"บิ๊กจิ๋ว" เผย"แม้ว"ส่งสัญญาณตัดตอน ระบุชัด "เพ็ญ" ต้องรับผิดชอบกรณีพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ปัดเรื่องถูกทาบนั่งนายกฯแทน"หมัก" แต่ยืนยันยังไม่ล้างมือการเมือง เตรียมตั้งพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ ด้าน ผบ.เหล่าทัพหารือเครียด ยอมรับอึดอัดเรื่องการนำสถาบันฯ มายุ่งการเมือง ด้าน"เพ็ญ"ยังไม่นำพา อ้าง"เมียบิ๊กทหาร" ตัวการปล่อยใบปลิวโจมตี บ่ายเบี่ยงกรณีพูดที่แอลเอ.เป็นเรื่องเก่า ส่วนเรื่องพบ"บิ๊กจิ๋ว" แค่บังเอิญ ขณะที่ส.ส.สายอีสานนัดถกไล่วันนี้
เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (20พ.ค.) ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าอวยพร และพูดคุยเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ76 ปีที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอวยพรในฐานะที่รู้จักกัน และเคยทำงานเพื่อประเทศชาติร่วมกันมา แต่มีสาระอยู่ 2 เรื่อง คือ
1.พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่า ปฏิเสธที่จะดำเนินงานการเมืองอีกต่อไป วันนี้รออยู่แต่เพียงว่าจะได้รับความเมตตา หรือการดูแลจากกระบวนการยุติธรรมอย่างไร นี่คือสิ่งที่ได้ฟังมา จริงเท็จอย่างไรท่านไปคิดเอาเอง
2. กรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ มีความห่วงใยมากที่นาย จักรภพ พูดจาไป ซึ่งท่านบอกว่า นายจักรภพต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ และคงพิจารณาตัวเองได้ว่าต้องทำอย่างไร
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากให้ท่านช่วยดูแลประเทศชาติอย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่ได้พูดจาอะไรกันเป็นพิเศษ เพราะท่านตระหนักดีว่าถึงแม้จะไม่ฝาก ตนก็ทำอยู่แล้ว และสิ่งที่เป็นหัวใจที่สุดในวันนี้ คือความเป็นอยู่ของประชาชน เขายากลำบากมากจริงๆ สถานการณ์มันชี้ให้เห็นว่า ถ้าคนไทยยังไม่หันหน้าเข้ามาหากัน ประเทศชาติคงจะเสียหายมาก คิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เราไม่อยากเห็นความขัดแย้งที่นำไปเหมือนสถานการณ์ในอดีตที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นห่วงในเรื่องของนายจักรภาพมาก เนื่องจากสาเหตุใด พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เท่าที่ฟังดูสิ่งนี้จะไปกระทบถึงส่วนร่วมต่อไป เราต้องเข้าใจว่า คนไทยคงจะยอมในเรื่องนี้ไม่ได้ หากเป็นจริงดังกล่าว ผู้ที่ประพฤติสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือพูดจาในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าเป็นใครต้องรับผิดชอบตัวเอง
เมื่อถามว่านายจักรภพ พูดคุยอะไรกับท่าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า นายจักรภพ ไปตรวจราชการ ส่วนตนไปในนามส่วนตัว พูดกันไม่ถึง 2-3 นาที ไม่มีการพูดจากันเรื่องอื่น เพราะนายจักรภพ มาตรวจราชการ ซึ่งนายจักรภพ บอกว่าถ้ามีโอกาสจะมาเยี่ยม มีเพียงแค่นั้นไม่ได้มีการพูดอะไรกัน
"เพ็ญ"ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เมื่อถามว่า ท่านช่วยชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นการแปลเอกสาร กรณีการหมิ่นสถาบันกษัตริย์ หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ได้เป็นตัวประสาน ทั้งนี้ เรื่องนี้คนไทยยอมไม่ได้ ส่วนนายจักรภพ ต้องรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นเรื่องของนายจักรภพ ว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้นายจักรภพ รับผิดชอบ เพื่อตัดตอนไม่ให้โยงไปถึงตนเองหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เมื่อถามว่าได้เตือนพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะถูกจับตามองในเรื่องนี้ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่เคยจะไปชี้แจงอะไรมาก เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว และตระหนักดีเชื่อว่าความรับผิดชอบของคนแต่ละคนมีแน่นอน ตนไม่อยากให้สังคมไทยไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือนปก. ไม่อยากให้ตกเข้าไปในแนวทางของคนอื่น และเกิดความขัดแย้งกัน ควรหันหน้าเข้าหากันมาร่วมมือ จับมือกัน ร่วมสร้างชาติบ้านเมืองดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ท่านเคยเสนอให้นายจักรภพ ไปขอโทษด้วยการกราบพระบาท พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนเสนอไปว่าวิถีทางที่ดีที่สุด คือการเอาชนะทางความคิด กับผู้ที่มีความคิดไม่ถูก ไม่ชอบ ไม่ควร เมื่อถามว่า กองทัพไม่พอใจกับสิ่งที่นายจักรภพ หมิ่นสถาบันฯ จะเป็นตัวกลางประสานกองทัพอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่เกี่ยว และไม่ใช่เฉพาะกองทัพที่ไม่พอใจ คนไทยยอมในสิ่งนี้ไม่ได้ หากนายจักรภพ ทำอย่างนั้นจริง เขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำ
ยอมรับยังทิ้งการเมืองไม่ได้
