ ว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน กรณีที่มีไอ้พวกบ้าระห่ำ ออกมาด่าโคตรพ่อ โคตรแม่ สัตว์เลื้อยคลานเต็มเวที และถ่ายทอดสดผ่านสถานีเอเอสทีวี ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ฟรีทีวีทั่วไปไม่กล้าทำ เพราะเขารู้ว่ามันผิด ทางครม.ได้สั่งให้ตนเข้าไปดูว่า ทำผิดตาม กม.อาญา รวมถึงเว็บไซต์ ต่างๆ ทั้งหมด 29 แห่ง ที่ตนใช้เวลาเพียง 72 ชั่วโมงจัดการได้หมด กรณี เอเอสทีวี มีการปลุกระดม ผิดกฎหมายอาญา มีโทษ 6 เดือนถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
"รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ละเมิดอำนาจ อวดเก่งกาจ และผมไม่มีวันที่จะทำผิดกฎหมาย พวกพันธมิตรฯ บอกตัดน้ำตัดไฟ ล้มอำนาจรัฐบาล อย่าเสียภาษี เป็นการกระทำความผิดยุยงส่งเสริมล้มอำนาจรัฐ อำนาจบริหารที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าพันธมิตรฯ เห็นข้อมูลทุจริตต้องเอาข้อมูลให้ฝ่ายค้าน แต่กลับตั้งเวที แล้วขับไล่ เคเบิ้ลทีวีเอาไปถ่ายทอดจะเข้าข่ายผู้โฆษณาประกาศแก่บุคคลผู้ใดให้กระทำผิด ผมประชุมผู้ว่าฯ ให้ไปเจรจากับผู้ประกอบการว่าสิ่งที่ทำผิด กม. ถ่ายทอดได้ แต่เมื่อมีการยุยงส่งเสริมให้กระทำผิด เคเบิ้ลทีวีอ้างไม่ได้เอามาจากแม่ข่าย ผมสั่งปิดเคเบิ้ลทีวี มันปิดไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็ดำเนินคดี ถ่ายทอดต่อได้ จับเสร็จรุ่งเช้าทำอีกก็รวบรวมหลักฐาน ก็ต้องจับไปเรื่อยๆ เหมือนเอเอสทีวี ที่ได้รับความคุ้มครองจากศาลปกครอง รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เรื่องนี้เราใช้กฎหมาย.เป็นตัวบังคับดำเนินการ หลักนิติรัฐ นิติธรรม ผมมั่นใจสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องถูกต้องไม่ผิดกม.ไม่ได้ปิดเคเบิ้ล ไม่ได้ข่มขู่ กลั่นแกล้ง ถ้าไม่ดำเนินการตามคำแนะนำเราก็ดำเนินคดี"
ส่วนกรณี บ.ศรีสุบรรณ เป็นเพราะมีคนมาร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นการทับที่สาธารณะที่อยู่ในอำนาจของมหาดไทย เป็นการเอกสารสิทธิ์ออกโดยมิชอบ ตนไม่ได้บอกว่าบ.ศรีสุบรรณฟาร์มไปบุกรุกหรือยึดที่หลวง ถ้ามีเอกสารหลักฐานว่าตนเป็นคนไปสั่งการมีลายเซ็นมท.1 ซักลายเซ็นเดียว สามารถเตะตนจากนี่ไปสงขลากลับมาอีกทีไปสามจังหวัดภาคใต้ได้ ส่วนที่ดินเขากระโดง ไม่ใช่เรื่องมหาดไทย แต่เป็นเรื่องของการรถไฟ และได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว แต่การรถไฟบอกว่าไม่สามารถจำได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟหรือไม่
โง่-ไม่ขยัน เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลุกขึ้นอภิปรายกล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องการจะอภิปรายร.ต.อ.เฉลิม เพราะ มีตำแหน่งเป็น รมว.มหาดไทย แต่ไม่ทำงานถือว่าบกพร่องเปลืองเงินหลวง เลี้ยงเปลืองข้าวสุก และ ไปทำในเรื่องที่ไม่ควร โกหกต่อหน้าสภา ว่าสามารถใน 72 ชม สามารถปิดเวปไซต์ได้ ไม่เป็นความจริง ที่จริงปิดไปแค่1 เวปไซด์ ส่วน กรณีที่พูดถึงที่ดินของลูกชายตน ก็ไม่จริงเป็นการโกหก ที่อ้างว่าทำตามหน้าที่สั่ง เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดำเนินการพวกบุรุกตามสาธารณะต่างๆ เพราะ เริ่มต้นร.ต.อ.เฉลิม ประกาศก่อนว่าจะเล่นงานบริษัทตน เพราะ ถูกลูกชายตนฟ้องให้ถอดถอนออกตำแหน่ง เวลานี้หลักฐานอยู่ในมือของทนายตน ชื่อ นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ที่เอานายกฯคิดคุกมาแล้ว และรมว.มหาดไทยจองที่ไว้แล้ว และตนยังมีหลักฐานจับโกหกว่าไม่เคยพูดว่าบริษัทบุกรุกที่สาธารณะ ซึ่งตนจะนำไปไว้เป็นหลักฐานในชั้นศาลแล้ว
