xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ แจงทำเพื่อชาติ ฟังผลไต่สวนฉุกเฉินวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"จำลอง" แจงศาลเหตุปิดถนนรอบสถานที่ชุมนุม เพื่อความสะดวกในการดูแลความปลอดภัย "พิภพ" ยันเจรจาผู้บริหารสถานศึกษาเคลียร์ปัญหาแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่ง 14.00 น.วันนี้ ขณะที่อีกคดี ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้าม "สนธิ" พูดจาให้ร้าย "แม้ว"

วานนี้ (1 ก.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความแกนนำพันธมิตรฯ และนายนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอไต่สวนฉุกเฉินให้ศาลระงับหรือแก้ไขคำสั่งเพื่อให้พันธมิตรฯ เปิดถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก ตามคำร้องของครูและคณะผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิตมัธยม และศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว (อ่านรายละเอียดคำร้องของพันธมิตรฯ ในล้อมกรอบหน้า 2 )

ทั้งนี้ ฝ่ายจำเลยนำพยานเข้าสืบจำนวน 5 ปาก ประกอบด้วย ผู้ปกครอง 3 คน นางจินตนา กิจธิคุณ อายุ 51 ปี อาชีพทนายความ นายภูมิภักดิ์ พึ่งอุดม อายุ 42 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว นายจิรเชษฐ์ พึ่งอุดม อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนราชวินิต ด.ช.กันตธัช กิจธิคุณ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งเคยขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ และนางพรศรี รัตตานนท์ อายุ 50 แม่บ้าน เบิกความในทำนองเดียวกันว่า การชุมนุมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเส้นทางที่จะมาส่งบุตร เพราะจะมาส่งที่สนามม้านางเลิ้ง โดยปกติโรงเรียนห้ามผู้ปกครองนำรถไปจอดในโรงเรียนอยู่แล้ว รวมทั้งครูด้วย ส่วนใหญ่จะจอดไว้ที่สนามม้า เพราะในโรงเรียนมีพื้นที่ให้เฉพาะรถโรงเรียนจอดเท่านั้น การมาส่งลูกที่โรงเรียนสามารถมาได้หลายเส้นทาง ส่วนเรื่องเสียงไม่รบกวน เพราะลำโพงหันไปทางทำเนียบรัฐบาล เวลาที่เรียนในห้องเรียนจะได้ยินเสียงเพียงแผ่วเบา จับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไรบ้าง โดยหากไม่มีการชุมนุม จะมีเสียงดังจากรถที่วิ่งผ่านไปมามากกว่า

ปิดถนนเพื่อความปลอดภัย

ต่อมาเวลา 14.00 น. ทนายจำเลยได้นำพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขึ้นเบิกความว่าวัตถุประสงค์หลักในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ คือการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ที่ระบุว่าบุคคลต้องมีหน้าที่ปกปักษ์พิทักษ์ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งการชุมนุมตลอด 38 วันที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมโดยสันติไม่ใช้ความรุนแรง และปราศจากอาวุธ ไม่มีการปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย ส่วนมูลเหตุของการชุมนุมเนื่องจากรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ในมาตรา 237 ละ309 เพื่อขัดขวางองค์กรอิสระไม่ให้ดำเนินการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหนีคดียุบพรรค รวมทั้งทำให้กลุ่มอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองได้

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า สาเหตุสำคัญที่พันธมิตรฯ ต้องปิดโดยรอบสถานที่ชุมนุมเนื่องต้องดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากจากมีกลุ่ม นปก. ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นอันธพาล ทำร้ายประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม

ทั้งนี้ ทนายจำเลย ได้นำส่งแผ่นวีซีดีบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ กลุ่มต่อต้านไล่ทำร้านกลุ่มพันธมิตรฯให้ศาลพิจารณาด้วย

