xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” ขาแหย่คุกไปครึ่งตัวแล้ว !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 หลายคนได้ถึงบางอ้อเสียทีหลังจากองค์คณะผู้พิพากษาของศาลฎีกาได้ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีผลสรุปชัดเจนว่าการยัดเงิน 2 ล้านบาทในถุงขนมมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาล เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาสามารถจับมือดมได้แล้วว่า เป็นทีมทนายความของ“ทักษิณ-พจมาน” ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯนั่นเอง
00 ไล่เรียงรายชื่อกันไปตั้งแต่หัวหน้าทีมทนายคือ พิชิฎ ชื่นบาน ธนา ตันศิริ รวมทั้งเสมียนคนหิ้วกระเป๋าเงิน “นายหญิง” กระทำกันเป็นทีม โดยไม่ปรานี สั่งจำคุกฐาน “ละเมิดอำนาจศาล” กราวรูด 6 เดือน แล้วยังพ่วงอาญา ติดสินบนศาลอีกคดี นี่ว่ากันระดับ “ลิ่วล้อ” ที่อ่วมอรทัยนำร่องไปก่อน
00 ส่วนระดับ “นายใหญ่-นายหญิง” ไม่ต้องไปพูดถึง ถ้าผลออกมารูปนี้ ก็น่าถือว่า “เข้าคุก” ไปครึ่งตัวแล้ว เพราะคนเหล่านี้ล้วนเป็นแขนขาสำคัญ ทั้งเรื่องคดีและเรื่องส่วนตัว ถ้าให้แจกแจงลงรายละเอียด คนอย่าง พิชิฎ ถือเป็นหัวหน้าทีมทนายความในคดีของ ทักษิณ-พจมาน หลายคดี ไม่ใช่เฉพาะคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่กำลังรอขึ้นเขียงในศาลฎีกาฯเวลานี้เท่านั้น ยังมีคดีใบแดงของ “ยุทธ ตู้เย็น” โยงใยไปถึงยุบพรรคพลังประชาชนด้วย
00 ที่สำคัญมันยังทำให้เครดิตทางสังคมของ “คนหน้าเหลี่ยม” ที่ได้เพียรพยายามทำทุกวิถีทาง หลอกต้มชาวบ้านมานานต้องมลายหายไปทันที เพราะนี่เป็นคำตัดสินของศาลฎีกา ทำให้คนอาจคิดโยงไปได้ทันทีว่า การติดสินบนครั้งนี้ “น่าจะ” เชื่อมโยงวิ่งเต้นล้มคดีที่ดินรัชดาฯ เพราะคนที่กระทำความผิดล้วนเกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น ทั้งหัวหน้าทนาย ทั้งเสมียนคนหิ้วกระเป๋านายหญิง อย่างว่า นี่แหละถึงบอกว่า “เฮียแม้ว” นอกจากติดคุกไปครึ่งตัวแล้ว ยังต้องเสียเครดิตหมดเนื้อหมดตัวก็ครานี้แหละ
00 อีกเรื่องที่อยู่ในสายตาของพี่น้องชาวบ้านร้านตลาดมาตลอดสองวันที่ผ่านมา และเชื่อว่าเกือบทุกสายตาคงต้องจับจ้องไปที่จอทีวีในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) หลังมีการต่อรองขยายเวลาซักฟอกเพิ่มอีกวัน ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะ“หน้ามืด” ยกมือให้การสนับสนุนคณะรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้าน “จับแก้ผ้า ขึงพืด” กลางสภา จนเห็นตับไตไส้พุงหมดแล้วว่ามีกี่ขด ไล่เรียงมาตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว
00 ทุกอย่างมันแจ่มแจ้ง แดงแจ๋ว่า มีการมุบมิบกันอย่างไร ส่อไปในทางขายชาติขายแผ่นดิน เพื่อแลกกับการเข้าไปทำธุรกิจพลังงาน และก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยตรงพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา
