ผู้จัดการรายวัน - โกลาหลหนักหลัง รถร่วม ขสมก.หยุดวิ่ง-ประท้วงขอรัฐอุดหนุนค่าน้ำมันขนรถกว่า 100 คันปิดถนนราชดำเนินหน้ากระทรวงคมนาคม หลังศาลปกครองเบรกขึ้นค่าโดยสาร ด้าน ขสมก.แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจัดรถ 400 คันวิ่งรับแทน ขณะที่คมนาคมรับปากอุดหนุนราคาน้ำมัน บอร์ด ขสมก.ยอมแบกภาระค่าขาตามข้อเรียกร้องไปก่อน สุดท้ายรถร่วมฯ ยอมสลาย รอผลหารือพลังงานวันนี้ ก่อนกำหนดท่าทีใหม่
วานนี้ (29 พ.ค.) เวลาประมาณ 02.00 น. กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก. และรถมินิบัส ได้นำรถกว่า 100 คันมาจอดประท้วงด้านหน้ากระทรวงคมนาคมหลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง โดยให้กลับไปใช้ราคาเดิมตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป โดย นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชนเปิดเผยว่า ผู้ประกอบการขอให้รัฐบาล อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลประมาณ 10 บาทต่อลิตรให้ ซึ่งมาจากส่วนต่างราคาน้ำมันล่าสุด และราคาน้ำมันที่สูงสุดของเกณฑ์ที่ปรับขึ้นราคาโดยสารครั้งสุดท้าย และขอให้มีการยกเว้นการเก็บค่าตอบแทนรายวัน ส่วนของรถร้อนคันละ 35 บาทต่อวันต่อคัน และรถปรับอากาศ 60 บาทต่อคัน ที่ผู้ประกอบการรถร่วมจ่ายให้ ขสมก.
ประชาชนรอเก้อ รถร่วมหยุดวิ่ง
โดยในช่วงเช้าผู้ประกอบการรถร่วมฯ ขสมก.ประมาณ 90 % หรือคิดเป็นจำนวนเกือบ 8,000 คัน ได้หยุดเดินรถจะมีวิ่งให้บริการอยู่บ้างก็เป็นรถที่เปลี่ยนไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้ว ซึ่งก็มีจำนวนน้อย ทำให้ประชาชนที่รอใช้บริการเพื่อเดินทางไปทำงานรวมถึงนักเรียนนักศึกษา ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก และต้องไปใช้บริการรถ ของ ขสมก.ซึ่งมีน้อยกว่าจำนวนผู้โดยสารทำให้ไม่ได้รับความสะดวก
โดยการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เพราะรถของ ขสมก.เต็มทุกคัน ทุกเที่ยว ไม่มีแม้กระทั่งที่ยืน คนล้นออกมายืนถึงขั้นบันได รถเมล์ไม่สามารถปิดประตูได้ และรถ ขสมก.ที่วิ่งให้บริการส่วนใหญ่เป็นรถเสริมทำให้ผู้โดยสารต้องต่อรถหลายต่อ แถมเดือดร้อนต้องรอรถเมล์นาน ทำให้นักเรียนจำนวนมากมาโรงเรียนสาย ประชาชนไปทำงานไม่ทัน
นางสุภัทรา ชัยสร กล่าวว่า ต้องการใช้บริการรถร่วมบริการขสมก.สาย 175และสาย 157 เพื่อเดินไปพบแพทย์ แต่ต้องรอกว่า 1 ชม. ไม่มีรถเลย จึงต้องใช้บริการรถแท็กซี่แทน
นายกิตติ สมหวัง รอใช้บริการที่บริเวณถนนพระราม 6 กล่าวว่า ต้องรอรถเมล์นานมาก จากปกติที่ใช้เวลาในการรอประมาณ 10-15 นาที แต่วันนี้ไม่มีรถเมล์สายที่ขึ้นประจำซึ่งเป็นรถร่วมฯ วิ่งผ่านมาเลยต้องไปใช้บริการรถ ของขสมก ก็ลำบากเช่นกันเนื่องจากนานๆ รถจะมาซักคันหนึ่ง ส่วนเรื่องค่าโดยสาร ไม่คิดมากขอให้มีรถใช้บริการ
นางสุดสงวน สุขประเสริฐ ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางบริเวณป้ายรถประจำทางย่านถนนพระราม 6 กล่าวว่า ต้องใช้วิธีนั่งรถหลายต่อแทน เนื่องจากรถที่นั่งประจำรอนาน ส่วนค่าโดยสารที่ทางรถร่วมบริการขอขึ้นราคานั้น เห็นว่ายังไม่น่าขึ้นเพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางก็เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย อยากให้ทางผู้ประกอบการรถร่วมโดยสารฯ ใจเย็นๆ และรอฟังจากรัฐบาลก่อนว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
ในขณะที่นายบรรจบ สวัสดิ์ คนขับรถแท็กซี่ บอกว่า มีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่าทุกวัน โดยตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่านตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนถึงหน้าโรงพยาบาลรามา มีผู้โดยสารเรียกใช้บริการและยืนรอรถจำนวน