ขอความปรานีศาลเห็นใจพันธมิตร

พล.ต.จำลอง เบิกความว่า จากประวัติศาสตร์ ของการเมืองไทย ไม่มีครั้งไหนที่สามารถแก้ไขสถานการณ์ในรัฐสภาได้ จึงต้องอาศัยการแก้ไขด้วยการใช้สิทธิในการชุมนุมของประชาชน อย่างไรก็ตามหากศาลไม่อนุญาตตามคำร้องของฝ่ายจำเลย ขอยืนยันว่าในอนาคตจะไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกอย่างแน่นอนซึ่งการที่ฝ่ายโจทก์ร้องขอต่อศาลให้กลุ่มพันธมิตรฯเปิดถนนเท่ากับว่าเป็นการขอให้ยุติการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้ หากศาลจะพิจารณามีคำสั่งอย่างไร ตนก็รับได้ อย่างไรก็ดี หากศาลยกคำร้องของฝ่ายจำเลย ก็รู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้านไม่ต้องมาลำบากบนท้องถนนอีก แต่หากศาลมีคำสั่งที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มพันธมิตรฯ พวกตนก็จะทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป

"พิภพ"แจงเจรจาราชวินิตแล้ว

ต่อมา นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯเบิกความว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมหรือเดินขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯได้คำนึงถึงผลกระทบต่อเกิดขึ้นอย่างรอบด้านโดยตลอด ซึ่งตนมีหน้าที่เจรจากับหลายๆฝ่ายเพื่อรับทราบความคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการฟ้องร้องในคดีนี้ ตนได้เป็นตัวแทนแกนนำพันธมิตรฯไปหารือกับผู้บริหารสถานศึกษาโดยรอบสถานที่ชุมนุม ทั้งโรงเรียนราชวินิต มัธยม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร เพื่อรับทราบปัญหา โดยได้ความว่าในการชุมนุมวันแรกมีเสียงจากเวทีปราศรัยเข้าไปรบกวนการเรียนการสอนของนักเรียนและนักศึกษา

ซึ่งตนได้สั่งให้ปิดลำโพงด้านที่ใกล้กับสถานศึกษาทั้งสองแห่งทำให้ปัญหาเรื่องเสียงหมดไปส่วนเรื่องการจราจรทางสถาบันการศึกษาอยากให้พันธมิตรฯเปิดถนนเพื่อให้รถเมล์ผ่านไปมาได้ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางไปและกลับ ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารของทั้ง 2 สถาบันว่า การเปิดถนนอาจทำให้เกิดอันตรายและยากต่อการควบคุมเนื่องจากมีกลุ่มต่อต้านพยายามเข้ามาก่อความวุ่นวาย

อย่างไรก็ดี ตนได้ไปหารือกับนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ภาคแรงงาน ให้ประสานไปยังสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ให้เดินรถเพื่อส่งนักเรียนนักศึกษาในจุดที่ใกล้กับสถาบันการศึกษามากที่สุดตามที่ร้องขอ โดยรถเมล์ที่มาจากทางเทเวศร์ จะจอดส่งนักเรียนป้ายสุดท้ายที่ด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการบริเวณแยกมิสักวัน ส่วนที่มาจากทางบางซื่อให้จอดรถส่งนักเรียนที่สนามม้านางเลิ้ง ซึ่งก็สามารถแก้ปัญหาให้เบาบางได้ในระดับหนึ่ง

ยันไม่ได้สั่งรื้อเวที-นัดฟังคำสั่งวันนี้

ภายหลังพยานเบิกความแล้วเสร็จ ศาลได้กล่าวชี้แจงในส่วนของนายนคร ชมพูชาติ ศาลเห็นว่าจะเบิกความเกี่ยวกับประเด็นปัญหาข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นความเห็นในฐานนะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงแห่งคดี ศาลจึงมีคำสั่งให้ นายนคร ทำความเห็นยื่นเป็นคำแถลงต่อศาลภายในเช้าวันนี้(2 ก.ค.) หากไม่ยื่นถือว่าไม่ติดใจ โดยศาลนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.

ทั้งนี้ศาลได้ชี้แจงให้คู่ความ และกลุ่มที่มาให้กำลังใจพันธมิตรฯ ฟังว่า ที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวไม่ได้เป็นการสั่งให้รื้อเวที หรือยุติการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งศาลไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องนี้ โดยศาลดำเนินการไปในฐานะเป็นคนกลาง คำสั่งของศาลย่อมจะมีฝ่ายหนึ่งได้รับประโยชน์ และฝ่ายหนึ่งต้องเสียประโยชน์ ซึ่งคู่ความที่เสียประโยชน์สามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งได้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ศาลสั่ง "สนธิ" ห้ามพูดให้ร้าย "แม้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันที่ห้องพิจารณาคดี 710 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำสั่งร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในคดีดำที่ 3675/2551 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯกับพวก เรื่องละเมิด กรณีที่นายสนธิ ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ พาดพิง โดยศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเฉพาะนายสนธิ กล่าวพาดพิงถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ในทางเสียหาย โดยศาลเตรียมส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบต่อไป

ตำรวจรอคำสั่งศาล

เวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.อ. ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ.10) ทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร. พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเดินทางมาประชุมสรุปสถานการณ์และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจร กรณีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ หลังศาลแพ่ง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยขอให้พันธมิตรฯ เปิดถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ เพื่อให้รถโดยสารประจำทาง ทั้งให้งดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น.ในวันจันทร์-วันศุกร์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และนักเรียนโรงเรียนราชวินิตให้คุ้มครองชั่วคราวมีผลทันทีจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก ตร.แถลงสรุปสถานการณ์ว่า หลังจากที่ศาลเพ่งได้มีคำสั่งคุมครองชั่วคราวนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯได้ยื่นคำร้องขัดค้าน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างการสืบพยานในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ ในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชนหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งให้รถประจำทางต่างๆ เดินทางผ่านได้อย่างปกติ ก็สามารถให้นักเรียน นักศึกษา และผู้จะเดินทางบริเวณถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก เดินทางมาได้อย่างปกติโดยมีรถเมล์จำนวน 13 สาย รถตู้อีก 6 สาย แต่ในขณะทางกลุ่มพันธมิตรยังไม่เปิดการจราจรให้สะดวก ทาง ตร.จึงต้องรอคำสั่งศาลจากการยื่นคัดค้านของกลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง และเมื่อคำสั่งศาลออกมาแล้วทางกลุ่มพันธมิตรยังไม่เปิดการจราจรให้สมบูรณ์มากกว่านี้ทาง บก.น. 1 จะแจ้งหนังสือส่งเข้าไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง

วอนพันธมิตรหยุดประณาม

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้นำ ตร.ไปเป็นคู่กรณีโดยตรง หลังจากที่ได้มีคำสั่งศาลออกมานั้น โดยใช้ถ้อยคำต่างๆในการดูหมิ่น จากกลุ่มผู้ชุมนุม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จึงได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยความหนักแน่น โดยไม่ต้องสนใจคำพูดที่พยายามยั่วยุ ตร.มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของประชาชน

"อีกประการหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่คือ การคุกคามผู้ร้อง คือการนำเอาผู้ร้องมากล่าวเสียหายอย่างมากมายบนเวที ซึ่งการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการคุกคามผู้ร้องนั้นอาจจะทำให้การดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรฯ เหมาะสมหรือไม่ เพราะผู้ร้องก็คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเหมือนกันจึงไม่น่าจะถูกประณามจากกลุ่มพันธมิตรฯในเมื่อต่างฝ่ายดำเนินหน้าที่และอุดมการณ์จึงไม่สมควรที่ถูกประณามจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด"

พันธมิตรฯ ปรับช่วงเวลาการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ปรากฏว่า เมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทำการรื้อถอนเต็นท์ที่จากเดิมกางเรียงรายอยู่บนถนนหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร จำนวนหลายหลังออกไปหมดแล้ว เพื่อเปิดช่องทางให้รถยนต์สัญจรไปมาได้ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ยังคงชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป และจะเปิดช่องจราจรในเวลา 07.30 น.ของทุกวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น