"รมว.มหาดไม่รู้เรื่องงานในกระทรวง โง่แล้วไม่ขยัน วันๆ ทำเรื่องอื่น อวดดีรู้หมดทุกอย่าง และทำแต่เรื่องผิดๆ ผมเห็นเป็นข้อบกพร่องที่อดัยไม่ได้ อย่าว่าแต่อยู่ 4 เดือนเลย แค่เดือนเดียวก็ไม่ได้เพราะมทำงาน" นายสุเทพ กล่าว
โหวตวันนี้ "ปู่ชัย"คุยเสียงเหลือเฟือ
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า หลังการอภิปรายเสร็จ จะมีการลงมติในเวลา 09.30 น. วันนี้ (27 มิ.ย. ) ซึ่งคาดว่าการลงคะแนนจะไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายรัฐบาลมีเสียง 303 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมีเสียง 164 เสียง และช่วงลงมติ ตนคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ ทำหน้าที่ประธานวินิจฉัยชี้ขาด แต่คงต้องใช้สิทธิ์ของส.ส. ลงมติด้วย
ทั้งนี้ หลังการลงคะแนนไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา 35 คณะก่อน จากนั้นจะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวว่า หากไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานฯ ในช่วงที่มีการลงคะแนน ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นทั้งประธาน รองประธานฯ และการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หากว่าตนเองไม่ได้นั่งบัลลังก์ ก็จะใช้สิทธิการเป็น ส.ส. ลงมติไม่ไว้วางใจ หรือไว้วางใจ ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรม
ส่วนกรณีเขาพระวิหาร ตนไม่อยากวิจารณ์มาก แต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. ก็ได้ทำการยืนยันแล้วว่า ไทยไม่ได้เสียพื้นที่ และดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว หรือสิทธิใดๆ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เฉพาะประเด็นนี้ ตนจะยกมือไว้วางใจให้นายนพดล
"ป้าหญิง"ส่งสัญญาณโหวตไล่
ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการโหวตไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ว่า ส่วนตัวจะพยายามที่สุด ที่จะไม่ให้คนกรุงเทพฯ ผิดหวัง เพราะตนมาจากคนกรุงเทพฯ แต่จะลงมติอย่างไรนั้น ก็ขอให้รอดูกันไป ซึ่งในส่วนของพรรคจะมีการหารือกันถึงการลงมติในวันนี้
"หัวหน้าพรรคได้เรียกประชุมวันนี้ ซึ่งหากเรามีเหตุผลที่ดี ท่านหัวหน้าพรรคก็ยอม เพราะท่านก็รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับตัวดิฉันนั้น มีคำตอบอยู่ในใจลึกๆ แล้ว แต่ขอสงวนไว้ก่อน แต่ก็เหมือนกับที่พูดไว้ก่อนหน้านี้" ม.ร.ว.กิติวัฒนา กล่าว
สำหรับ ส.ส.ท่านอื่นในพรรคจะมีความคิดเห็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครคิดอย่างไรบ้าง แต่ขอยืนยันว่าไม่มีใครกดดันในการลงมติ อย่างไรก็ตาม ในการลงมติอยากให้สมาชิกพรรคลงมติไปในแนวทางเดียวกัน แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโหวตในส่วนของนายกฯ ตอนนี้มีคำตอบอยู่ในใจหรือยัง ม.ร.ว.กิติวัฒนา กล่าวว่า ขอฟังการชี้แจงสรุปอีกที ทั้งนี้ เท่าที่ฟังการชี้แจงของรัฐบาลในภาพรวม ก็ถามกันไป ตอบกันมา ก็ดีสนุกดี
พปช.เชื่อพรรคร่วมโหวตตามใบสั่ง
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สมาชิกพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค มีท่าทีพอใจต่อการชี้แจงเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีการระบุถึงเอกสาร และหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นในการลงมติวันนี้ เชื่อว่าจะเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความเป็นเอกภาพและลงมติไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนท่าทีของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลบางคน อาจมีความคิดเห็นต่างนั้น เชื่อว่าพรรคจะสร้างความเป็นเอกภาพ ในการกำกับทิศทางของการลงมติเอง