ขากลับแห่ใช้เรือแทนรถ
บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชน ส่วนใหญ่หลังจากรถร่วมฯขสมก.หยุดให้บริการ ในบริเวณราชดำเนิน มีประชาชนบางส่วนต้องเปลี่ยนไปโดยสารทางเรือที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศแทนจนเต็มล้นท่าเรือด้วยเช่นกัน
ขสมก.ยันมีบทลงโทษกรณีผิดสัญญา
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบรถที่หยุดให้บริการมีประมาณ 90% ซึ่งขสมก.ได้จัดรถที่เตรียมไว้ 400 คัน วิ่รับส่งผู้โดยสารจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง เพื่อมาต่อรถในจุดสำคัญที่มีรถ ขสมก.วิ่งให้บริการ ขณะเดียวกันเขตพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ก็ได้มีการเพิ่มเที่ยววิ่งความถี่ของรถโดยสาร ขสมก. เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชน ซึ่งจนถึงขณะนี้ถือว่าการแก้ปัญหาเป็นไปได้ด้วยดีระดับหนึ่ง
ส่วนผู้ประกอบการรถร่วมบริการที่หยุดให้บริการจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน นายพิเณศวร์ ยืนยันว่าจะมีบทลงโทษตามสัญญาแน่นอน โดยจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีรถร่วมบริการกี่คันของบริษัทใดที่หยุดให้บริการ ซึ่งขณะนี้ ขสมก.ได้ร่วมกับผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบกได้ออกสำรวจและทำบันทึกไว้แล้ว
บอร์ด ขสมก.แบกภาระค่าต๋ง
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการบริหาร ขสมก. กล่าวว่า บอร์ดขสมก.ได้ประชุมวานนี้ (29 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติไม่งดเก็บค่าตอบแทนรถร้อนคันละ 35 บาทต่อวัน และรถแอร์คันละ 60 บาทต่อวัน แต่เพื่อสนองนโยบายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนให้รถเอกชน ขสมก. จึงขอแบกรับภาระไว้เอง จนกว่าศาลปกครองกลางจะพิพากษาให้ปรับขึ้นค่าโดยสารได้
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการ ว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา 4 ข้อ ประกอบด้วยการขอให้รัฐอุดหนุนราคาน้ำมันไม่น้อยกว่า 10 บาท งดเว้นจ่ายค่าตอบแทนให้ ขสมก. และขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการจัดเช่ารถเอ็นจีวี 6,000 คัน และขสมก.ปรับปรุงกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการเข้ามามีสิทธิ์ในการวางกฎระเบียบเดินรถ
สำหรับข้อเรียกร้องให้รัฐอุดหนุนราคาน้ำมัน ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างหารือกับผู้ประกอบการโรงกลั่น และจะมีความชัดเจนในวันนี้ (30 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น.ว่าจะมีการอุดหนุนผู้ประกอบการเท่าไร ส่วนข้อที่ 2 บอร์ด ขสมก.กำลังพิจารณาเบื้องต้นน่าจะงดเว้นการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ประกอบการไปจนกว่าศาลจะยกเลิกคำสั่งให้ผู้ประกอบการปรับราคาได้ ส่วนการ ยกเลิกโครงการจัดเช่ารถเอ็นจีวี 6,000 คันนั้นกระทรวงคมนาคมคงปฏิบัติตามไม่ได้เนื่องจากเป็นงานนโยบายในการพัฒนารถร่วมบริการและเป็นการแข่งขันเสรีที่ประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งผู้ประกอบการรถร่วม ต้องปรับตัวเองเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก
ด้าน นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชนกล่าวหลังการประชุมว่า กระทรวงคมนาคม รับปากไปดำเนินการแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการ โดยจะเจรจากับกระทรวงพลังงาน เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลให้ ซึ่งเป้าหมายเบื้องต้นผู้ประกอบการต้องการไม่น้อยกว่าลิตรละ 2 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผู้ประกอบการถร่วมทั้งหมดสามารถนำรถมาเติมน้ำมันที่สถานีบริการของ ขสมก.
