บล.ดีบีเอส เชื่อกลุ่ม ITD ยังมีโอกาสร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง 4 หมื่นล. เพราะอาจจะหันไปร่วมทุนกับ "โอบายาชิ" เพื่อหลีกเลี่ยง "แบลค ลิส" จากเจบิก หลังถูกเปิดโปงสินบนใต้โต๊ 200 ล. โครงการก่อสร้างอุโมงค์ กทม. ยุคสมัคร ซึ่งเชื่อว่า "นิชิมัตสึ" ผู้ร่วมประมูล อาจถูกเจบิกเล่นงาน
วันนี้ (10 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ผลกระทบกรณี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD มีข่าวพัวพันบริษัทรับเหมาก่อสร้างของญี่ปุ่น "นิชิมัตสึ" เกี่ยวกับการให้สินบนโครงการประมูลงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ที่คลองแสนแสบ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
โดยข้อมูลบริษัทร่วมทุนด้วยก็คือ ITD ทำให้เกิดความกังวลว่า หาก ITD ร่วมทุนกับ นิชิมัตสึ ประมูลโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตแล้ว ปรากฏว่าเจบิกซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำการ blacklist นิชิมัตซึ ก็จะทำให้ ITD ไม่ได้ประมูลงานรถไฟฟ้าซึ่งเป็นศักยภาพทางธุรกิจในอนาคตที่สำคัญมาก เพราะมูลค่างานรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็น 4.0 หมื่นล้านบาท อีกทั้งจากอดีตที่ผ่านมา พบว่าผู้รับเหมาไทยที่มีสายสัมพันธ์กับนิชิมัตสึ มากที่สุดก็คือ ITD
แต่จากการตรวจสอบกับ ITD แล้ว ปรากฏว่าการยื่นซองประมูลสายสีม่วง ไม่ได้ยื่นกับนิชิมัตสึ แต่เป็นมีพันธมิตรเป็นญี่ปุ่น 1 ราย ซึ่งเราคาดว่าน่าจะเป็นโอบายาชิ ดังนั้นการที่ราคาหุ้นร่วงแรง ด้วยสาเหตุส่วนหนึ่งคือ ความกังวลเกี่ยวกับข่าว นิชิมัตสึที่อาจจะโดน Black list จากธนาคารกลางญี่ปุ่น (เจบิก) นั้นจึงควรตัดทิ้งไป ส่วนนิชิมัตซึได้ยื่นประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในสัญญาที่ 3 คือ ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ เพียงลำพัง ทางเจ้าของงานคือ รฟม. (MRTA) จึงต้องการตรวจสอบกับเจบิคก่อนว่า นิชิมัตซึจะติด Blacklist หรือไม่
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่า การที่ราคาหุ้น ITD ปรับตัวลงแรง ตามปัจจัยลบเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างได้ถีบตัวขึ้นสูง โดยเฉพาะเหล็ก อีกทั้งค่าขนส่งและค่าแรงก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ส่วนปัจจัยลบทางด้านการเมืองก็มีความไม่แน่นอน หากในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจจะทำให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยการเร่งลงทุน ด้วยเมกะโปรเจกต์ คือ ส่วนขยายรถไฟฟ้าชะลอออกไปด้วย แม้ราคาพื้นฐานมีส่วนเพิ่มถึง 25% เทียบกับราคาปิด แต่ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมยังสูงในระยะนี้ จึงแนะนำเพียง ถือ จนกว่าปัจจัยลบต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นกว่านี้
**ราคาหุ้นเริ่มโงหัว คาดเทคนิเคิลรีบาวน์ช่วงสั้น
ด้านราคาหุ้น ITD เช้าวันนี้ ดีดบวก 1.90% หรือเพิ่มขึ้น 0.08 บาท มาอยู่ที่ 4.28 บาท เมื่อเวลา 12.14 น.โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 4.38 บาท จากราคาเปิดตลาด 4.08 บาท และราคาต่ำสุดมาที่ 4.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 145.3 ล้านบาท
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นของหุ้น ITD เป็นเทคนิเคิลรีบาวน์ หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับลงไปมากแล้ว เชื่อว่าเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 4.40 บาท และ แนวรับที่ 4.00 บาท
อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้เข้าซื้อในช่วงนี้ เพราะ ITD ยังมีปัจจัยลบมาก และปีนี้มีแนวโน้มขาดทุน เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นมาก และภาวะการเมืองไม่แน่นอนส่งผลให้โครงการเมกะโปรเจกท์อาจต้องเลื่อนออกไป รวมทั้งยังมีกรณีกลุ่มกิจการร่วมค้าของบริษัท ร่วมกับ นิชิมัตสึ ซึ่งยอมรับว่าได้ติสินบนเพื่อให้ได้งานกทม.ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน
"ราคาลงมาเยอะเกินไป คิดว่าเข้ามาเก็งกำไร เป็นเทคนิคเคิลรีบาวน์มากกว่า แต่ตัวบริษัทยังไม่มีอะไร ยังมีปัจจัยลบ เราไม่แนะนำให้เข้าซื้อ" นายกวีกล่าว
**แฉตัวเลขจ่ายสินบน 250 ล. แบ่งจ่าย 2 ส่วน
รายงานข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้าง เชื่อว่ามีการล็อกสเปกเพื่อให้ได้งานโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ ลาดพร้าว ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จริง ซึ่งใช้เงินจำนวน 250 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ส่วนเท่า ก้อนแรกจ่ายให้กับผู้บริหารระดับสูงของ กทม. อีกส่วนหนึ่งจ่ายให้กับผู้บริหารระดับรองลงมา ถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
ส่วนกรณีที่บริษัท สี่แสงการโยธา ร้องเรียนถึงความผิดปกติในการประมูลดังกล่าว เป็นเพราะบริษัทแห่งนี้ตกรอบตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นเอกสาร ทำให้ไม่มีสิทธิ์เสนอราคา ทั้งที่เคยมีผลงานสร้างอุโมงค์ลักษณะนี้ตั้งแต่ย่านประชาชื่น ถึงสุวินทวงศ์มาแล้ว ขณะที่ กทม.เองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ เมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่ตก
รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า เป็นเรื่องปกติที่หากบริษัทรับเหมาจะเข้ารับงานของหน่วยงานราชการ จะต้องจ่ายเงินสินบนให้กับผู้เกี่ยวข้อง หลังได้ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ร้อยละ 5 - 7 ของมูลค่าโครงการ โดยจะมีการเสนอผลประโยชน์ตั้งแต่ขั้นตอนซื้อแบบ แต่สำหรับโครงการที่กำลังมีปัญหาขณะนี้ เชื่อว่ามีการล็อกสเปกตั้งแต่เริ่มทำโครงการ ทำให้มีการกำหนดทีโออาร์ (TOR) เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทที่ต้องการให้มารับงาน
