รองโฆษก ตร.เผย หลังมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เปิดเส้นทางจราจร จากผลประเมินของ ตร.วันนี้ พันธมิตรฯยังเปิดจราจรไม่สมบูรณ์ โดย บก.น.1 จะแจ้งหนังสือเพื่อขอความร่วมมืออีกครั้ง พร้อมวิงวอนไม่ให้พันธมิตรฯประณาม และนำตำรวจไปโยงประเด็นทางศาล ส่วนการสอบคดีสินบน 2 ล้าน “พัชรวาท” กำชับให้สอบตรงไปตรงมาเป็นไปตามหลักนิติธรรม
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองบัญชาตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ10) ทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร.พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเดินทางมาประชุมสรุปสถานการณ์และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร กรณีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และกรณีศาลแพ่ง รัชดาภิเษก มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยขอให้พันธมิตรฯ เปิดถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ เพื่อให้รถโดยสารประจำทางสัญจร ทั้งให้งดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น.ในวันจันทร์-วันศุกร์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตให้คุ้มครองชั่วคราวมีผลทันทีจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเมื่อวานที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก ตร.แถลงสรุปสถานการณ์ ว่า หลังจากที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น วันนี้ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้การยื่นคำร้องขัดค้าน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างการสืบพยานในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ได้มีการพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งให้รถประจำทางต่างๆ เดินทางผ่านได้อย่างปกติ ก็สามารถให้นักเรียน นักศึกษา และผู้จะเดินทางบริเวณถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก เดินทางมาได้อย่างปกติโดยมีรถเมล์จำนวน 13 สาย รถตู้อีก 6 สาย แต่ในขณะทางกลุ่มพันธมิตรฯยังไม่เปิดการจราจรให้สะดวก ทาง ตร.จึงต้องรอคำสั่งศาลจากการยื่นคัดค้านของกลุ่มพันธมิตรฯอีกครั้ง และเมื่อคำสั่งศาลออกมาแล้วทางกลุ่มพันธมิตรยังไม่เปิดการจราจรให้สมบูรณ์มากกว่านี้ ทาง บก.น.1 จะแจ้งหนังสือส่งเข้าไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อไปว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้นำ ตร.ไปเป็นคู่กรณีโดยตรง หลังจากที่ได้มีคำสั่งศาลออกมานั้น โดยใช้ถ้อยคำต่างๆ ในการดูหมิ่นจากกลุ่มผู้ชุมนุม ทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยความหนักแน่น โดยไม่ต้องสนใจคำพูดที่พยายามยั่วยุ ตร.มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของประชาชน
“อีกประการหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ การคุกคามผู้ร้อง คือ การนำเอาผู้ร้องมากล่าวเสียหายอย่างมากมายบนเวที ซึ่งการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการคุกคามผู้ร้องนั้น อาจจะทำให้การดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรฯ เหมาะสมหรือไม่ เพราะผู้ร้องก็คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเหมือนกัน จึงไม่น่าจะถูกประณามจากกลุ่มพันธมิตรฯ ในเมื่อต่างฝ่ายดำเนินหน้าที่และอุดมการณ์ จึงไม่สมควรที่ถูกประณามจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุรพล ยังได้กล่าวถึงคดีถุงขนม 2 ล้าน ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กำชับให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายการดำเนินการต่างๆ ก็เป็นไปตามข้อบังคับ ทาง ตร.จะไปบิดเบือนคงเป็นไปไม่ได้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจว่า เมื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนแล้วก็ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเด็ดขาด
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองบัญชาตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ10) ทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร.พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเดินทางมาประชุมสรุปสถานการณ์และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร กรณีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และกรณีศาลแพ่ง รัชดาภิเษก มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยขอให้พันธมิตรฯ เปิดถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ เพื่อให้รถโดยสารประจำทางสัญจร ทั้งให้งดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น.ในวันจันทร์-วันศุกร์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตให้คุ้มครองชั่วคราวมีผลทันทีจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเมื่อวานที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก ตร.แถลงสรุปสถานการณ์ ว่า หลังจากที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น วันนี้ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้การยื่นคำร้องขัดค้าน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างการสืบพยานในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ได้มีการพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งให้รถประจำทางต่างๆ เดินทางผ่านได้อย่างปกติ ก็สามารถให้นักเรียน นักศึกษา และผู้จะเดินทางบริเวณถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก เดินทางมาได้อย่างปกติโดยมีรถเมล์จำนวน 13 สาย รถตู้อีก 6 สาย แต่ในขณะทางกลุ่มพันธมิตรฯยังไม่เปิดการจราจรให้สะดวก ทาง ตร.จึงต้องรอคำสั่งศาลจากการยื่นคัดค้านของกลุ่มพันธมิตรฯอีกครั้ง และเมื่อคำสั่งศาลออกมาแล้วทางกลุ่มพันธมิตรยังไม่เปิดการจราจรให้สมบูรณ์มากกว่านี้ ทาง บก.น.1 จะแจ้งหนังสือส่งเข้าไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อไปว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้นำ ตร.ไปเป็นคู่กรณีโดยตรง หลังจากที่ได้มีคำสั่งศาลออกมานั้น โดยใช้ถ้อยคำต่างๆ ในการดูหมิ่นจากกลุ่มผู้ชุมนุม ทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยความหนักแน่น โดยไม่ต้องสนใจคำพูดที่พยายามยั่วยุ ตร.มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของประชาชน
“อีกประการหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ การคุกคามผู้ร้อง คือ การนำเอาผู้ร้องมากล่าวเสียหายอย่างมากมายบนเวที ซึ่งการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการคุกคามผู้ร้องนั้น อาจจะทำให้การดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรฯ เหมาะสมหรือไม่ เพราะผู้ร้องก็คือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเหมือนกัน จึงไม่น่าจะถูกประณามจากกลุ่มพันธมิตรฯ ในเมื่อต่างฝ่ายดำเนินหน้าที่และอุดมการณ์ จึงไม่สมควรที่ถูกประณามจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุรพล ยังได้กล่าวถึงคดีถุงขนม 2 ล้าน ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กำชับให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายการดำเนินการต่างๆ ก็เป็นไปตามข้อบังคับ ทาง ตร.จะไปบิดเบือนคงเป็นไปไม่ได้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจว่า เมื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนแล้วก็ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเด็ดขาด