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมฯขสมก. เสนอขอให้กระทรวงพลังงานจัดสรรน้ำมันราคาถูกให้ เช่น อาจจะเป็นน้ำมันจาก บมจ.ปตท. ว่า จะรับข้อเรียกร้องนี้ไว้พิจารณา เพราะเห็นใจผู้ประกอบการ ที่ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลสูงเกินกว่าเบนซินแล้ว และเห็นใจประชาชนที่ต้องประสบความลำบาก เนื่องจากรถร่วม ขสมก.หยุดวิ่งบริการ แต่จะต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า วันนี้จะมีข้อสรุปเรื่องที่ขอให้โรงกลั่นในเครือ ปตท. ลดส่วนต่างค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวดี เพราะดูแนวโน้มน่าจะเป็นไปได้ และทางโรงกลั่นก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ลิตรละ 90 สตางค์ และจะครบกำหนด 1 ก.ค.นี้ และมีข้อเรียกร้องให้ขยายเวลาการอุดหนุนออกไปอีก จะขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
“มาตรการช่วยเหลือเรื่องราคาน้ำมันมีได้หลายแนวทาง โดยอาจจะดูแลประชาชนทั้งหมด หรือดูแลเฉพาะกลุ่ม ทางกระทรวงพลังงานต้องขอเวลาในการพิจารณา แต่ก็รับข้อเสนอของผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. ที่จะขอใช้น้ำมันในราคาถูก” พล.ท.หญิง พูนภิรมย์กล่าว
มินิบัสเมาป่วนก่อนยอมสลายตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจากับกระทรวงคมนาคมแล้ว ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ส่วนใหญ่ยอมสลายตัว แต่มีรถมินิบัสที่สุรามาดื่มระหว่างรอฟังผล จนมีอาการมึนเมาแสดงความไม่พอใจและไม่ยอมสลาย จนเกิดความวุ่นวาย จนล่าสุดนางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารได้เข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการรถมินิบัสถึงความช่วยเหลือที่ภาครัฐมีให้ ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ นางสุจินดารับปากที่จะเป็นแกนนำยื่นข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการรถมินิบัสต้องการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ทำให้รถมินิบัสยอมสลายตัว
วานนี้ (29 พ.ค.) เวลาประมาณ 02.00 น. กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก. และรถมินิบัส ได้นำรถกว่า 100 คันมาจอดประท้วงด้านหน้ากระทรวงคมนาคมหลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง โดยให้กลับไปใช้ราคาเดิมตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป โดย นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชนเปิดเผยว่า ผู้ประกอบการขอให้รัฐบาล อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลประมาณ 10 บาทต่อลิตรให้ ซึ่งมาจากส่วนต่างราคาน้ำมันล่าสุด และราคาน้ำมันที่สูงสุดของเกณฑ์ที่ปรับขึ้นราคาโดยสารครั้งสุดท้าย และขอให้มีการยกเว้นการเก็บค่าตอบแทนรายวัน ส่วนของรถร้อนคันละ 35 บาทต่อวันต่อคัน และรถปรับอากาศ 60 บาทต่อคัน ที่ผู้ประกอบการรถร่วมจ่ายให้ ขสมก.