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอร้องให้ท่านไปเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า มันทำไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องทำ เพราะวันนี้ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะต้องเป็น ส.ส. แต่ตนไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อถามว่า หากยุบสภาและเลือกตั้งใหม่จะเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเข้าไปบริหารประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า วันนี้เรื่องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นความรับผิดชอบของทุกคน คนที่ผ่านในเรื่องของการรับผิดชอบมาแล้วยิ่งทิ้งไม่ได้
เมื่อถามว่าพร้อมเล่นการเมืองอีกครั้ง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า บอกหลายทีแล้วว่ามีหลายฐานะที่พอจะทำได้ เมื่อไปถึงตรงนั้นแล้วจะบอกอีกที เมื่อถามว่า พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนาย สมัคร หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "น้าหมักแฟนผมนะ อย่าไปว่าแก แฟนกัน" เมื่อถามว่า เบื่อการเมืองหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เบื่อไม่ได้ถ้าหากบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้อยู่
เมื่อถามว่า หากประชาชนอยากให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี จะรับหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวติดตลกว่า"ไม่เห็นมีใครอยากให้ผมเป็น มีแต่คุณคนเดียวที่อยากให้ผมเป็น"
เมื่อถามว่าในหนังสือเปิดโปงขวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า เชื่อมโยงกับคำพูดของนายจักรภพ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คนที่มีความรู้สึกในลักษณะอย่างนี้มีมาโดยตลอด ดังนั้น ต้องเอาชนะทางความคิด เพราะการชนะทางความคิด เป็นการชนะโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ปฏิวัติหรือไม่อยู่ที่ประชาชน
เมื่อถามว่า มีการเตรียมทุนในการเตรียมตัวลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวพร้อมหัวเราะว่า"มีอยู่ 10 สลึงเอง" เมื่อถามว่า ขณะนี้พยายามดึงทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นการปลุกผี คมช.หรือจะมีการปฏิวัติอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "คงไม่หรอกมั้ง คงยาก ประชาชนเอาดอกไม้ไปให้ทีเดียวคงพอแล้ว ถ้าทำอีกคงไม่ไหว หรอก ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนเท่านั้น"
เมื่อถามว่า มีคนมองว่าการเคลื่อนไหวของท่านในช่วงนี้เหมือนได้รับใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า wเกิดมายังมีใครสั่งได้ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
แฉส.ส.จัดฉากให้"เพ็ญ"พบ"จิ๋ว"
ด้าน พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ นายทหารใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ พบกับพล.อ. ชวลิต ที่ จ.นครพนมว่า เป็นการจัดฉากของส.ส.นครพนม บางคน รวมถึงกรณีที่ระบุว่า พล.อ.ชวลิต จะชี้แจงแทนนายจักรภพ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นคดีที่สำคัญกว่าคดีใดๆ และรอมชอมไม่ได้ ทั้งนี้ท่าทีของนายจักรภพที่ร้อนรน แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่พูดนั้นมีผลกระทบจริงเพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
"เขาเข้ามาพูดกับพล.อ.ชวลิต แค่ 3 นาทีเท่านั้น แล้วเอาไปพูดว่าพล.อ.ชวลิต จะช่วยไปชี้แจงกับทหาร หรือช่วยเคลียร์ให้ อย่างนี้มันไม่ถูก เพราะเป็นการดึงท่านเข้าไปอยู่ในวังวนเรื่องพวกนี้ พล.อ.ชวลิต ไม่รู้เรื่อง พล.อ.ชวลิต บอกกับ นายจักรภพว่า เป็นธรรมดาที่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตี เพราะมีกระบวนการจ้องล้มทางการเมือง แต่ก็ตำหนินายจักรภพว่า ร่ำเรียนมาสูง น่าจะรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร พูดโดยไม่คิด" พล.ท.พิรัช กล่าว
เผย"จิ๋ว"เตรียมตั้งพรรคใหม่
เมื่อถามว่า ข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบเพื่อขอให้ พล.อ.ชวลิต มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พล.ท.พิรัช กล่าวว่า ไม่จริง แต่หากบ้านเมืองไม่มีทางออก พล.อ.ชวลิต ก็พร้อมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาท่านทำอะไรหลายอย่าง ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต คงไม่เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่หากมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ตอนนี้ก็เริ่มฟอร์มทีมแล้ว ซึ่งจะลงพื้นที่ในทุกสัปดาห์มากขึ้น แต่ยังไม่บอกว่าจะเป็นแนวทางใด เพียงแต่ว่า ตอนนี้การเมืองไม่นิ่ง มีการจ้องล้มกัน หากบ้านเมืองเกิดวิกฤติ พล.อ.ชวลิต จะไม่หนีไปไหน หากประเทศชาติเกิดปัญหา
ผบ.เหล่าทัพถก"เพ็ญ"หมิ่นสถาบันฯ
เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้(20พ.ค.) บรรดาผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้นัดหารือนอกรอบ ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส., พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร., และพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เข้าร่วมหารือเป็นเวลาประมาณ 2 ชม.