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และโฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า บรรดาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ต้องการให้เปลี่ยนตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ และนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ในการปรับครม. หลังการอภิปรายฯ ว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และในการประชุมหารือของ คณะกรรมการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ก็เป็นเพียงการวางแนวทางการทำงานยุทธศาสตร์ ด้านพลังงาน และ ยุทธศาสตร์ข้าว ไม่ได้หารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร
"เติ้ง"ชี้ ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ ครม.
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ก่อนการลงมติ ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อประชุมฟังเหตุผลร่วมกันในเวลา 08.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) โดยส่วนตัวแล้ว ยังไม่ได้ตั้งธงในการลงมติแต่อย่างใด
ส่วนการปรับครม.นั้น ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ หากเห็นว่ามีหลายส่วนที่ควรปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และแก้ไข ส่วนการปรับ ครม.อย่างไรนั้นไม่ทราบ เพราะตนไม่ใช่คนปรับ ต้องดูผลการอภิปรายครั้งนี้ รวมทั้งตำแหน่งใน ครม.ที่วางลง เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคชาติไทยจะปรับ ครม.อย่างไรนั้น ต้องรอให้นายกฯ ถามมาก่อน
มัชฌิมาฯ ยังไม่ได้หารือเรื่องโหวต
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคมัชฌิมาธิปไตย จะไม่รับรองนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับสมาชิกในพรรคฯ ตนตั้งใจมาฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการโหวตของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ต้องถาม ส.ส.ในสภานี้ดูก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเลย
จี้นายกฯ ปรับ 7 รมต.ที่ขึ้นเขียง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโหวตในวันนี้ว่า ฝ่ายค้านไม่คาดหวังว่าจะได้เกิน 164 เสียง เพราะพรรคร่วมรัฐบาลคงพูดจาล็อกกันไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามีบางเรื่องที่ท้าทายต่อสำนึกของส.ส. ซึ่งต้องดูว่าท่านพวกนั้นจะโหวตอย่างไร
"แต่ถ้ากับฝ่ายค้านเรา ถือว่าเราได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ก็ได้สะท้อนให้คนทั้งประเทศเห็นว่า รัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองมา บกพร่องทำงานไม่ดี แต่ถ้านายกรัฐมนตรี ต้องการอยู่ต่อ ก็ควรปรับครม. เอาคนที่ดูบกพร่องมากๆออกไป แล้วเอาคนที่พอได้เข้ามา ก็จะขยายเวลาของรัฐบาลออกไปได้ ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม นี่แน่นอน และคนที่เราอภิปราย เป็นคนที่บกพร่องทั้งสิ้น ซึ่งความเป็นจริงคนเหล่านี้เป็นสายตรงอดีตนายกฯ ฉะนั้นถือว่ายาก เพราะนายสมัคร ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะชี้ขาด ซึ่งพวกเรารู้กันดี แต่ว่าความเข้าใจในการทำงาน กับความคิดของพวกเรา และความเป็นจริงในพรรคพลังประชาชน ต้องแยกออกจากกัน" นายสุเทพ กล่าว