00 นอกจากนี้ยังมีประเด็นนอกสภา ที่ “เฮียตั๊บ” สนธิ ลิ้มทองกุล เปิดโปงให้เห็นถึงขบวนการปล้นชาติที่วางแผนกันมาอย่างเป็นระบบ แถมชี้ให้เห็นภาพอย่างน่าตกใจว่า กรณี “ประสาทพระวิหาร” เป็นแค่ “น้ำจิ้ม” ขายชาติเท่านั้น เพราะหากพิจารณาโดยรวมที่ไทยไฟเขียวให้พวกแขมร์ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว
00 ประเด็นสำคัญก็คือย่อมหมายความว่า ไทยจะต้องยอมรับแผนที่เขมรที่ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ขณะที่ไทยใช้ 1 ต่อ 5 หมื่นมาตลอด ทีนี้ถ้าใช้อัตรา 1 ต่อ 2 แสนจะครอบคลุมขยายวงกว้างออกไป และเมื่อลากลงทะเลพื้นที่ทับซ้อนจำนวนกว่า 40 จุดที่ยังมีปัญหา จะต้องตกเป็นของเขมรทันที หมายความว่าจะกินอาณาบริเวณจะต้องสูญเสีย “เกาะกูด” ไปด้วย มันน่าเสียวไส้พิลึก
00 คอยดูไปก็แล้วกันว่าเรื่องเลวๆ ชั่วๆ จะต้องค่อยโผล่ออกมาให้ชาวบ้านได้ “ตาสว่าง” ได้เรื่อยๆ และจะเชื่อมโยงได้ทันทีว่า ปัญหาในบ้านเมืองทุกวันนี้ล้วนมาจาก “คนหน้าเหลี่ยม” ทั้งสิ้น
00 เมื่อทุกอย่างถูกแบให้เห็นต่อหน้าแบบนี้แล้วก็อยากจะดู “น้ำหน้า” ของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลจะรู้สึกอย่างไร แต่ก็อย่างว่า ขอโทษที่ต้องบอกให้เสียความรู้สึกว่า “งาช้างไม่มีทางงอกจากปากสุนัข” เด็ดขาด ดังนั้นก็น่าจะพอเดาทางออกกันล่วงหน้าแล้วว่า ผลโหวตในสภาจะออกมาอย่างไร ไอ้ที่ทำท่าอิดออด ประเภทขอดูหลักฐานข้อมูลก่อน ก็แค่สร้างภาพหากินสองต่อเท่านั้นเอง อย่าไปคาดหวังอะไรกับพวก “เขี้ยวลากดิน” ประเภทนี้มากนัก
00 เรื่องระทึกสำคัญที่กำลังบีบคอกันจนหน้าเขียวหน้าแดงกันอยู่ในเวลานี้คือ แรง “กระเพื่อม” ภายในพรรค “พลังแม้ว” ต่างหาก เพราะกำลังมีแรงบีบจากฝ่าย “มือที่มองไม่เห็น” เค้นคอให้ “หมัก” ยุบสภาให้ได้หลังจากรัฐบาลชนะโหวตญัตติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 158 ผ่านไปแล้ว โดยหวังกันว่า เมื่อมีการล้างไพ่เลือกตั้งใหม่ ตัวเองยังกุมกลไกอำนาจรัฐอยู่ในมือ จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ สามารถสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯได้ชงัด
00 แต่เดี๋ยวก่อนครับพี่น้อง เหตุการณ์มันไม่ง่ายดายปานนั้น เพราะ “กำลังนี้” บรรดา “ขาใหญ่” ในพรรคพลังประชาชนกำลังได้เห็นฤทธิ์เดชแท้จริงของคนชื่อ สมัคร กันอีกรอบว่าจะ “ดื้อแพ่ง” ให้นานที่สุด เพราะถ้ายุบสภาวันใด นั่นหมายความว่า เป็นวาระสุดท้ายในชีวิตการเมืองของคนแก่วัย 73 ที่จับพลัดจับพลูมาเป็นผู้นำ“หุ่นเชิด” ดังนั้นต้องยื้อให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่แหละจึงเป็นสาเหตุหลายคนต้องปวดหัวกันไปตามๆกัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น