ประชาชนรอเก้อ รถร่วมหยุดวิ่ง
โดยในช่วงเช้าผู้ประกอบการรถร่วมฯ ขสมก.ประมาณ 90 % หรือคิดเป็นจำนวนเกือบ 8,000 คัน ได้หยุดเดินรถจะมีวิ่งให้บริการอยู่บ้างก็เป็นรถที่เปลี่ยนไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้ว ซึ่งก็มีจำนวนน้อย ทำให้ประชาชนที่รอใช้บริการเพื่อเดินทางไปทำงานรวมถึงนักเรียนนักศึกษา ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก และต้องไปใช้บริการรถ ของ ขสมก.ซึ่งมีน้อยกว่าจำนวนผู้โดยสารทำให้ไม่ได้รับความสะดวก
โดยการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เพราะรถของ ขสมก.เต็มทุกคัน ทุกเที่ยว ไม่มีแม้กระทั่งที่ยืน คนล้นออกมายืนถึงขั้นบันได รถเมล์ไม่สามารถปิดประตูได้ และรถ ขสมก.ที่วิ่งให้บริการส่วนใหญ่เป็นรถเสริมทำให้ผู้โดยสารต้องต่อรถหลายต่อ แถมเดือดร้อนต้องรอรถเมล์นาน ทำให้นักเรียนจำนวนมากมาโรงเรียนสาย ประชาชนไปทำงานไม่ทัน
นางสุภัทรา ชัยสร กล่าวว่า ต้องการใช้บริการรถร่วมบริการขสมก.สาย 175และสาย 157 เพื่อเดินไปพบแพทย์ แต่ต้องรอกว่า 1 ชม. ไม่มีรถเลย จึงต้องใช้บริการรถแท็กซี่แทน
นายกิตติ สมหวัง รอใช้บริการที่บริเวณถนนพระราม 6 กล่าวว่า ต้องรอรถเมล์นานมาก จากปกติที่ใช้เวลาในการรอประมาณ 10-15 นาที แต่วันนี้ไม่มีรถเมล์สายที่ขึ้นประจำซึ่งเป็นรถร่วมฯ วิ่งผ่านมาเลยต้องไปใช้บริการรถ ของขสมก ก็ลำบากเช่นกันเนื่องจากนานๆ รถจะมาซักคันหนึ่ง ส่วนเรื่องค่าโดยสาร ไม่คิดมากขอให้มีรถใช้บริการ
นางสุดสงวน สุขประเสริฐ ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางบริเวณป้ายรถประจำทางย่านถนนพระราม 6 กล่าวว่า ต้องใช้วิธีนั่งรถหลายต่อแทน เนื่องจากรถที่นั่งประจำรอนาน ส่วนค่าโดยสารที่ทางรถร่วมบริการขอขึ้นราคานั้น เห็นว่ายังไม่น่าขึ้นเพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางก็เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย อยากให้ทางผู้ประกอบการรถร่วมโดยสารฯ ใจเย็นๆ และรอฟังจากรัฐบาลก่อนว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
ในขณะที่นายบรรจบ สวัสดิ์ คนขับรถแท็กซี่ บอกว่า มีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่าทุกวัน โดยตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่านตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนถึงหน้าโรงพยาบาลรามา มีผู้โดยสารเรียกใช้บริการและยืนรอรถจำนวน
ขากลับแห่ใช้เรือแทนรถ
บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชน ส่วนใหญ่หลังจากรถร่วมฯขสมก.หยุดให้บริการ ในบริเวณราชดำเนิน มีประชาชนบางส่วนต้องเปลี่ยนไปโดยสารทางเรือที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศแทนจนเต็มล้นท่าเรือด้วยเช่นกัน
ขสมก.ยันมีบทลงโทษกรณีผิดสัญญา
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบรถที่หยุดให้บริการมีประมาณ 90% ซึ่งขสมก.ได้จัดรถที่เตรียมไว้ 400 คัน วิ่รับส่งผู้โดยสารจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง เพื่อมาต่อรถในจุดสำคัญที่มีรถ ขสมก.วิ่งให้บริการ ขณะเดียวกันเขตพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ก็ได้มีการเพิ่มเที่ยววิ่งความถี่ของรถโดยสาร ขสมก. เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชน ซึ่งจนถึงขณะนี้ถือว่าการแก้ปัญหาเป็นไปได้ด้วยดีระดับหนึ่ง
ส่วนผู้ประกอบการรถร่วมบริการที่หยุดให้บริการจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน นายพิเณศวร์ ยืนยันว่าจะมีบทลงโทษตามสัญญาแน่นอน โดยจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีรถร่วมบริการกี่คันของบริษัทใดที่หยุดให้บริการ ซึ่งขณะนี้ ขสมก.ได้ร่วมกับผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบกได้ออกสำรวจและทำบันทึกไว้แล้ว
บอร์ด ขสมก.แบกภาระค่าต๋ง
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการบริหาร ขสมก. กล่าวว่า บอร์ดขสมก.ได้ประชุมวานนี้ (29 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติไม่งดเก็บค่าตอบแทนรถร้อนคันละ 35 บาทต่อวัน และรถแอร์คันละ 60 บาทต่อวัน แต่เพื่อสนองนโยบายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนให้รถเอกชน ขสมก. จึงขอแบกรับภาระไว้เอง จนกว่าศาลปกครองกลางจะพิพากษาให้ปรับขึ้นค่าโดยสารได้
