ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รถโดยสารสองแถวเมืองโคราชซมพิษน้ำมันโลกแพง ผู้ประกอบการเดือดร้อนหนักดิ้นหนีตายลดเที่ยววิ่งลงวันละ 600 เที่ยวจากเดิม 3,000 เที่ยว/วัน เหตุไม่คุ้มทุน ผู้โดยสารใช้บริการลดฮวบ และยังไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานต่อเนื่อง ด้านขนส่งจังหวัดฯ คุมเข้มป้องกันฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบ ปชช.พร้อมเร่งหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการเตรียมเสนอ กก.ระดับจังหวัดพิจารณาปรับขึ้นราคาอีก 1 บาท ภายในเดือนหน้า ส่วนเถ้าแก่รถร้องขึ้นรวด 2 บาทเป็น 10 บาทตลอดสาย
วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ว่า หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางของจังนครราชสีมาเป็นอย่างมาก ล่าสุด รถโดยสารประจำทางในตัวเมืองนครราชสีมา (หมวด 1 เขตเทศบาลนคนครราชสีมา) หรือรถสองแถว ที่มีร่วม 400 คัน ได้ปรับลดเที่ยววิ่งลง กว่า 20% หรือประมาณ 600 เที่ยว/วัน จากจำนวนเที่ยววิ่งปกติ 3,000 เที่ยว/วัน
โดยคนขับรถโดยสารสองแถวในตัวเมืองนครราชสีมารายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการรถโดยสารสองแถวอยู่กันด้วยความลำบาก เนื่องจากราคาน้ำมันแพงจนเกินไป ค่าโดยสารที่เก็บจากผู้โดยสารยังเป็นราคาเดิมคือตลอดสาย 8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทางราชการปรับขึ้นให้ล่าสุดตั้งแต่ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท ทุกวันนี้ต้องทนขับกันไปก่อน วิ่งไปได้เงินมาก็ต้องไปจ่ายเป็นค่าน้ำมันหมด เพราะไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร เคยขอปรับขึ้นค่าโดยสารกับทางการไปแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นมีอะไรออกมา จนล่าสุดเห็นว่าจะปรับขึ้นให้ในเร็วๆ นี้ แต่ไม่รู้ว่ากี่บาท
“ถ้าปรับราคาค่าโดยสารขึ้นให้บ้างก็จะพอวิ่งรถต่อไปได้ ซึ่งอยากให้ทางการขึ้นเป็น 10 บาทตลอดสาย ผู้ประกอบการถึงจะอยู่ได้ ตอนนี้ทางเจ้าของรถก็พยายามช่วยเหลือตัวเองเต็มที่ ทั้งลดเที่ยววิ่งลง วิ่งรับส่งผู้โดยสารเฉพาะช่วงเช้ากับช่วงเย็น เนื่องจากช่วงกลางวันไม่ค่อยมีลูกค้าก็หยุดวิ่ง เอาน้ำมันมาวิ่งในช่วงเย็นแทน เพราะวิ่งไปก็ไม่คุ้ม” คนขับรถรายเดิมกล่าว
ขณะที่คนขับรถโดยสารสองแถวอีกรายบอกว่า เพื่อนที่ขับรถโดยสารในเส้นทางเดียวกันตอนนี้เลิกวิ่งรถไปแล้ว 4-5 ราย เพราะทำไปก็ไม่คุ้ม อีกอย่างผู้โดยสารก็น้อยลง คนประหยัดมากขึ้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เดินทาง ส่วนที่จะพอได้เงินบ้างก็เป็นลูกค้าจากกลุ่มนักเรียนในช่วงเช้ากับช่วงเย็น จึงอยากวิงวอนให้ภาครัฐปรับราคาค่าโดยสารขึ้นให้อีก เพื่อผู้ประกอบการรถสองแถวจะสามารถอยู่ได้ และพอมีเงินไปจุนเจือครอบครัวบ้าง ทุกวันนี้อยู่กันไม่ไหวแล้ว เพราะรายได้ทั้งหมดต้องไปจ่ายเป็นค่าน้ำมันแทบไม่มีเหลือ
ด้าน นายอนุสรณ์ วิทูรากูร ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางในจังหวัดนคราชสีมามาอย่างต่อเนื่อง ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันมากโดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ซึ่งครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค. 2549 ที่ผ่านมา คณะกรรมการควบคุมการขนส่งประจำจังหวัดนครราชสีมา ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานได้พิจารณาอนุมัติให้ปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นไปเป็น 8 บาทตลอดสาย สำหรับรถโดยสารสองแถวในตัวเมือง (หมวด 1) ที่มีอยู่ประมาณ 400 คัน ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท ตอนนี้ราคาน้ำมันพุ่งสูงไปเกือบ 40 บาทแล้ว แต่ยังคงใช้ราคาเดิม