หลังการประชุม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่ต้องพูดคุยกันทุกเดือน ถึงปัญหาต่างๆในด้านการทหาร เพื่อที่จะนำเรียนให้รมว.กลาโหมทราบ เป็นการพูดคุยถึงเรื่องทางทหารเป็นหลัก ไม่มีการพูดการเมือง รวมถึงเรื่องของ คตส. หากจะคุยคงไปใช้เวทีอื่น แต่มีการพูดคุยนอกรอบ ถึงกรณีที่ฝ่ายการเมือง ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งเราเป็นห่วงมาก เพราะกองทัพเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราไม่อยากเห็น ไม่อยากให้มีการพาดพิงสถาบันฯ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ทั้งนี้ ที่นายจักรภพ ออกมาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น กองทัพ มีความเป็นห่วงที่มีการนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีกัน อยากให้ทุกฝ่ายหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ และควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า อดีต คมช.จะนัดหารือปัญหาของ คตส. นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงนัดหารือไม่ได้ เพราะตอนนี้ คมช. ไม่มีแล้ว และจะให้อดีต คมช.มานั่งประชุม มันดูพิกล ที่สำคัญ คมช.ไม่มีอำนาจอะไรแล้ว ช่วยได้ก็แค่ทางสปิริต จะไปนัดเป็นทางการไม่ได้ ทั้งนี้ เราก็สงสาร คตส. แต่ควรดูแลหากเห็นว่าน่าจะดูแล ทหารทำหน้าที่ทหารไป เพราะตอนเป็น คมช. คือทหารที่ไปทำหน้าที่การเมือง ตอนนี้หมดหน้าที่แล้ว
เมื่อถามว่า หากเกิดปัญหาความวุ่นวาย โดยเฉพาะการดึงสถาบันฯ ลงมาเกี่ยวกับการเมือง ทหารจะออกมาดูแล ความสงบอีกครั้งหรือไม่ ผบ.สส. กล่าวว่า ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลดำเนินการ ทหารเราห่วง แต่ต้องให้ผู้มีบทบาทดำเนินการ ทหารคงรอดูด้วยความอดทน
"การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ทหารก็มีหน้าที่ในการถวายความจงรักภักดี แต่ว่าหน้าที่จัดการอะไรก็เป็นเรื่องของคนที่มีหน้าที่โดยตรง ส่วนการจะไปเตือนการเมืองอะไร หรือไม่นั้น คงไม่ใช่หน้าที่ของทหาร น่าจะเป็นหน้าที่ขององค์กรทางการเมือง ในการไปเตือน"
เมื่อถามว่า พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้เรียก ผบ.เหล่าทัพ ไปพุดคุยถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ท่านไม่เคยเรียกไปคุยเลย ส่วนที่มีข่าวออกมานั้น ตนว่า เป็นเพราะคนชอบ ไปใส่สีจนทำให้ยุ่งไปหมด ส่วนคนหัวเถิก ที่เอามาสร้างเรื่องนั้น ตนว่า คนลักษณะดังกล่าวมีเยอะเหลือเกิน
ยอมรับทหารรู้สึกอึดอัด
ด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะที่ปรึกษา กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการออกมาเรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติอีกครั้งว่า ตนออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่เป็นการปลุกกระแส แต่เนื่องจากเห็นว่าการบริงานของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีหนทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้ และขณะนี้ทหารทุกคนก็รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะตนเมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องออกมาเรียกร้อง มาแสดงความคิดเห็น เพราะในฐานะคนไทยต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่การได้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบริหารบ้านเมืองโดยไม่มีความชอบธรรม ประเทศชาติก็ไปไม่รอด เพราะขณะนี้ประชาธิปไตยไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาใดได้ เรามีแต่นักเลือกตั้งที่ใช้กฎศรีธนชัย ทุกอย่างต้องตีความหมด เป็นการตีความเพื่อเอาตัวรอด ทำให้ผลประโยชน์บ้านเมืองระส่ำระส่าย ยิ่งคนในคณะรัฐมนตรีที่มีแนวความคิดล้มล้างสถาบันฯ บ้านเมืองก็ตกต่ำลงทุกที
"เพ็ญ"บ่ายเบี่ยงเรื่องพูดที่แอลเอ.
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงว่า ที่ผ่านมานี้ตนถูกโจมตีด้วยใบปลิว เป็นการแปลที่ไม่กล้าลงชื่อว่าใครแปล และแปลผิดๆ ถูกๆ หาเรื่องหาราวกันไป ก็ทำเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่งตนกำลังจะเอาฉบับแปลจริงออกมาในเร็ววันนี้ เรื่องจะได้จบไปเสียที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ได้ไปพูดที่ แอลเอ. ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงที่เป็น นปก. ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ เช่นกัน นายจักรภพ กล่าวว่า โอ๊ย..เรื่องเก่าแก่เลย ก็ช่วงเดียวกับที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไปพูดที่แอลเอ.นั่นแหละ จำได้ไหมว่า เคยได้พูดอะไรไว้บ้าง ซึ่งในส่วนของตนเองนั้น เอาเป็นว่าในสถานการณ์หนึ่งมันก็มีลีลาการพูดที่ดุเด็ดเผ็ดมัน นั่นเป็นช่วงที่ประท้วงกัน เนื้อหาสาระเป็นเพียงการเล่าเบื้องหลังของสิ่งที่เกิดที่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นประเด็นหลัก เพราะสื่อกระแสหลักก็ไม่จุดเรื่องนี้ เพราะเห็นแก่บ้านเมืองแล้ว ก็เอาแค่เรื่องคำบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเท่านั้นเอง แล้วตนก็จะเอาคำแปลที่ถูกต้องออกมา เรื่องทั้งหมดนี้จะได้จบสิ้นลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ว่าต้องต่อสู้กับกลุ่มบุคคลที่สูงกว่า พอจะเปิดเผยได้หรือไม่เป็นบุคคลกลุ่มใด นายจักรภพ กล่าวว่า ก็ระบอบอำมาตยาธิปไตย คือกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังบุคคลต่างๆ ที่ในที่สุดต้องออกมายึดอำนาจ คนเหล่านี้สูงกว่าในฐานะการเงิน ฐานะการเมือง เพราะไปซ่อนอยู่ข้างหลัง คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจก็มี เป็นนักวิชาการก็มี ชาวต่างชาติก็มี
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพื่อเป็นการเตรียมการสู้รบกับระบอบอำมาตยาธิปไตย เป็นการเตรียมกำลังไว้ต่อสู้กับพล.อ.เปรม ใช่หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า นั้นมันเรื่องเก่าแก่แล้ว อย่าพูดเรื่องนั้นเลย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่อธิบายหน่อยหรือครับ นายจักรภพ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่จำเป็น ไปถามคุณสนธิ ลิ้ม คนที่จุดขึ้นมาก็แล้วกันว่า จุดทำไม