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการ ว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา 4 ข้อ ประกอบด้วยการขอให้รัฐอุดหนุนราคาน้ำมันไม่น้อยกว่า 10 บาท งดเว้นจ่ายค่าตอบแทนให้ ขสมก. และขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการจัดเช่ารถเอ็นจีวี 6,000 คัน และขสมก.ปรับปรุงกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการเข้ามามีสิทธิ์ในการวางกฎระเบียบเดินรถ
สำหรับข้อเรียกร้องให้รัฐอุดหนุนราคาน้ำมัน ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างหารือกับผู้ประกอบการโรงกลั่น และจะมีความชัดเจนในวันนี้ (30 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น.ว่าจะมีการอุดหนุนผู้ประกอบการเท่าไร ส่วนข้อที่ 2 บอร์ด ขสมก.กำลังพิจารณาเบื้องต้นน่าจะงดเว้นการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ประกอบการไปจนกว่าศาลจะยกเลิกคำสั่งให้ผู้ประกอบการปรับราคาได้ ส่วนการ ยกเลิกโครงการจัดเช่ารถเอ็นจีวี 6,000 คันนั้นกระทรวงคมนาคมคงปฏิบัติตามไม่ได้เนื่องจากเป็นงานนโยบายในการพัฒนารถร่วมบริการและเป็นการแข่งขันเสรีที่ประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งผู้ประกอบการรถร่วม ต้องปรับตัวเองเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก
ด้าน นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชนกล่าวหลังการประชุมว่า กระทรวงคมนาคม รับปากไปดำเนินการแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการ โดยจะเจรจากับกระทรวงพลังงาน เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลให้ ซึ่งเป้าหมายเบื้องต้นผู้ประกอบการต้องการไม่น้อยกว่าลิตรละ 2 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผู้ประกอบการถร่วมทั้งหมดสามารถนำรถมาเติมน้ำมันที่สถานีบริการของ ขสมก.
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมฯขสมก. เสนอขอให้กระทรวงพลังงานจัดสรรน้ำมันราคาถูกให้ เช่น อาจจะเป็นน้ำมันจาก บมจ.ปตท. ว่า จะรับข้อเรียกร้องนี้ไว้พิจารณา เพราะเห็นใจผู้ประกอบการ ที่ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลสูงเกินกว่าเบนซินแล้ว และเห็นใจประชาชนที่ต้องประสบความลำบาก เนื่องจากรถร่วม ขสมก.หยุดวิ่งบริการ แต่จะต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า วันนี้จะมีข้อสรุปเรื่องที่ขอให้โรงกลั่นในเครือ ปตท. ลดส่วนต่างค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวดี เพราะดูแนวโน้มน่าจะเป็นไปได้ และทางโรงกลั่นก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ลิตรละ 90 สตางค์ และจะครบกำหนด 1 ก.ค.นี้ และมีข้อเรียกร้องให้ขยายเวลาการอุดหนุนออกไปอีก จะขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
“มาตรการช่วยเหลือเรื่องราคาน้ำมันมีได้หลายแนวทาง โดยอาจจะดูแลประชาชนทั้งหมด หรือดูแลเฉพาะกลุ่ม ทางกระทรวงพลังงานต้องขอเวลาในการพิจารณา แต่ก็รับข้อเสนอของผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. ที่จะขอใช้น้ำมันในราคาถูก” พล.ท.หญิง พูนภิรมย์กล่าว
มินิบัสเมาป่วนก่อนยอมสลายตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจากับกระทรวงคมนาคมแล้ว ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ส่วนใหญ่ยอมสลายตัว แต่มีรถมินิบัสที่สุรามาดื่มระหว่างรอฟังผล จนมีอาการมึนเมาแสดงความไม่พอใจและไม่ยอมสลาย จนเกิดความวุ่นวาย จนล่าสุดนางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารได้เข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการรถมินิบัสถึงความช่วยเหลือที่ภาครัฐมีให้ ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ นางสุจินดารับปากที่จะเป็นแกนนำยื่นข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการรถมินิบัสต้องการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ทำให้รถมินิบัสยอมสลายตัว