ตร.หวั่นพันธมิตรฯ ล้อมสภา
วานนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณรัฐสภา ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางมาปิดล้อมรัฐสภา อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อัศวิน เชื่อว่าจะไม่มีอะไร เพราะได้ระดมกำลังตำรวจจากค่ายนเรศวร หน่วยพลร่ม และหน่วยอรินทราช หน่วยละ 2 กองร้อยมารักษาความปลอดภัย และได้เตรียมอาวุธพิเศษเอาไว้แล้ว จะไม่ยอมให้มีการบุกเข้ารัฐสภาแน่ แต่อาจจะอลุ้มอล่วยให้มีการชุมนุมได้บริเวณพื้นผิวจราจรด้านนอกรัฐสภา แต่คงมีการกำหนดระยะเวลาในการชุมนุม เพราะเป็นเขตพระราชฐาน และเชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไม่ก่อความวุ่นวาย แต่ถ้าบุกสภาฯจริง ก็จะถูกดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่รัฐสภา แต่จะยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า มีความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดิน ใช้กฎหมายในอำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ขาดคุณธรรม และจริยธรรม จึงไม่สามารถปล่อยให้ใช้อำนาจบริหารต่อไปได้
ทั้งนี้ นายพีรพันธุ์ ได้หยิบยกพฤติกรรมการโยกย้ายอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุนัย มโนมัยอุดม ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) อย่างมีเงื่อนงำ เนื่องจากมีการสั่งโยกย้ายอย่างรวดเร็ว ภายใน 10 วัน ทั้งที่มีเวลาตามกฎหมายถึง 30 วัน ซึ่งทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่า เป็นการโยกย้ายเพื่อเอื้อประโยชน์ทางคดีให้กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในคดีปกปิดโครงสร้างหุ้น บ.เอสซีแอสเสท แต่การตั้งคณะกรรมการ ปปท. กลับมีความล่าช้า จนขัดต่อรัฐธรรมนูญกำหนด แต่ท่านบอกว่าไม่มีบทลงโทษ ซึ่งถือว่าเป็นสองมาตรฐาน และยังมีการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ด้วยการขึ้นเงินเดือนให้กับ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ไปรักษาการณ์อธิบดี ดีเอสไอ เพียงไม่นานและยังมีการปรับขั้นเงินเดือนให้อีกครั้ง หลังจากที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยใช้เวลาเพียง 14 วัน แต่กลับปรับเงินเดือนถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังมีการตั้งอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน นายไสว พราหมณี ร่วมเป็นหนึ่งใน 6 คณะ ปปท.ด้วย
นอกจากนี้ ทันทีที่พล.ต.อ.ทวี ได้เป็นอธิบดีก็บุกไป กกต. ดำเนินคดีกับ กกต.เกี่ยวกับการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความไม่โปร่งใส แต่ในที่สุดกลับพบว่าไม่อยู่ในอำนาจของ ดีเอสไอ เพราะวงเงินการพิมพ์บัตรต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่ทำไมไม่มีการตรวจสอบตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้คิดได้ว่ามีการเมืองเข้าไปแทรกแซงดีเอสไอ หรือไม่
"ล่าสุดท่านให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีสินบน 2 ล้านบาท ที่ทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกคำพิพากษาให้ติดคุก 6 เดือนว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นการชี้นำ ไม่เหมาะสมเพราะอยู่ในตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ควรที่จะมีท่าทีที่เป็นกลาง ในการแสดงความเห็นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม"
"สมพงษ์"ยอมรับไม่ค่อยรู้ กม.
