“หมัก” นั่งหัวโต๊ะคุมประชุมบอร์ดระบบขนส่ง ไฟเขียวโครงการเช่ารถ NGV จำนวน 6 พันคัน วงเงิน 1.1 แสนล้าน แม้จะถูกฝ่ายค้านแฉข้อมูลการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อ้างความชอบธรรมเสียงข้างมาก ชนะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
วันนี้ (11 ก.ค.) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งและระบบราง ที่มี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน ด้วยการประมูลในวิธี International Bid ในอัตราค่าเช่า 5,100 บาท/คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 111,690 ล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กลับไปจัดทำรายละเอียดและเงื่อนไขการประมูลโครงการดังกล่าวให้ชัดเจน และจัดทำประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ดึงเรื่องดังกล่าวออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอ้างว่า ต้องการทบทวนรายละเอียดของโครงการให้เกิดความรอบคอบ หลังถูกฝ่ายค้านออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าวส่อเค้าทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง และนำมาเป็นประเด็นหนึ่งในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม ที่มีขึ้นในปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับรถโดยสารเอ็นจีวีจะมีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด ระบบจีพีอาร์เอส และปรับเส้นทางเดินรถให้เชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนค่าโดยสารกำหนดไว้ที่ 15 บาทตลอดสาย และมีตั๋วเดือนจำหน่ายสำหรับประชาชนทั่วไปในราคา 900 บาท/เดือน, นักเรียนและนักศึกษาราคา 300 บาท/เดือน, ผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ สมาชิกประกันสังคม สมาชิก กบข.ราคา 600 บาท/เดือน, คนพิการและทหารผ่านศึกราคา 450 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 7,000 คน โดยการจ่ายผลตอบแทนให้ 30 เท่าของเงินเดือน
เปิดคำอภิปรายฝ่ายค้าน “หมัก” หวังฟันหัวคิวรถเมล์ 6,000 ล.
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะเช่ารถปรับอากาศ NGV รวม 6,000 คัน คิดเป็นมูลค่าโครงการถึง 111,690 ล้านบาทนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นโครงการที่ไม่โปร่งใส และพยายามรีบร้อนที่จะดำเนินโครงการด้วยการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่คำนึงถึงการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ
นายถาวร ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีการตกแต่งตัวเลขผลกำไร ที่คาดว่า จะได้รับจากโครงการนี้อย่างเกินจริง เพื่อที่ต้องการให้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีกำไรส่วนเกินที่สามารถนำไปจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ใครก็ได้ที่มีอำนาจในการผลักดันโครงการ
“เรื่องนี้อาจจะถึง ป.ป.ช.หรือกองปราบ อยู่ที่ท่านประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ท่านรัฐมนตรีคมนาคม ทั้ง 2 คน จะคิดอ่านอย่างไร ถ้าเห็นกับประโยชน์พี่น้องประชาชน คิดว่า สิ่งที่ผ่านมารับผิดเสียว่าเป็นการปั้นตัวเลขเพื่อให้ได้โครงการ เพื่อให้ครม.คนอื่นเห็นชอบ ผ่านไปโดยง่ายๆ วันนี้หลอกกันไม่ได้ เมื่อเรื่องนี้ปรากฏต่อสาธารณะ ผมไม่ขอไว้วางใจ”
อย่างไรก็ดี นายถาวร กล่าวว่า นับว่า ยังเป็นความโชคดีที่มีข้อกังขาจากรัฐมนตรีหลายคนในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงทำแค่เพียงการรับทราบโครงการเท่านั้น ยังไม่ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ ซึ่งในท้ายสุดจึงต้องมีการถอนเรื่องนี้ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปก่อน
“ต้องขอบคุณรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่พยายามตั้งข้อสังเกต และเสียใจแทนรัฐมนตรีทั้ง 2 คน (นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม) ที่โครงการนี้หยุดชะงัก” นายถาวร กล่าว
นายถาวร ยอมรับว่า ในหลักการแล้วเห็นด้วยกับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพของ ขสมก.ที่ปัจจุบันต้องมีภาระหนี้สินกว่า 7 หมื่นล้านบาท ด้วยการปรับเปลี่ยนรถที่ใช้น้ำมันมาเป็นใช้ก๊าซ NGV และเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด แต่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรถร้อน เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการต้องเสียค่ารถเมล์เป็น 15 บาทตลอดสาย
ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ชี้แจงว่า เป็นผู้ถอนเรื่องการเช่ารถปรับอากาศ NGV ดังกล่าวออกจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเอง เนื่องจากต้องการให้มีคำอธิบายในรายละเอียดของการเช่ารถมากกว่านี้
“คณะรัฐมนตรี ไปถามดูเลยว่ามีใครมาออกความเห็นทักท้วงอะไรไหม ไม่มีหรอก ผมเป็นคนที่อธิบาย ครม.ว่า วาระที่ 14 ขอเอาออกไปก่อน เพราะต้องการจะให้มีคำอธิบายมากกว่านี้เวลาเอาเข้ามา ครม.เรื่องนี้ขอคำอธิบายเพราะการเขียนเอกสารว่าบริษัทเดียว เขาไม่ได้เลือกบริษัทเดียว แต่เขาเขียนว่าให้เอาบริษัทเดียวเป็นคนให้เช่า” นายกรัฐมนตรี กล่าวสรุป
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ถึงแนวคิดในการเช่ารถ NGV จำนวน 6,000 คัน แทนการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ว่า เป็นความตั้งใจดีที่จะไม่ให้ ขสมก.ต้องรับภาระในการบริหารจัดการมากเกินไป แต่จะผลักภาระความเสี่ยงให้กับผู้ให้เช่ารับภาระแทน โดยเห็นว่าจากการศึกษาพบว่า การเช่ารถยนต์จะเกิดประโยชน์มากกว่าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่จะต้องปรับเปลี่ยนในส่วนอื่นๆ เพื่อรองรับเครื่องยนต์ด้วย และยังคงได้รถยนต์เก่าให้บริการกับประชาชน ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงทำให้ ขสมก. มีภาระเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ ขสมก.มีภาวะขาดทุนสะสมอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท และหากยังไม่ได้รับการแก้ไขจะประสบภาวะล้มละลายภายใน 8 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยังกล่าวอีกว่า แนวคิดในการเช่ารถยนต์ NGV จะทำให้ ขสมก.ประหยัดพลังงานได้ประมาณเดือนละ 537 ล้านบาท