“พิภพ” เตือน “พลังแม้ว-รัฐตำรวจ” ดูคำสั่งศาลให้ชัด ไม่ได้สั่งพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม ยัน 10 คนที่ฟ้องมีการเมืองหนุนหลัง พร้อมเผยได้คุยกับผู้บริหาร ม.ราชมงคล-ราชวินิตเรื่องปัญหาทางเสียงจนคลี่คลาย ตั้งแต่ก่อนมีคนยื่นฟ้อง เผยได้ข่าว คน พปช.ระดมม็อบเข้ากรุงฯ ปะทะพันธมิตร พฤหัสฯ นี้ แต่ยืนยันปักหลักหน้าทำเนียบด้วยแนวทางสันติและหลักการที่ถูกต้อง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วานนี้ (2 ก.ค.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศัยหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงโรงเรียนหมู่บ้านเด็กที่นายพิภพดำเนินการอยู่ โดยนำเอาเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวมาฟื้นฟูจิตใจและให้การศึกษา ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเด็กๆ เหล่านี้ก็จะด่าตนอย่างหยาบคาย ซึ่งก็จะต้องทนเหมือนกับที่ขณะนี้เรากำลังทนกับพรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทย แต่ไม่รู้ว่าคนในพรรคเหล่านี้ที่เป็นผู้ใหญ่จะเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาหรือไม่ และดูท่าทางว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อาจจะต้องส่งเข้าไปพักพิงที่บ้านเลขที่ 111 ซึ่งขณะนี้ก็มีอยู่แล้ว เราเรียกว่าเป็นที่พักพิงของคนที่มีอาการป่วยทางการเมือง จนกว่าจะหายจากอาการป่วยแล้วส่งกลับออกมาสู่การเลือกตั้ง แต่เราจะไม่เอาการเลือกตั้งแบบเดิม เราจะเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น และทำการเมืองใหม่ คนที่จะออกจากบ้านเลขที่ 111 ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ไม่ว่าพฤติกรรมโกงการเลือกตั้ง พฤติกรรมที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อเข้าบริหารประเทศแล้วต้องไม่ฉ้อโกง ไม่มีพฤติกรรมทับซ้อนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ซึ่งตุลาการรัฐธรรมนูญได้บรรยายไว้แล้ว เพราะฉะนั้นต้องอยู่เฉยๆ ปรับพฤติกรรม 5 ปี อย่าออกมาเป็นอันขาด
นายพิภพ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้ไปให้การที่ศาลแพ่งเพื่อยื่นคำร้องของพันธมิตรฯ ที่ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้พันธมิตรเปิดเส้นทางจราจรหน้าทำเนียบรัฐบาลช่วง 07.30 -1 6.30 น.ว่า แม้ศาลแพ่งไม่รับคำร้อง แต่ทางพันธมิตรฯ จะสู้เรื่องนี้ต่อไป และไม่ท้อ
นายพิภพ กล่าวต่อว่า อยากบอกไปถึงคนของพรรคพลังประชาชนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพวกเราไม่น้อมรับคำสั่งศาล ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะเราน้อมรับตลอด เราเปิดทางเดินรถ และหยุดใช้เสียงตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่ามีการฟ้อง ตนได้ไปคุยกับคณะบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคล แล้วข้ามมาคุยกับรอง ผอ.โรงเรียนราชวินิต ก็คุยกันด้วยดี เด็กๆ ที่ไปให้การก็บอกว่าช่วงพันธมิตรฯ ชุมนุมเสียงเงียบมาก เพราะไม่มีรถ เด็กให้การขนาดนี้ว่าการชุมนุมของเราไม่เป็นปัญหาเลย
นอกจากนี้ ทั้ง 10 คนที่ยื่นฟ้องก็ไม่ใช่ตัวแทนของราชวินิตทั้งหมด และอาจารย์บางคนก็ไม่สบายใจ เพราะได้แก้ไขปัญหาไปมากแล้ว แต่การทำเช่นนี้ ทำให้ปัญหาบานปลาย และมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็คือพรรคพลังประชาชน และมีอาจารย์กรมสามัญที่กระทรวงศึกษาธิการมาฟ้องด้วย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเรื่องของราชวินิตทั้งหมด ทำให้มีคนโทรศัพท์เข้าไปต่อว่า และ ร.ร.ราชวินิตต้องรับกรรม
นายพิภพยังเรียกร้องไปถึงบรรดาผู้ปกครองและนักรียนโรงเรียนราชวินิตด้วยว่า ผู้ปกครองและนักเรียนที่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ควรออกมาแสดงตัวอย่างเปิดเผยว่าเห็นด้วยกับการชุมนุม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็นปัญหาร่วมกันของประชาชน โดยการชุมนุมในครั้งนี้เป็นการให้ปัญญาแก่ประชาชนได้นำความรู้ไปใช้แก้ไขปัญหา และเป็นการสร้างความกล้าของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ให้เด็กได้เรียนรู้ประชาธิปไตย นอกจากนี้เด็กๆ ผู้ปกครอง ครูราชวินิตจะได้ไม่ต้องรับแรงกดดันจากคนที่คิดว่า ร.ร.ราชวินิตมาฟ้องร้องพันธมิตรฯ
นายพิภพ ยังกล่าวถึงคำสั่งศาลว่า ศาลได้อธิบายชัดเจนว่าคำสั่งของศาลที่ออกมานั้นศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ยุติการชุมนุม ขอให้พรรคพลังปรชาชนและตำรวจฟังให้ชัดเจน อันที่ 2 คือศาลไม่ได้สั่งให้รื้อเวทีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเราขยับเวทีบางส่วนออกเพื่อเปิดช่องการจราจรเท่านั้นเอง ในช่วงเวลา 07.30-16.30 น.
นอกจากนี้ นายพิภพได้เรียกร้องไปถึงกองทัพกรณีที่มีทหารออกมาพูดถึงเรื่องพลังงานบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า เป็นการให้ความรู้แก่ประชาชน ดังนั้นไม่ควรจะเอาวินัยมาจับ เพราะจะเป็นการปิดกั้นไม่ให้ทหารได้แสดงออกในทางสาธารณะเลย หรือจะให้แสดงออกด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญ และทำรัฐประหารเท่านั้นหรือ เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องทหารที่ได้งบประมาณจำนวนมาก ไม่ใช่เอาเงินไปซื้อแต่อาวุธ ต้องให้ปัญญากับทหารด้วย ด้วยการมาที่บรรยายที่นี่
นายพิภพได้กล่าวในตอนท้ายว่า มีจดหมายเขียนถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่า ขณะนี้มีข่าวยืนยันแน่ชัดว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชนระดมคนจากต่างจังหวัดเพื่อขับไล่การชุมนุมของพันธมิตร จะเดินทางถึงในวันพฤหัสบดีนี้ หากเกิดการประทะกัน ทหารก็จะออกมา สอดคล้องกับการที่มีทหารเข้าออกบ้าน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร สาเหตุประการหนึ่งก็คือกรณีพันธมิตรฯ ไปล้อม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่กระบี่ จดหมายฉบับนี้บอกว่าให้หาหนทางแก้ไขสถานการณ์ด้วย
นายพิภพ กล่าวว่า พวกเราไม่จำเป็นต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์ เพราะเราชุมนุมโดยสันติ ชุมนุมบนความถูกต้อง โดยเอาธรรมะเป็นตัวนำ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การชุมนุมอย่างมีคุณธรรมนี้จะปกป้องเราเอง เราไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ขอให้อยู่ตรงนี้ อยู่นิ่งๆ และยืนหยัดการต่อสู้ของเรา