วันนี้(11 ก.ค.) พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน ครั้งที่ 4/2551 ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานได้เห็นชอบแผนการปรับปรุง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใหม่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน เป็นเวลา 10 ปี ค่าเช่าเบ็ดเสร็จ 110,160 ล้านบาท พร้อมโละรถเมล์เก่าทั้งหมด โดยค่าเช่า 10 ปี 110,160 ล้านบาท คิดจาก ค่าเช่าคันละ 5,100 บาทต่อคันต่อวัน 6,000 คัน หรือเป็นค่าเช่าเดือนละ 918 ล้านบาท ปีละ 11,016 ล้านบาท โดย ขสมก. จะเป็นผู้จัดทำร่างทีโออาร์โครงการ
ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องเป็นนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือนิติบุคคลที่ร่วมทุนระหว่างนิติบุคคลในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) หรือนิติบุคคลร่วมทำงาน (Consortium) โดยมีนิติบุคลไทยเป็น Leadfirm และเป็นเจ้าของเนื้องานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ดังนั้นเชื่อว่าที่พรรคฝ่ายค้านพยายามโจมตีว่ามีการทุจริตล๊อกสเปกจึงไม่น่าจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันรถโดยสารจะต้องมีคุณลักษณะตรตามความต้องการของ ขสมก. ใน 26 รายการ เช่น ป้ายบอกเส้นทางดิจิตอล แสดงผลด้วยจอแอลซีดีที่ควบคุมโดยพนักงาน ระบบจอภาพจีพีเอส กล้องวงจรปิดซีซีทีวี เครื่องอ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์รองรับระบบอีทริกเก็ต ภายในตกแต่งด้วยสแตนเลสหุ้มหนัง เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลซียส เป็นต้น
ขณะที่คุณสมบัติของผู้ยื่นเสนอนั้น จะเป็นรายเดียวโดยผู้ผ่านการประมูลจะเป็นผู้ไปคัดเลือกจัดหารถโดยสารทั้ง 6,000 คันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เช่น อาจจะไปหารถทั้งในอู่ในประเทศหรือต่างประเทศเพื่อจัดส่งให้รัฐบาล
“นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งดำเนินการจัดทำทีโออาร์ให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทันทีในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตามนายกฯ เห็นว่า น่าจะนำเสนอ ครม.ได้ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หากสามารถร่างทีโออาร์ได้ทัน ”
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ขณะที่ขั้นตอนในการดำเนินการได้กำหรดขอบเขตงานและจัดทำเอกสารประกวดราคา โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดร่างขอบเขตของงาน และร่างเอกสารประกวดราคา ก่อนที่คณะกรรมการฯ จะกำหนดร่าง ประกอบด้วย ความเป็นมา วัตถุประสงค์ คุณสมบัติผู้เสนอราคา แบบรูปรายการ หรือคุณลักษณะเฉพาะ ระยะเวลาดำเนินการ ระยะเวลาส่งมอบของหรืองาน และวงเงินในการจัดหา
ขณะที่การดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Auction) จะนำร่างทีโออาร์ ประกาศในเวปไซด์ขององค์การและกรมบัญชีกลาง เพื่อทำการประชาพิจารณ์และปรับปรุงแก้ไขถึงที่สุดรวม 2 ครั้ง และนำเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การให้ความเห็นชอบ
ในส่วนของราคาตั๋วโดยสาร อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากราคา 15 บาทตลอดสายตามที่ขสมก.เสนอ ขณะที่ราคาตั๋วเดือนสำหรับผู้โดยสารทั่วไป พิจารณาไว้ที่เดือนละ 900 บาทตลอดสาย ผู้มีรายได้น้อย สมาชิกกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) พิจารณาไว้ที่เดือนละ 600 บาทตลอดสาย นักเรียนนักศึกษา ม.3 ลงมา พิจารณาไว้ที่เดือนละ 300 บาท ขณะที่คนชรา คนพิการและทหารผ่านศึก พิจารณาไว้เดือนละ 450 บาท
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ขณะที่โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ใช้งบประมาณ วงเงินไม่เกิน 6,200 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายปี 2552 โดยเป็นการเปิดให้จูงใจพนักงานกว่า 1 หมื่นคนทั้งพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งอาจจะมีการจูงใจเหมือนกับข้าราชการ ซึ่งคาดการณ์จะมีผู้เข้าโครงการถึง 1,315 คน โดยนายกฯ ระบุว่า จะไม่ละทิ้งผู้ที่เข้าโครงการซึ่งอาจจะฝากงานให้กับองค์กรเอกชนทุกคน