ด้าน นายสมพงษ์ ชี้แจง การโยกย้ายนายสุนัย เพราะเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมที่ควรจะไปวางแผนงานต่างๆให้กับสำนักงาน ปปท. และก่อนที่จะแต่งตั้ง ก็ได้หารือไปยังนายจรัล ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง
"ผมยอมรับว่ามีความรู้ทางด้านกฎหมายน้อย แต่ทุกเรื่องที่ทำจะได้สอบถามนาย จรัล ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และยืนยันว่า การโยกย้ายดังกล่าวไม่กระทบต่อคดีเอสซีแอสเสท เนื่องจากพ้นความรับผิดชอบของดีเอสไอไปแล้ว ส่วนกรณีการแต่งตั้ง นายไสว ก็เป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่มีเจตนาชี้นำกรณีให้สัมภาษณ์คดีสินบนสองล้านบาท เพียงแต่พูดไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่เกี่ยวข้องเท่านั้น" นายสมพงษ์กล่าว
การชี้แจงดังกล่าว ทำให้นายพีรพันธุ์ ลุกขึ้นอภิปรายอีกครั้ง ระบุว่า คนเป็นรมว.ยุติธรรม จะต้องมีความรู้ทางกฎหมาย ถ้ามีความรู้น้อยก็ต้องพยายามเรียนรู้ให้มีความรู้ไม่ได้ เพราะการไปเชื่อข้าราชการเพียงอย่างเดียว จะรู้ได้อย่างไรว่ามีใครใช้ให้ท่านเป็นสะพานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
จวก"เหลิม"ใช้อำนาจ 2 มาตรฐาน
จากนั้นเป็นการอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย โดยนายวิรัช กัลยาสิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายถึงการใช้อำนาจหน้าที่สองมาตรฐาน บริหารราชการบกพร่อง ล้มเหลว ขาดคุณธรรมจริยธรรม ใช้อำนาจบีบบังคับข้าราชการให้มาเป็นพวก เช่น กรณีการสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิดเคเบิลทีวี และกรณีการสั่งให้กรมที่ดิน เข้าไปดำเนินการกับที่ดินของ บ.ศรีสุบรรณฟาร์ม ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่วม ถือหุ้นอยู่ แต่กลับไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบกรณี ที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ของนายชัย ชิดชอบ และนาย เนวิน ชิดชอบ เป็นเจ้าของ ทั้งที่มีความผิดชัดเจน แต่ไม่มีการเข้าไปเร่งดำเนินการทันที
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ลุกขึ้นชี้แจงทันควันว่า ตนไม่ได้สั่งผู้ว่าฯ ให้ตัดสัญญาณ เคเบิ้ลทีวี แต่เป็นเรื่องที่พวกข้างนอกไปบิดเบือน คนฟังนิดเดียวก็ตื่นเต้น ตนได้ประชุมกับผู้ว่าฯ โดยผ่านคอนเฟอเรนส์ ว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน กรณีที่มีไอ้พวกบ้าระห่ำ ออกมาด่าโคตรพ่อ โคตรแม่ สัตว์เลื้อยคลานเต็มเวที และถ่ายทอดสดผ่านสถานีเอเอสทีวี ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ฟรีทีวีทั่วไปไม่กล้าทำ เพราะเขารู้ว่ามันผิด ทางครม.ได้สั่งให้ตนเข้าไปดูว่า ทำผิดตาม กม.อาญา รวมถึงเว็บไซต์ ต่างๆ ทั้งหมด 29 แห่ง ที่ตนใช้เวลาเพียง 72 ชั่วโมงจัดการได้หมด กรณี เอเอสทีวี มีการปลุกระดม ผิดกฎหมายอาญา มีโทษ 6 เดือนถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
"รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ละเมิดอำนาจ อวดเก่งกาจ และผมไม่มีวันที่จะทำผิดกฎหมาย พวกพันธมิตรฯ บอกตัดน้ำตัดไฟ ล้มอำนาจรัฐบาล อย่าเสียภาษี เป็นการกระทำความผิดยุยงส่งเสริมล้มอำนาจรัฐ อำนาจบริหารที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าพันธมิตรฯ เห็นข้อมูลทุจริตต้องเอาข้อมูลให้ฝ่ายค้าน แต่กลับตั้งเวที แล้วขับไล่ เคเบิ้ลทีวีเอาไปถ่ายทอดจะเข้าข่ายผู้โฆษณาประกาศแก่บุคคลผู้ใดให้กระทำผิด ผมประชุมผู้ว่าฯ ให้ไปเจรจากับผู้ประกอบการว่าสิ่งที่ทำผิด กม. ถ่ายทอดได้ แต่เมื่อมีการยุยงส่งเสริมให้กระทำผิด เคเบิ้ลทีวีอ้างไม่ได้เอามาจากแม่ข่าย ผมสั่งปิดเคเบิ้ลทีวี มันปิดไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็ดำเนินคดี ถ่ายทอดต่อได้ จับเสร็จรุ่งเช้าทำอีกก็รวบรวมหลักฐาน ก็ต้องจับไปเรื่อยๆ เหมือนเอเอสทีวี ที่ได้รับความคุ้มครองจากศาลปกครอง รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เรื่องนี้เราใช้กฎหมาย.