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่เป็นสิ่งที่ท่านพูดขึ้นมาเอง นายจักรภพ กล่าวย้อนว่า ครับ แต่ก็เป็นสิ่งที่คุณสนธิ ลิ้มจุดขึ้นมา ตั้งปีกว่าแล้ว คนที่มีความจงรักภักดี หรือคนที่กลัวว่าจะเกี่ยวกับสถาบันฯ ตอนนั้นไปหลบอยู่ที่ไหนกัน ไม่ออกมา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเองจะได้ชี้แจงทำให้สังคมได้เกิดความเข้าใจชัดเจน
โบ้ย"เมียบิ๊กทหาร"ปล่อยใบปลิว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้มีเสียงสะท้อนจากทหาร เกี่ยวกับกับตัวรัฐมนตรี ในเชิงไม่ดี นายจักรภพ กล่าวว่า อ๋อ หรือครับ เพราะมันมีคนเอาคำแปลผิดไปแจกจ่ายในหมู่ทหาร
"ภริยานายทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย แต่อย่าให้พูดถึงเลย เดี๋ยวมันจะยาวไกลออกไป เอาเป็นว่า เมื่อเอาเอกสารผิดไปเผยแพร่ ก็รู้สึกไม่ดีซิครับ เอาไว้รอเอกสารจริงออกมา ผมเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจว่าความจริงคืออะไร และผมจะชี้จุดด้วยว่า ตรงไหนที่เขาเอาไปบิดเบือนจนกลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา"
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีภรรยาทหารเกี่ยวข้องด้วยนั้นเกี่ยวข้องอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า เกี่ยวข้องกับการแปล และแจกจ่ายเอกสารให้กับผู้นำกองทัพและกองพันต่างๆ ซึ่งตนรู้ตัวคนทำแล้ว แต่คงยังไม่จัดการอะไร เพราะต้องทำตามขั้นตอนก่อน และต้องทำให้สังคมเข้าใจในตัวคนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีของบ้านเมืองก่อน ส่วนใครจะหลบอยู่หลังใคร หรือเป็นเงาของใคร เอาไว้ว่ากันในโอกาสหน้า
ส่วนกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากครม. นั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่านายกฯ เป็นคนหนักแน่น รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการทิ่มแทงทางการเมืองขณะนี้ ใครอยู่เบื้องหลังใคร อย่างไร ดังนั้นคนที่จะให้คำตอบในขั้นตอนต่อไปได้ คือนายกรัฐมนตรี
อ้างพบ"บิ๊กจิ๋ว" เป็นความบังเอิญ
นายจักรภพ ยังกล่าวถึงการพบกับ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จ.นครพนม ว่าเป็นการพบโดยบังเอิญ และไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย แต่พล.อ.ชวลิต ได้บอกว่าตอนนี้มีการเข้าใจผิดกันมาก เดี๋ยวจะช่วยเคลียร์ให้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปพูดกับใคร ที่ไหน
ทั้งนี้ นายจักรภพ อ้างว่า ที่ไปจ.นครพนม ด้วย 2 สาเหตุ คือ เป็นตรวจราชการในเขตที่ตนรับผิดชอบ และ ไปร่วมงานทำบุญของหลวงปู่บุญมา ที่วัดภูพาน และไปร่วมงานฉลองอายุ ของท่านเจ้าคุณพรหมวชิรญาณ ซึ่งท่านไปฉลองที่นั่นด้วย
"เมื่อไปถึงเห็นป้ายพ่อใหญ่บิ๊กจิ๋วเต็มเมืองไปหมด ก็เลยถามท่านผู้ใหญ่ในเมืองว่า ท่านมาหรือ พอรู้ว่ามา ก็บอกว่า ตนอยากไปพบ เพราะระยะนี้ท่านออกมาให้ความเห็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมือง เดี๋ยวท่านจะเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับท่าน ก็เลยอยากไปหาท่าน ไปกราบไหว้ แต่แทบจะไม่ได้พูดจาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ท่านก็ยังกรุณาว่า เข้าใจผิดกัน เยอะ เดี๋ยวจะช่วยอธิบายให้ เดี๋ยวจะช่วยเคลียร์ให้ ท่านไม่ได้บอกหรอกครับจะไปพูด กับใครที่ไหน อย่างไร เรื่องนี้ถ้าอยากทราบต้องไปถามกับท่าน และท่านไม่ได้แนะนำอะไร พูดกันเพียงสั้นๆ ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น" นายจักรภพกล่าว
ตร.ประชุมเตรียมสรุปคดี
สำหรับความคืบหน้าคดีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข และ นายโจนาธาน เฮด ( Jonathan Head )ผู้สื่อข่าวบีบีซี และ คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น วันที่ 22 พ.ค. เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี ที่มี พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะ ที่ห้องประชุม 304 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ( บช.ก. )
โดย ดีวีดี บันทึกภาพและเสียงดังกล่าว ที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นั้นขณะนี้ กองการต่างประเทศ สตช. ได้แปลเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนจะหารือว่าเนื้อหาที่ นายจักรภพ และ นายโจนาธาน เฮด ให้สัมภาษณ์ และบรรยายนั้น เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งหากที่ประชุมลงความเห็นว่าผิดจริง ขั้นตอนตอนต่อไปจะดำเนินการเรียกทั้งสองมาให้ปากคำและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พปช.สายอีสานถกขับ"เพ็ญ"วันนี้
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ ปาถกฐาให้คนไทยในอเมริกาในช่วงที่เป็นแกนนำ นปก.เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 50 ซึ่งถูกมองว่าอาจหมิ่เหม่สถาบันฯ ว่า ในวันนี้ส.ส.ในภาคอีสานหลายคน จะร่วมหารือเป็นการภายใน โดยจะหารือถึงประเด็นที่ นายจักรภพ ถูกกล่าวหา เพื่อแสดงจุดยืน และท่าทีของส.ส.กลุ่มต่อประเด็นดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ายังไม่ฟังคำพูดจากการบันทึกเทปของนายจักรภพ อย่างละเอียด แต่เท่าที่ติดตามประเด็นข่าวเบื้องต้นทราบว่า นายจักรภพ พูดถึงประเด็นศักดินา ซึ่งหากนายจักรภพผิดจริง ส.ส.ในพรรคก็คงรับไม่ได้ และเชื่อว่านายสมัคร จะมีวิจารณาณต่อการทำหน้าที่ของนายจักรภพ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นหากนายจักรภพ ถูกปรับออกตำแหน่ง ก็คงต้องถือว่า มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรี และอยู่มาได้ถึงตอนนี้นายจักรภพก็มีบุญมากแล้ว
แฉเว็บอุบาทว์จ้องล้มล้างสถาบัน