แหล่งข่าวจากที่ประชุม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเปิดประกวดราคาเพื่อประมูลเช่ารถโดยสาร แบบอินเตอร์เนชั่นแนลบิท ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้มีการล๊อกสเป๊กตามที่ฝ่ายค้านได้กล่าวหาระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นอกจากนี้ได้มีการเสนอให้พิจารณารถโดยสารที่ประกอบในประเทศเท่านั้น แต่นายกฯ เกรงว่า จะเกิดปัญหา จึงสั่งการให้มีการเปิดประมูลแบบเปิด(โอเพ่น) โดยมีการทำประชาพิจารณ์ทีโออาร์ด้วย ขณะที่แผนเออรี่ รีไทร์ มีการจูงใจเหมือนกับข้าราชการโดยอาจจะให้เงินชดชเย 30 เท่าของเงินเดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้นายสมัคร สั่งให้ถอนโครงการจัดเช่ารถโดยสารปรับอากาศ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน ออกจากการพิจารณาของครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ต้องการให้พิจารณาโครงการให้รอบคอบอีกครั้ง โดยเฉพาะตัวเลขภาพรวมที่เกี่ยวกับโครงการฯ ขณะเดียวกันโครงการนี้เตรียมเปิดบริการในเดือนมีนาคมปีหน้า
***จับตาโครงการรถเมล์กลิ่นไม่ดี
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายเรื่องเช่ารถเมล์ 6,000 คันไว้แล้ว แต่รัฐบาลกลัวว่าจะมีการอภิปรายจึงได้สั่งให้มีการถอนวาระดังกล่าวออกจากการประชุมครม. และมีการคาดกันเมื่อผ่านร่างงบประมาณแล้วจะนำโครงการดังกล่าวมาพิจารณาใหม่อย่างแน่นอน และให้จับตามว่าการเช่ารถเมล์ 6,000 คันนี้จะมีผลประโยชน์ตกอยู่กับคนบางกลุ่มในรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้ผลักดันโครงการดังกล่าวให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
“คาดว่าจะมีผลประโยชน์ตกอยู่กับนักการเมือง เพราะเมื่อเปรียบเทียบการเช่ากับการจัดซื้อ ก็พบว่าการซื้อจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะการเช่านั้นราคาแพงเกินความเป็นจริง ถึงแม้จะอ้างมีการเช่าจะมีการรักษาดูแลโดยบริษัทเอกชนก็ตาม ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น การซื้อย่อมถูกกว่าการเช่าแน่นอน แต่จะอ้างว่าไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการดูแลรักษา แต่เมื่อวิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียนั้นความคุ้มค่าการซื้อย่อมดีกว่าการเช่าแน่นอน ซึ่งเป็นการกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงเพื่อผลักดันให้มีการเช่ารถเมล์ดังกล่าว” แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
เป็นที่น่าสังเกตรัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมด้วยการเปิดให้มีการประชาพิจารณ์โดยอ้างว่าประชาชนเห็นด้วย แต่ข้อเท็จจริงนั้นมีเบื้องหลังที่ต้องเร่งให้มีการเช่ารถเมล์ ก่อนที่รัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องเป็นนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือนิติบุคคลที่ร่วมทุนระหว่างนิติบุคคลในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) หรือนิติบุคคลร่วมทำงาน (Consortium) โดยมีนิติบุคลไทยเป็น Leadfirm และเป็นเจ้าของเนื้องานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ดังนั้นเชื่อว่าที่พรรคฝ่ายค้านพยายามโจมตีว่ามีการทุจริตล๊อกสเปกจึงไม่น่าจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันรถโดยสารจะต้องมีคุณลักษณะตรตามความต้องการของ ขสมก. ใน 26 รายการ เช่น ป้ายบอกเส้นทางดิจิตอล แสดงผลด้วยจอแอลซีดีที่ควบคุมโดยพนักงาน ระบบจอภาพจีพีเอส กล้องวงจรปิดซีซีทีวี เครื่องอ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์รองรับระบบอีทริกเก็ต ภายในตกแต่งด้วยสแตนเลสหุ้มหนัง เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลซียส เป็นต้น
ขณะที่คุณสมบัติของผู้ยื่นเสนอนั้น จะเป็นรายเดียวโดยผู้ผ่านการประมูลจะเป็นผู้ไปคัดเลือกจัดหารถโดยสารทั้ง 6,000 คันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เช่น อาจจะไปหารถทั้งในอู่ในประเทศหรือต่างประเทศเพื่อจัดส่งให้รัฐบาล
“นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งดำเนินการจัดทำทีโออาร์ให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทันทีในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตามนายกฯ เห็นว่า น่าจะนำเสนอ ครม.ได้ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หากสามารถร่างทีโออาร์ได้ทัน ”
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ขณะที่ขั้นตอนในการดำเนินการได้กำหรดขอบเขตงานและจัดทำเอกสารประกวดราคา โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดร่างขอบเขตของงาน และร่างเอกสารประกวดราคา ก่อนที่คณะกรรมการฯ จะกำหนดร่าง ประกอบด้วย ความเป็นมา วัตถุประสงค์ คุณสมบัติผู้เสนอราคา แบบรูปรายการ หรือคุณลักษณะเฉพาะ ระยะเวลาดำเนินการ ระยะเวลาส่งมอบของหรืองาน และวงเงินในการจัดหา