เป็นตัวบังคับดำเนินการ หลักนิติรัฐ นิติธรรม ผมมั่นใจสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องถูกต้องไม่ผิดกม.ไม่ได้ปิดเคเบิ้ล ไม่ได้ข่มขู่ กลั่นแกล้ง ถ้าไม่ดำเนินการตามคำแนะนำเราก็ดำเนินคดี"
ส่วนกรณี บ.ศรีสุบรรณ เป็นเพราะมีคนมาร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นการทับที่สาธารณะที่อยู่ในอำนาจของมหาดไทย เป็นการเอกสารสิทธิ์ออกโดยมิชอบ ตนไม่ได้บอกว่าบ.ศรีสุบรรณฟาร์มไปบุกรุกหรือยึดที่หลวง ถ้ามีเอกสารหลักฐานว่าตนเป็นคนไปสั่งการมีลายเซ็นมท.1 ซักลายเซ็นเดียว สามารถเตะตนจากนี่ไปสงขลากลับมาอีกทีไปสามจังหวัดภาคใต้ได้ ส่วนที่ดินเขากระโดง ไม่ใช่เรื่องมหาดไทย แต่เป็นเรื่องของการรถไฟ และได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว แต่การรถไฟบอกว่าไม่สามารถจำได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟหรือไม่
โง่-ไม่ขยัน เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลุกขึ้นอภิปรายกล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องการจะอภิปรายร.ต.อ.เฉลิม เพราะ มีตำแหน่งเป็น รมว.มหาดไทย แต่ไม่ทำงานถือว่าบกพร่องเปลืองเงินหลวง เลี้ยงเปลืองข้าวสุก และ ไปทำในเรื่องที่ไม่ควร โกหกต่อหน้าสภา ว่าสามารถใน 72 ชม สามารถปิดเวปไซต์ได้ ไม่เป็นความจริง ที่จริงปิดไปแค่1 เวปไซด์ ส่วน กรณีที่พูดถึงที่ดินของลูกชายตน ก็ไม่จริงเป็นการโกหก ที่อ้างว่าทำตามหน้าที่สั่ง เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดำเนินการพวกบุรุกตามสาธารณะต่างๆ เพราะ เริ่มต้นร.ต.อ.เฉลิม ประกาศก่อนว่าจะเล่นงานบริษัทตน เพราะ ถูกลูกชายตนฟ้องให้ถอดถอนออกตำแหน่ง เวลานี้หลักฐานอยู่ในมือของทนายตน ชื่อ นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ที่เอานายกฯคิดคุกมาแล้ว และรมว.มหาดไทยจองที่ไว้แล้ว และตนยังมีหลักฐานจับโกหกว่าไม่เคยพูดว่าบริษัทบุกรุกที่สาธารณะ ซึ่งตนจะนำไปไว้เป็นหลักฐานในชั้นศาลแล้ว
"รมว.มหาดไม่รู้เรื่องงานในกระทรวง โง่แล้วไม่ขยัน วันๆ ทำเรื่องอื่น อวดดีรู้หมดทุกอย่าง และทำแต่เรื่องผิดๆ ผมเห็นเป็นข้อบกพร่องที่อดัยไม่ได้ อย่าว่าแต่อยู่ 4 เดือนเลย แค่เดือนเดียวก็ไม่ได้เพราะมทำงาน" นายสุเทพ กล่าว
โหวตวันนี้ "ปู่ชัย"คุยเสียงเหลือเฟือ
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า หลังการอภิปรายเสร็จ จะมีการลงมติในเวลา 09.30 น. วันนี้ (27 มิ.ย. ) ซึ่งคาดว่าการลงคะแนนจะไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายรัฐบาลมีเสียง 303 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมีเสียง 164 เสียง และช่วงลงมติ ตนคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ ทำหน้าที่ประธานวินิจฉัยชี้ขาด แต่คงต้องใช้สิทธิ์ของส.ส. ลงมติด้วย
ทั้งนี้ หลังการลงคะแนนไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา 35 คณะก่อน จากนั้นจะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวว่า หากไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานฯ ในช่วงที่มีการลงคะแนน ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นทั้งประธาน รองประธานฯ และการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หากว่าตนเองไม่ได้นั่งบัลลังก์ ก็จะใช้สิทธิการเป็น ส.ส. ลงมติไม่ไว้วางใจ หรือไว้วางใจ ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรม
ส่วนกรณีเขาพระวิหาร ตนไม่อยากวิจารณ์มาก แต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. ก็ได้ทำการยืนยันแล้วว่า ไทยไม่ได้เสียพื้นที่ และดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว หรือสิทธิใดๆ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เฉพาะประเด็นนี้ ตนจะยกมือไว้วางใจให้นายนพดล
"ป้าหญิง"ส่งสัญญาณโหวตไล่
ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการโหวตไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ว่า ส่วนตัวจะพยายามที่สุด ที่จะไม่ให้คนกรุงเทพฯ ผิดหวัง เพราะตนมาจากคนกรุงเทพฯ แต่จะลงมติอย่างไรนั้น ก็ขอให้รอดูกันไป ซึ่งในส่วนของพรรคจะมีการหารือกันถึงการลงมติในวันนี้
"หัวหน้าพรรคได้เรียกประชุมวันนี้ ซึ่งหากเรามีเหตุผลที่ดี ท่านหัวหน้าพรรคก็ยอม เพราะท่านก็รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับตัวดิฉันนั้น มีคำตอบอยู่ในใจลึกๆ แล้ว แต่ขอสงวนไว้ก่อน แต่ก็เหมือนกับที่พูดไว้ก่อนหน้านี้" ม.ร.ว.กิติวัฒนา กล่าว
สำหรับ ส.ส.ท่านอื่นในพรรคจะมีความคิดเห็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครคิดอย่างไรบ้าง แต่ขอยืนยันว่าไม่มีใครกดดันในการลงมติ อย่างไรก็ตาม ในการลงมติอยากให้สมาชิกพรรคลงมติไปในแนวทางเดียวกัน แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโหวตในส่วนของนายกฯ ตอนนี้มีคำตอบอยู่ในใจหรือยัง ม.ร.ว.กิติวัฒนา กล่าวว่า ขอฟังการชี้แจงสรุปอีกที ทั้งนี้ เท่าที่ฟังการชี้แจงของรัฐบาลในภาพรวม ก็ถามกันไป ตอบกันมา ก็ดีสนุกดี
พปช.เชื่อพรรคร่วมโหวตตามใบสั่ง
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สมาชิกพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค มีท่าทีพอใจต่อการชี้แจงเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีการระบุถึงเอกสาร และหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นในการลงมติวันนี้ เชื่อว่าจะเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความเป็นเอกภาพและลงมติไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนท่าทีของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลบางคน อาจมีความคิดเห็นต่างนั้น เชื่อว่าพรรคจะสร้างความเป็นเอกภาพ ในการกำกับทิศทางของการลงมติเอง
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และโฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า บรรดาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ต้องการให้เปลี่ยนตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ และนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ในการปรับครม. หลังการอภิปรายฯ ว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และในการประชุมหารือของ คณะกรรมการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ก็เป็นเพียงการวางแนวทางการทำงานยุทธศาสตร์ ด้านพลังงาน และ ยุทธศาสตร์ข้าว ไม่ได้หารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร
"เติ้ง"ชี้ ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ ครม.
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ก่อนการลงมติ ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อประชุมฟังเหตุผลร่วมกันในเวลา 08.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) โดยส่วนตัวแล้ว ยังไม่ได้ตั้งธงในการลงมติแต่อย่างใด
ส่วนการปรับครม.นั้น ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ หากเห็นว่ามีหลายส่วนที่ควรปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และแก้ไข ส่วนการปรับ ครม.อย่างไรนั้นไม่ทราบ เพราะตนไม่ใช่คนปรับ ต้องดูผลการอภิปรายครั้งนี้ รวมทั้งตำแหน่งใน ครม.ที่วางลง เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคชาติไทยจะปรับ ครม.อย่างไรนั้น ต้องรอให้นายกฯ ถามมาก่อน
มัชฌิมาฯ ยังไม่ได้หารือเรื่องโหวต
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคมัชฌิมาธิปไตย จะไม่รับรองนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับสมาชิกในพรรคฯ ตนตั้งใจมาฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการโหวตของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ต้องถาม ส.ส.ในสภานี้ดูก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเลย
จี้นายกฯ ปรับ 7 รมต.ที่ขึ้นเขียง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโหวตในวันนี้ว่า ฝ่ายค้านไม่คาดหวังว่าจะได้เกิน 164 เสียง เพราะพรรคร่วมรัฐบาลคงพูดจาล็อกกันไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามีบางเรื่องที่ท้าทายต่อสำนึกของส.ส. ซึ่งต้องดูว่าท่านพวกนั้นจะโหวตอย่างไร
"แต่ถ้ากับฝ่ายค้านเรา ถือว่าเราได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ก็ได้สะท้อนให้คนทั้งประเทศเห็นว่า รัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองมา บกพร่องทำงานไม่ดี แต่ถ้านายกรัฐมนตรี ต้องการอยู่ต่อ ก็ควรปรับครม. เอาคนที่ดูบกพร่องมากๆออกไป แล้วเอาคนที่พอได้เข้ามา ก็จะขยายเวลาของรัฐบาลออกไปได้ ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม นี่แน่นอน และคนที่เราอภิปราย เป็นคนที่บกพร่องทั้งสิ้น ซึ่งความเป็นจริงคนเหล่านี้เป็นสายตรงอดีตนายกฯ ฉะนั้นถือว่ายาก เพราะนายสมัคร ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะชี้ขาด ซึ่งพวกเรารู้กันดี แต่ว่าความเข้าใจในการทำงาน กับความคิดของพวกเรา และความเป็นจริงในพรรคพลังประชาชน ต้องแยกออกจากกัน" นายสุเทพ กล่าว
ตร.หวั่นพันธมิตรฯ ล้อมสภา
วานนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณรัฐสภา ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางมาปิดล้อมรัฐสภา อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อัศวิน เชื่อว่าจะไม่มีอะไร เพราะได้ระดมกำลังตำรวจจากค่ายนเรศวร หน่วยพลร่ม และหน่วยอรินทราช หน่วยละ 2 กองร้อยมารักษาความปลอดภัย และได้เตรียมอาวุธพิเศษเอาไว้แล้ว จะไม่ยอมให้มีการบุกเข้ารัฐสภาแน่ แต่อาจจะอลุ้มอล่วยให้มีการชุมนุมได้บริเวณพื้นผิวจราจรด้านนอกรัฐสภา แต่คงมีการกำหนดระยะเวลาในการชุมนุม เพราะเป็นเขตพระราชฐาน และเชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไม่ก่อความวุ่นวาย แต่ถ้าบุกสภาฯจริง ก็จะถูกดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่รัฐสภา แต่จะยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม