ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รองอธิบดีฯ ขนส่งรุดโคราชพบผู้ประกอบการเดินรถโดยสารอีสาน แนะปรับตัวรับน้ำมันแพง ชี้ขึ้นค่าโดยสาร กม.ละ 3 สตางค์พรุ่งนี้แค่แบ่งเบาภาระบางส่วน ผู้ประกอบการต้องช่วยตัวเอง ด้านผู้ประกอบการเดินรถโคราชจวกรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด พร้อมร้องขึ้นค่าโดยสารอีก ขู่หากรัฐไม่สนองจำเป็นต้องหยุดวิ่ง
วันนี้ (24 พ.ค.51) ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ อ.เมือง จ.นครราชสีมา น.ส.ปริยา อังสุวร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ฝ่ายบริหาร) เป็นประธานเปิดโครงการ “คลินิกแก้ไขปัญหาการประกอบการขนส่งประจำทาง” จ.นครราชสีมา พร้อมประชุมผู้ประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสาร หมวด 3 โดยมีผู้ประกอบการเดินรถโดยสารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางส่วน เข้าร่วมกว่า 200 คน
ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสารให้กับผู้ประกอบการขนส่ง ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ถูกต้อง และเป็นการแนะนำแนวทางการประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารอย่างถูกต้องให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง โดยเฉพาะการจัดการเดินรถ
น.ส.ปริยา อังสุวร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การปรับอัตราค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางนั้น เป็นการแบ่งเบาภาระบางส่วนให้เท่านั้น โดยครั้งแรกผู้ประกอบการขอปรับขึ้น กิโลเมตร (กม.) ละ 6 สตางค์ แต่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง อนุมัติให้แค่ 3 สตางค์ เนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากจนเกินไปโดยอัตราค่าโดยสารใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.)
ขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางบก พยายามหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน โดยขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพลังงาน และ ปตท.และ กระทรวงการคลัง ให้เข้ามาช่วยดูแล ทั้งเรื่อง ปั๊มบริการแก๊ส NGV ที่มีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทั้งใน กรุงเทพฯ และภูมิภาค เป็นปัญหาใหญ่ อีกส่วนหนึ่งคือแหล่งเงินทุนสำหรับกู้ยืมในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้แก๊ส เอ็นจีวี เรื่องนี้ทางราชการจะต้องดูแล และกระทรวงคมนาคมได้หารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องไปแล้วระดับหนึ่ง
น.ส.ปริยา กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ประกอบการเองจะต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย ในเรื่องการบริหารจัดการเดินรถ ที่เคยเดินหลายเที่ยวก็จะต้องปรับลดจำนวนเที่ยวลงเพราะทุกวันนี้การบริการเกินความต้องการอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเมื่อมีการปรับอัตราค่าโดยสารขึ้น ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเช่นกัน โดยเฉพาะการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน เช่น มีรถมั่นคงแข็งแรง, เดินรถตรงตามเวลา ,มารยาทคนขับรถดี และพนักงานให้บริการที่ดี สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการจะต้องทำไปด้วย เพราะน้ำมันแพงขึ้นเรื่อย ๆ ประชาชนคงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลง และหันมาใช้รถยนต์โดยสารสาธารณะแทน ถ้าผู้ประกอบการรู้จักปรับตัว ภาครัฐก็เข้ามาช่วยเหลือ เชื่อว่าการบริการรถสาธารณะจะดีขึ้นด้วย
ด้าน นายสุวิช วงษ์เบญจรัตน์ รองประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การอนุมัติให้ปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นอีก 3 สตางค์/กม.นั้น ไม่เพียงพอกับต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทางผู้ประกอบการเดินรถโดยสารยังคงเรียกร้องขอเพิ่มอีก ขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากระทรวงคมนาคมอยู่ ตอนนี้พยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างเต็มที่ หากไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐก็คงจะต้องหยุดวิ่ง ซึ่งการหยุดวิ่งรถไม่ใช่การหยุดเพื่อประท้วง แต่เนื่องจากวิ่งไม่ไหวจึงจำเป็นต้องจอด
“ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหารถบริการสาธารณะทั้งระบบผิดพลาด แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไปสนับสนุนรถเล็ก มองอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจ ขายรถดีก็ถือเศรษฐกิจดี เป็นการส่งเสริมให้คนใช้รถเล็กมาก แทนที่จะส่งเสริมรถขนส่งมวลชนสาธารณะ เหมือนต่างประเทศ และการลดราคาน้ำมันก็คงจะมุ่งมาที่รถบริการสาธารณะ ไม่ใช่ไปลดราคาหน้าปั้มทั่วประเทศ ก็เลยกลายเป็นการส่งเสริมให้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวเหมือนเดิม รถโดยสารเองอยู่ไม่ได้ มันเสียทั้งระบบ การพัฒนาอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้เลย เพราะคนก็ยังติดรถยนต์ส่วนตัวเพราะมันสบายกว่า” นายสุวิช กล่าว