นาย เทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเรียกร้องให้รมว.ไอซีที ตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลเว็บไซต์ จำนวน 5 เว็บ ที่เป็นประเภทล้มล้างสถาบัน ประกอบด้วย www.youtube.com/StopleseMajeste ซึ่งเป็นเว็ปที่แสดงภาพการตัดต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ไม่เหามะสม www.2519me.com เป็นเว็บ ที่มีการมีการปลุกระดมมวลชนให้สร้างเครือข่ายคอมมิวนิสต์ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ชื่อ" สำนักคิดไทยใหม่" http://hello-siam.blogspot.com มีเนื้อหาเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์ ของพระมหากษัตริย์ www.http://rukchard.blogspot.com มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์ราชการที่ 8 โดยโยงใยมาถึงนาย ปรีดี พนมยงค์ และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดฟังคลิปเสียงได้ โดยใช้ชื่อว่า อ.ชีพ ชูชัย และ http://chakridynasty.googlepages.com ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับราชวงค์จักรี ตั้งแต่รัชการที่1 ถึงรัชการที่ 9 โดยในความระบุถึงความต้องการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง
นอกจากนี้ยังมีเว็ปไซด์อื่นๆ อีก 24 เว็บ ที่มีการเปิดกระทู้ไว้ โดยเจ้าของปล่อยปละละเลย ปล่อยให้มีการตั้งกระทู้พาดพิงถึงบุคคลอื่นจนได้รับความเสียหาย เช่นโจมตีสถาบันองคมนตรี โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และชื่นชมเชียร์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
"การที่มีคนออกมาเรียกร้องให้ยุติการทำเรื่องสถาบันมาโยงให้เป็นประเด็นการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย แต่เปรียบเหมือนกับคนที่เห็นไฟไหม้บ้านแล้วพยายามตะโกนบอก แต่มีอีกฝ่ายบอกว่าไม่ควรตะโกน อยากให้ไฟไหม้บ้านหรืออย่างไร" นายเทพไท กล่าว
"เป็ดเหลิม"ขึงขังจัดการเว็บอุบาทว์
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาล และกระทรวงไอซีที ดำเนินการต่อเว็บไซต์ ที่จาบจ้วง และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า เรื่องนี้มีกฎหมายด้านความมั่นคงมาดำเนินการกับเว็บไซต์ต่างได้ ซึ่งตนจะเรียกประชุมและจะติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้ง 29 เว็บไซต์
เมื่อถามว่าหากมีบางเว็บไซต์เข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน จะพร้อมเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ดำเนินคดีกับทุกคนที่กระทำความผิด เว้นไม่ได้ แต่จะอ้างว่าส่งข้อความมาจากต่างประเทศในทำนองหมิ่นสถาบันฯ ถือว่าเป็นตัวการร่วมกัน หากมีบุคคลที่เข้าไปแสดงความเห็นในทางเสียหาย ก็ต้องติดคุกด้วย เรื่องอย่างนี้ต้องมีความสำนึก และปล่อยปละละเลยไม่ได้
เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (20พ.ค.) ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าอวยพร และพูดคุยเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ76 ปีที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอวยพรในฐานะที่รู้จักกัน และเคยทำงานเพื่อประเทศชาติร่วมกันมา แต่มีสาระอยู่ 2 เรื่อง คือ
1.พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่า ปฏิเสธที่จะดำเนินงานการเมืองอีกต่อไป วันนี้รออยู่แต่เพียงว่าจะได้รับความเมตตา หรือการดูแลจากกระบวนการยุติธรรมอย่างไร นี่คือสิ่งที่ได้ฟังมา จริงเท็จอย่างไรท่านไปคิดเอาเอง
2. กรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ มีความห่วงใยมากที่นาย จักรภพ พูดจาไป ซึ่งท่านบอกว่า นายจักรภพต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ และคงพิจารณาตัวเองได้ว่าต้องทำอย่างไร
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากให้ท่านช่วยดูแลประเทศชาติอย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่ได้พูดจาอะไรกันเป็นพิเศษ เพราะท่านตระหนักดีว่าถึงแม้จะไม่ฝาก ตนก็ทำอยู่แล้ว และสิ่งที่เป็นหัวใจที่สุดในวันนี้ คือความเป็นอยู่ของประชาชน เขายากลำบากมากจริงๆ สถานการณ์มันชี้ให้เห็นว่า ถ้าคนไทยยังไม่หันหน้าเข้ามาหากัน ประเทศชาติคงจะเสียหายมาก คิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เราไม่อยากเห็นความขัดแย้งที่นำไปเหมือนสถานการณ์ในอดีตที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นห่วงในเรื่องของนายจักรภาพมาก เนื่องจากสาเหตุใด พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เท่าที่ฟังดูสิ่งนี้จะไปกระทบถึงส่วนร่วมต่อไป เราต้องเข้าใจว่า คนไทยคงจะยอมในเรื่องนี้ไม่ได้ หากเป็นจริงดังกล่าว ผู้ที่ประพฤติสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือพูดจาในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าเป็นใครต้องรับผิดชอบตัวเอง
เมื่อถามว่านายจักรภพ พูดคุยอะไรกับท่าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า นายจักรภพ ไปตรวจราชการ ส่วนตนไปในนามส่วนตัว พูดกันไม่ถึง 2-3 นาที ไม่มีการพูดจากันเรื่องอื่น เพราะนายจักรภพ มาตรวจราชการ ซึ่งนายจักรภพ บอกว่าถ้ามีโอกาสจะมาเยี่ยม มีเพียงแค่นั้นไม่ได้มีการพูดอะไรกัน
"เพ็ญ"ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เมื่อถามว่า ท่านช่วยชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นการแปลเอกสาร กรณีการหมิ่นสถาบันกษัตริย์ หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ได้เป็นตัวประสาน ทั้งนี้ เรื่องนี้คนไทยยอมไม่ได้ ส่วนนายจักรภพ ต้องรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นเรื่องของนายจักรภพ ว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้นายจักรภพ รับผิดชอบ เพื่อตัดตอนไม่ให้โยงไปถึงตนเองหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เมื่อถามว่าได้เตือนพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะถูกจับตามองในเรื่องนี้ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่เคยจะไปชี้แจงอะไรมาก เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว และตระหนักดีเชื่อว่าความรับผิดชอบของคนแต่ละคนมีแน่นอน ตนไม่อยากให้สังคมไทยไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือนปก. ไม่อยากให้ตกเข้าไปในแนวทางของคนอื่น และเกิดความขัดแย้งกัน ควรหันหน้าเข้าหากันมาร่วมมือ จับมือกัน ร่วมสร้างชาติบ้านเมืองดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ท่านเคยเสนอให้นายจักรภพ ไปขอโทษด้วยการกราบพระบาท พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนเสนอไปว่าวิถีทางที่ดีที่สุด คือการเอาชนะทางความคิด กับผู้ที่มีความคิดไม่ถูก ไม่ชอบ ไม่ควร เมื่อถามว่า กองทัพไม่พอใจกับสิ่งที่นายจักรภพ หมิ่นสถาบันฯ จะเป็นตัวกลางประสานกองทัพอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่เกี่ยว และไม่ใช่เฉพาะกองทัพที่ไม่พอใจ คนไทยยอมในสิ่งนี้ไม่ได้ หากนายจักรภพ ทำอย่างนั้นจริง เขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำ
ยอมรับยังทิ้งการเมืองไม่ได้
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอร้องให้ท่านไปเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า มันทำไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องทำ เพราะวันนี้ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะต้องเป็น ส.ส. แต่ตนไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อถามว่า หากยุบสภาและเลือกตั้งใหม่จะเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเข้าไปบริหารประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า วันนี้เรื่องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นความรับผิดชอบของทุกคน คนที่ผ่านในเรื่องของการรับผิดชอบมาแล้วยิ่งทิ้งไม่ได้
เมื่อถามว่าพร้อมเล่นการเมืองอีกครั้ง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า บอกหลายทีแล้วว่ามีหลายฐานะที่พอจะทำได้ เมื่อไปถึงตรงนั้นแล้วจะบอกอีกที เมื่อถามว่า พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนาย สมัคร หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "น้าหมักแฟนผมนะ อย่าไปว่าแก แฟนกัน" เมื่อถามว่า เบื่อการเมืองหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เบื่อไม่ได้ถ้าหากบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้อยู่
เมื่อถามว่า หากประชาชนอยากให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี จะรับหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวติดตลกว่า"ไม่เห็นมีใครอยากให้ผมเป็น มีแต่คุณคนเดียวที่อยากให้ผมเป็น"
เมื่อถามว่าในหนังสือเปิดโปงขวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า เชื่อมโยงกับคำพูดของนายจักรภพ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คนที่มีความรู้สึกในลักษณะอย่างนี้มีมาโดยตลอด ดังนั้น ต้องเอาชนะทางความคิด เพราะการชนะทางความคิด เป็นการชนะโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ปฏิวัติหรือไม่อยู่ที่ประชาชน
เมื่อถามว่า มีการเตรียมทุนในการเตรียมตัวลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวพร้อมหัวเราะว่า"มีอยู่ 10 สลึงเอง" เมื่อถามว่า ขณะนี้พยายามดึงทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นการปลุกผี คมช.หรือจะมีการปฏิวัติอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "คงไม่หรอกมั้ง คงยาก ประชาชนเอาดอกไม้ไปให้ทีเดียวคงพอแล้ว ถ้าทำอีกคงไม่ไหว หรอก ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนเท่านั้น"
เมื่อถามว่า มีคนมองว่าการเคลื่อนไหวของท่านในช่วงนี้เหมือนได้รับใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า wเกิดมายังมีใครสั่งได้ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
แฉส.ส.จัดฉากให้"เพ็ญ"พบ"จิ๋ว"
ด้าน พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ นายทหารใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ พบกับพล.อ. ชวลิต ที่ จ.นครพนมว่า เป็นการจัดฉากของส.ส.นครพนม บางคน รวมถึงกรณีที่ระบุว่า พล.อ.ชวลิต จะชี้แจงแทนนายจักรภพ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นคดีที่สำคัญกว่าคดีใดๆ และรอมชอมไม่ได้ ทั้งนี้ท่าทีของนายจักรภพที่ร้อนรน แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่พูดนั้นมีผลกระทบจริงเพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
"เขาเข้ามาพูดกับพล.อ.ชวลิต แค่ 3 นาทีเท่านั้น แล้วเอาไปพูดว่าพล.อ.ชวลิต จะช่วยไปชี้แจงกับทหาร หรือช่วยเคลียร์ให้ อย่างนี้มันไม่ถูก เพราะเป็นการดึงท่านเข้าไปอยู่ในวังวนเรื่องพวกนี้ พล.อ.ชวลิต ไม่รู้เรื่อง พล.อ.ชวลิต บอกกับ นายจักรภพว่า เป็นธรรมดาที่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตี เพราะมีกระบวนการจ้องล้มทางการเมือง แต่ก็ตำหนินายจักรภพว่า ร่ำเรียนมาสูง น่าจะรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร พูดโดยไม่คิด" พล.ท.พิรัช กล่าว
เผย"จิ๋ว"เตรียมตั้งพรรคใหม่
เมื่อถามว่า ข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบเพื่อขอให้ พล.อ.ชวลิต มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พล.ท.พิรัช กล่าวว่า ไม่จริง แต่หากบ้านเมืองไม่มีทางออก พล.อ.ชวลิต ก็พร้อมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาท่านทำอะไรหลายอย่าง ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต คงไม่เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่หากมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ตอนนี้ก็เริ่มฟอร์มทีมแล้ว ซึ่งจะลงพื้นที่ในทุกสัปดาห์มากขึ้น แต่ยังไม่บอกว่าจะเป็นแนวทางใด เพียงแต่ว่า ตอนนี้การเมืองไม่นิ่ง มีการจ้องล้มกัน หากบ้านเมืองเกิดวิกฤติ พล.อ.ชวลิต จะไม่หนีไปไหน หากประเทศชาติเกิดปัญหา
ผบ.เหล่าทัพถก"เพ็ญ"หมิ่นสถาบันฯ
เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้(20พ.ค.) บรรดาผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้นัดหารือนอกรอบ ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส., พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร., และพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เข้าร่วมหารือเป็นเวลาประมาณ 2 ชม.