ทางหน่วยงานรัฐเอง ก็เห็นใจผู้ประกอบการเพราะเดือดร้อนจริงๆ ขณะนี้สำนักงานขนส่งฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารวบรวมข้อมูลตัวเลขต่างๆ เพื่อกำหนดราคาที่เป็นธรรมในการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่ให้กับผู้ประกอบการ คาดว่า จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ระดับจังหวัดได้ประมาณต้นเดือน มิ.ย.นี้ หากที่ประชุมอนุมัติก็มีผลบังคับใช้ทันที แต่ทั้งนี้อัตราค่าโดยสารใหม่จะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน เบื้องต้น คาดว่า จะปรับขึ้นอีกประมาณ 1 บาท
ส่วนรถโดยสารภายในจังหวัด (หมวด 4) วิ่งระหว่างอำเภอ ที่มีอยู่จำนวน 600 คันนั้น ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ เช่นกัน เพื่อปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มให้เพราะได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน แต่คาดว่าขั้นต่ำจะปรับให้ไม่เกิน กม.ละ 3 สต.อย่างไรก็ตาม คงต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่งก่อน
“การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่นี้ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่ใช้บริการรถโดยสารสองแถวในตัวเมืองนครราชสีมา เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้มีรายได้น้อย หากปรับขึ้นมาก ก็จะได้รับความเดือดร้อน ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่คณะกรรมการฯ จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางเอง ก็ควรที่จะช่วยเหลือตัวเองด้วย เพราะราคาน้ำมันต้องปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปอีก สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ การหันไปใช้พลังงานทดแทน การปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ไปใช้แก๊สเอ็นจีวี หรือ แอลพีจี ซึ่งทางราชการก็ให้การสนับสนุนเต็มที่โดยเฉพาะด้านเงินทุน ล่าสุดทางสหกรณ์เดินรถโดยสารจังหวัดนครราชสีมา ได้เงินสนับสนุนจากทางราชการไปแล้วเพื่อใช้ในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถสองแถวไปใช้พลังงานทดแทน
“สำหรับการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับผู้ประกอบการในตอนนี้ ทางสำนักงานขนส่งฯ อนุญาตให้ปรับลดเที่ยววิ่งลงได้ในช่วงที่ไม่มีผู้โดยสาร โดยรถทุกประเภทได้ปรับลดเที่ยววิ่งลงไปแล้วประมาณ 20% ของจำนวนเที่ยววิ่งเดิม เช่น รถสองแถวจากเดิมที่เคยวิ่งวันละ 3,000 เที่ยวลดเหลือ 2,400 เที่ยว รถโดยสารที่วิ่งระหว่างอำเภอ ก็ลดเที่ยววิ่งลงเช่นกัน ฉะนั้นประชาชนที่เดินทางในช่วงกลางวันอาจลำบากไม่ค่อยมีรถโดยสารให้บริการ แต่ก็เนื่องจากความจำเป็น” นายอนุสรณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ในช่วงนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดฯได้เข้มงวดในการตรวจสอบเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางภายใน จ.นครราชสีมา ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาค่าโดยสารโดยที่ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา สร้างความเดือดร้อน ซ้ำเติมประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจรถโดยสารสายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง