xs
xsm
sm
md
lg

“พันธมิตรฯ” ห่วงคำตัดสินศาลแพ่งกระทบสิทธิการชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุริยะใส” เผยพันธมิตรฯ พร้อมน้อมรับคำตัดสินศาลแพ่ง แต่ห่วงกระทบสิทธิการชุมนุม เพราะการรวมตัวคนหมู่มากจำเป็นต้องปิดเส้นทางจราจรและใช้เครื่องเสียงสื่อสาร ปชช. ยืนยันเชื่อมั่นตุลาการภิวัตน์ ปราบโกงคืนหน้าหลายคดี เผยยังไม่ทราบคำสั่งศาลที่ห้าม “สนธิ” โจมตี “ทักษิณ” ชี้มีผลเฉพาะตัวบุคคลไม่กระทบพันธมิตรฯ

วันนี้ (1 ก.ค.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเวลา 19.10 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงข่าวถึงกรณีที่พันธมิตรฯยื่นขอให้ศาลแพ่งถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ว่า ไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไรในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ทางพันธมิตรฯพร้อมน้อมรับ และทำตามคำสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ฝ่ายพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ และผู้ปกครอง นักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม บางส่วน ก็ได้ไปฟังคำไต่สวนตามที่ศาลนัด โดยใช้เวลาทั้งวันเพื่อยืนยันว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯไม่ได้กระทบต่อการเรียนการสอน แต่หากศาลยืนยันตามคำสั่งเดิม คงไม่มีปัญหาอะไร พร้อมน้อมรับคำสั่งศาล ซึ่งวันนี้ได้ทำตามคำสั่งของศาลทั้งในเรื่องการเปิดการจราจร เก็บเต็นท์ ขยับเวทีและปิดเครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30 - 16.30 น.ทุกประการ หากคำสั่งศาลมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากเดิม การชุมนุมอาจดำเนินต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เป็นห่วงบทบาทของศาลที่กำลังถูกจับตามองจากทุกฝ่าย โดยเป็นห่วงสิทธิในการชุมนุมโดยสันติ ตามมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญ จะขัดแย้งกับคำสั่งของศาลหรือลิดรอนสิทธิการชุมนุมหรือไม่ชอบตามเจตนารมณ์การชุมนุม เพราะอาจจะเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนในการชุมนุมครั้งอื่นๆ ในอนาคต ประเด็นอยู่ที่ขอบเขตของการใช้สิทธิผู้ชุมนุมอยู่ตรงไหน เพราะการชุมนุมที่มีคนมาชุมนุมมากๆ ต้องมีการปิดถนนโดยปริยายและต้องมีการใช้เครื่องเสียงเพื่อควบคุมสื่อสารกับประชาชน

“อยากเรียกร้องไปที่นักวิชาการ และนักกฎหมายมหาชน ว่า จะมีความเห็นต่อกรณีนี้อย่างไร เพราะก่อนหน้านี้มีนักกฎหมายมหาชนบางส่วนได้วิจารณ์คำสั่งศาลปกครองกรณีเขาพระวิหารว่ากรณีดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง แต่ในกรณีนี้อยากทราบว่านักกฎหมายมีความเห็นอย่างไร ซึ่งไม่อยากให้มีการเลือกปฏิบัติ” นายสุริยะใส ระบุ

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ยังกล่าวต่อว่า การชุมนุมตลอด 37 วันที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ โดยจุดมุ่งหมายของการชุมนุมยังเหมือนเดิม คือ การให้กระบวนการยุติธรรม เข้ามามีส่วนแก้ไขปัญหาสถารการณ์บ้านเมือง โดยสถานการณ์ขณะนี้มีสัญญาณดีขึ้น พันธมิตรฯ มั่นใจในกระบวนการตุลาการภิวัตน์ ที่คืบหน้าหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีเลี่ยงภาษีการขายหุ้นของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับพี่ชาย นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน คดีคุณสมบัติ นายไชยา สะสมทรัพย์ และ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ กรณีถือหุ้นเกินร้อยละ 5 คดีสถานะของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กรณีรายการชิมไปบ่นไป รวมทั้งคดีหมิ่ประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ และคดีที่ดินรัชดาฯ ที่จะมีความชัดเจนในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ โดยยืนยันว่า ความสำเร็จของการชุมนุม คือ การทำให้กระบวนการยุติธรรมทำงานต่อไป ซึ่งไม่ได้เป็นการชุมนุมเพื่อกดดันศาล เพราะไม่ฉะนั้นแล้วศาลแพ่งคงไม่มีคำสั่งให้เปิดถนนและปิดเครื่องเสียง

ส่วนกรณีที่มีทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ดำเนินการส่งคำร้องต่อศาลแพ่งให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองมิให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ พูดจาพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ข้อเท็จจริง คือ นายสนธิ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากศาล โดยของดูรายละเอียดก่อน หากศาลมีคำสั่งดังกล่าวจริง จะมีผลต่อเฉพาะ นายสนธิ เท่านั้น ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการชุมนุมและการเปิดโปงระบอบทักษิณแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขานุการมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 และกลุ่มทนายจะทำการแถลงข่าวในกรณีนี้อย่างเป็นทางการ
กำลังโหลดความคิดเห็น