หลังการประชุม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่ต้องพูดคุยกันทุกเดือน ถึงปัญหาต่างๆในด้านการทหาร เพื่อที่จะนำเรียนให้รมว.กลาโหมทราบ เป็นการพูดคุยถึงเรื่องทางทหารเป็นหลัก ไม่มีการพูดการเมือง รวมถึงเรื่องของ คตส. หากจะคุยคงไปใช้เวทีอื่น แต่มีการพูดคุยนอกรอบ ถึงกรณีที่ฝ่ายการเมือง ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งเราเป็นห่วงมาก เพราะกองทัพเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราไม่อยากเห็น ไม่อยากให้มีการพาดพิงสถาบันฯ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ทั้งนี้ ที่นายจักรภพ ออกมาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น กองทัพ มีความเป็นห่วงที่มีการนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีกัน อยากให้ทุกฝ่ายหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ และควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า อดีต คมช.จะนัดหารือปัญหาของ คตส. นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงนัดหารือไม่ได้ เพราะตอนนี้ คมช. ไม่มีแล้ว และจะให้อดีต คมช.มานั่งประชุม มันดูพิกล ที่สำคัญ คมช.ไม่มีอำนาจอะไรแล้ว ช่วยได้ก็แค่ทางสปิริต จะไปนัดเป็นทางการไม่ได้ ทั้งนี้ เราก็สงสาร คตส. แต่ควรดูแลหากเห็นว่าน่าจะดูแล ทหารทำหน้าที่ทหารไป เพราะตอนเป็น คมช. คือทหารที่ไปทำหน้าที่การเมือง ตอนนี้หมดหน้าที่แล้ว
เมื่อถามว่า หากเกิดปัญหาความวุ่นวาย โดยเฉพาะการดึงสถาบันฯ ลงมาเกี่ยวกับการเมือง ทหารจะออกมาดูแล ความสงบอีกครั้งหรือไม่ ผบ.สส. กล่าวว่า ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลดำเนินการ ทหารเราห่วง แต่ต้องให้ผู้มีบทบาทดำเนินการ ทหารคงรอดูด้วยความอดทน
"การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ทหารก็มีหน้าที่ในการถวายความจงรักภักดี แต่ว่าหน้าที่จัดการอะไรก็เป็นเรื่องของคนที่มีหน้าที่โดยตรง ส่วนการจะไปเตือนการเมืองอะไร หรือไม่นั้น คงไม่ใช่หน้าที่ของทหาร น่าจะเป็นหน้าที่ขององค์กรทางการเมือง ในการไปเตือน"
เมื่อถามว่า พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้เรียก ผบ.เหล่าทัพ ไปพุดคุยถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ท่านไม่เคยเรียกไปคุยเลย ส่วนที่มีข่าวออกมานั้น ตนว่า เป็นเพราะคนชอบ ไปใส่สีจนทำให้ยุ่งไปหมด ส่วนคนหัวเถิก ที่เอามาสร้างเรื่องนั้น ตนว่า คนลักษณะดังกล่าวมีเยอะเหลือเกิน
ยอมรับทหารรู้สึกอึดอัด
ด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะที่ปรึกษา กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการออกมาเรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติอีกครั้งว่า ตนออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่เป็นการปลุกกระแส แต่เนื่องจากเห็นว่าการบริงานของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีหนทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้ และขณะนี้ทหารทุกคนก็รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะตนเมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องออกมาเรียกร้อง มาแสดงความคิดเห็น เพราะในฐานะคนไทยต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่การได้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบริหารบ้านเมืองโดยไม่มีความชอบธรรม ประเทศชาติก็ไปไม่รอด เพราะขณะนี้ประชาธิปไตยไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาใดได้ เรามีแต่นักเลือกตั้งที่ใช้กฎศรีธนชัย ทุกอย่างต้องตีความหมด เป็นการตีความเพื่อเอาตัวรอด ทำให้ผลประโยชน์บ้านเมืองระส่ำระส่าย ยิ่งคนในคณะรัฐมนตรีที่มีแนวความคิดล้มล้างสถาบันฯ บ้านเมืองก็ตกต่ำลงทุกที
"เพ็ญ"บ่ายเบี่ยงเรื่องพูดที่แอลเอ.