ขณะที่การดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Auction) จะนำร่างทีโออาร์ ประกาศในเวปไซด์ขององค์การและกรมบัญชีกลาง เพื่อทำการประชาพิจารณ์และปรับปรุงแก้ไขถึงที่สุดรวม 2 ครั้ง และนำเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การให้ความเห็นชอบ
ในส่วนของราคาตั๋วโดยสาร อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากราคา 15 บาทตลอดสายตามที่ขสมก.เสนอ ขณะที่ราคาตั๋วเดือนสำหรับผู้โดยสารทั่วไป พิจารณาไว้ที่เดือนละ 900 บาทตลอดสาย ผู้มีรายได้น้อย สมาชิกกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) พิจารณาไว้ที่เดือนละ 600 บาทตลอดสาย นักเรียนนักศึกษา ม.3 ลงมา พิจารณาไว้ที่เดือนละ 300 บาท ขณะที่คนชรา คนพิการและทหารผ่านศึก พิจารณาไว้เดือนละ 450 บาท
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ขณะที่โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ใช้งบประมาณ วงเงินไม่เกิน 6,200 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายปี 2552 โดยเป็นการเปิดให้จูงใจพนักงานกว่า 1 หมื่นคนทั้งพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งอาจจะมีการจูงใจเหมือนกับข้าราชการ ซึ่งคาดการณ์จะมีผู้เข้าโครงการถึง 1,315 คน โดยนายกฯ ระบุว่า จะไม่ละทิ้งผู้ที่เข้าโครงการซึ่งอาจจะฝากงานให้กับองค์กรเอกชนทุกคน
แหล่งข่าวจากที่ประชุม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเปิดประกวดราคาเพื่อประมูลเช่ารถโดยสาร แบบอินเตอร์เนชั่นแนลบิท ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้มีการล๊อกสเป๊กตามที่ฝ่ายค้านได้กล่าวหาระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นอกจากนี้ได้มีการเสนอให้พิจารณารถโดยสารที่ประกอบในประเทศเท่านั้น แต่นายกฯ เกรงว่า จะเกิดปัญหา จึงสั่งการให้มีการเปิดประมูลแบบเปิด(โอเพ่น) โดยมีการทำประชาพิจารณ์ทีโออาร์ด้วย ขณะที่แผนเออรี่ รีไทร์ มีการจูงใจเหมือนกับข้าราชการโดยอาจจะให้เงินชดชเย 30 เท่าของเงินเดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้นายสมัคร สั่งให้ถอนโครงการจัดเช่ารถโดยสารปรับอากาศ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน ออกจากการพิจารณาของครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ต้องการให้พิจารณาโครงการให้รอบคอบอีกครั้ง โดยเฉพาะตัวเลขภาพรวมที่เกี่ยวกับโครงการฯ ขณะเดียวกันโครงการนี้เตรียมเปิดบริการในเดือนมีนาคมปีหน้า
***จับตาโครงการรถเมล์กลิ่นไม่ดี
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายเรื่องเช่ารถเมล์ 6,000 คันไว้แล้ว แต่รัฐบาลกลัวว่าจะมีการอภิปรายจึงได้สั่งให้มีการถอนวาระดังกล่าวออกจากการประชุมครม. และมีการคาดกันเมื่อผ่านร่างงบประมาณแล้วจะนำโครงการดังกล่าวมาพิจารณาใหม่อย่างแน่นอน และให้จับตามว่าการเช่ารถเมล์ 6,000 คันนี้จะมีผลประโยชน์ตกอยู่กับคนบางกลุ่มในรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้ผลักดันโครงการดังกล่าวให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
“คาดว่าจะมีผลประโยชน์ตกอยู่กับนักการเมือง เพราะเมื่อเปรียบเทียบการเช่ากับการจัดซื้อ ก็พบว่าการซื้อจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะการเช่านั้นราคาแพงเกินความเป็นจริง ถึงแม้จะอ้างมีการเช่าจะมีการรักษาดูแลโดยบริษัทเอกชนก็ตาม ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น การซื้อย่อมถูกกว่าการเช่าแน่นอน แต่จะอ้างว่าไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการดูแลรักษา แต่เมื่อวิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียนั้นความคุ้มค่าการซื้อย่อมดีกว่าการเช่าแน่นอน ซึ่งเป็นการกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงเพื่อผลักดันให้มีการเช่ารถเมล์ดังกล่าว” แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
เป็นที่น่าสังเกตรัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมด้วยการเปิดให้มีการประชาพิจารณ์โดยอ้างว่าประชาชนเห็นด้วย แต่ข้อเท็จจริงนั้นมีเบื้องหลังที่ต้องเร่งให้มีการเช่ารถเมล์ ก่อนที่รัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้