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงว่า ที่ผ่านมานี้ตนถูกโจมตีด้วยใบปลิว เป็นการแปลที่ไม่กล้าลงชื่อว่าใครแปล และแปลผิดๆ ถูกๆ หาเรื่องหาราวกันไป ก็ทำเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่งตนกำลังจะเอาฉบับแปลจริงออกมาในเร็ววันนี้ เรื่องจะได้จบไปเสียที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ได้ไปพูดที่ แอลเอ. ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงที่เป็น นปก. ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ เช่นกัน นายจักรภพ กล่าวว่า โอ๊ย..เรื่องเก่าแก่เลย ก็ช่วงเดียวกับที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไปพูดที่แอลเอ.นั่นแหละ จำได้ไหมว่า เคยได้พูดอะไรไว้บ้าง ซึ่งในส่วนของตนเองนั้น เอาเป็นว่าในสถานการณ์หนึ่งมันก็มีลีลาการพูดที่ดุเด็ดเผ็ดมัน นั่นเป็นช่วงที่ประท้วงกัน เนื้อหาสาระเป็นเพียงการเล่าเบื้องหลังของสิ่งที่เกิดที่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นประเด็นหลัก เพราะสื่อกระแสหลักก็ไม่จุดเรื่องนี้ เพราะเห็นแก่บ้านเมืองแล้ว ก็เอาแค่เรื่องคำบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเท่านั้นเอง แล้วตนก็จะเอาคำแปลที่ถูกต้องออกมา เรื่องทั้งหมดนี้จะได้จบสิ้นลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ว่าต้องต่อสู้กับกลุ่มบุคคลที่สูงกว่า พอจะเปิดเผยได้หรือไม่เป็นบุคคลกลุ่มใด นายจักรภพ กล่าวว่า ก็ระบอบอำมาตยาธิปไตย คือกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังบุคคลต่างๆ ที่ในที่สุดต้องออกมายึดอำนาจ คนเหล่านี้สูงกว่าในฐานะการเงิน ฐานะการเมือง เพราะไปซ่อนอยู่ข้างหลัง คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจก็มี เป็นนักวิชาการก็มี ชาวต่างชาติก็มี
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพื่อเป็นการเตรียมการสู้รบกับระบอบอำมาตยาธิปไตย เป็นการเตรียมกำลังไว้ต่อสู้กับพล.อ.เปรม ใช่หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า นั้นมันเรื่องเก่าแก่แล้ว อย่าพูดเรื่องนั้นเลย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่อธิบายหน่อยหรือครับ นายจักรภพ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่จำเป็น ไปถามคุณสนธิ ลิ้ม คนที่จุดขึ้นมาก็แล้วกันว่า จุดทำไม
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่เป็นสิ่งที่ท่านพูดขึ้นมาเอง นายจักรภพ กล่าวย้อนว่า ครับ แต่ก็เป็นสิ่งที่คุณสนธิ ลิ้มจุดขึ้นมา ตั้งปีกว่าแล้ว คนที่มีความจงรักภักดี หรือคนที่กลัวว่าจะเกี่ยวกับสถาบันฯ ตอนนั้นไปหลบอยู่ที่ไหนกัน ไม่ออกมา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเองจะได้ชี้แจงทำให้สังคมได้เกิดความเข้าใจชัดเจน
โบ้ย"เมียบิ๊กทหาร"ปล่อยใบปลิว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้มีเสียงสะท้อนจากทหาร เกี่ยวกับกับตัวรัฐมนตรี ในเชิงไม่ดี นายจักรภพ กล่าวว่า อ๋อ หรือครับ เพราะมันมีคนเอาคำแปลผิดไปแจกจ่ายในหมู่ทหาร
"ภริยานายทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย แต่อย่าให้พูดถึงเลย เดี๋ยวมันจะยาวไกลออกไป เอาเป็นว่า เมื่อเอาเอกสารผิดไปเผยแพร่ ก็รู้สึกไม่ดีซิครับ เอาไว้รอเอกสารจริงออกมา ผมเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจว่าความจริงคืออะไร และผมจะชี้จุดด้วยว่า ตรงไหนที่เขาเอาไปบิดเบือนจนกลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา"
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีภรรยาทหารเกี่ยวข้องด้วยนั้นเกี่ยวข้องอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า เกี่ยวข้องกับการแปล และแจกจ่ายเอกสารให้กับผู้นำกองทัพและกองพันต่างๆ ซึ่งตนรู้ตัวคนทำแล้ว แต่คงยังไม่จัดการอะไร เพราะต้องทำตามขั้นตอนก่อน และต้องทำให้สังคมเข้าใจในตัวคนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีของบ้านเมืองก่อน ส่วนใครจะหลบอยู่หลังใคร หรือเป็นเงาของใคร เอาไว้ว่ากันในโอกาสหน้า
ส่วนกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากครม. นั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่านายกฯ เป็นคนหนักแน่น รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการทิ่มแทงทางการเมืองขณะนี้ ใครอยู่เบื้องหลังใคร อย่างไร ดังนั้นคนที่จะให้คำตอบในขั้นตอนต่อไปได้ คือนายกรัฐมนตรี
อ้างพบ"บิ๊กจิ๋ว" เป็นความบังเอิญ
นายจักรภพ ยังกล่าวถึงการพบกับ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จ.นครพนม ว่าเป็นการพบโดยบังเอิญ และไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย แต่พล.อ.ชวลิต ได้บอกว่าตอนนี้มีการเข้าใจผิดกันมาก เดี๋ยวจะช่วยเคลียร์ให้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปพูดกับใคร ที่ไหน
ทั้งนี้ นายจักรภพ อ้างว่า ที่ไปจ.นครพนม ด้วย 2 สาเหตุ คือ เป็นตรวจราชการในเขตที่ตนรับผิดชอบ และ ไปร่วมงานทำบุญของหลวงปู่บุญมา ที่วัดภูพาน และไปร่วมงานฉลองอายุ ของท่านเจ้าคุณพรหมวชิรญาณ ซึ่งท่านไปฉลองที่นั่นด้วย
"เมื่อไปถึงเห็นป้ายพ่อใหญ่บิ๊กจิ๋วเต็มเมืองไปหมด ก็เลยถามท่านผู้ใหญ่ในเมืองว่า ท่านมาหรือ พอรู้ว่ามา ก็บอกว่า ตนอยากไปพบ เพราะระยะนี้ท่านออกมาให้ความเห็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมือง เดี๋ยวท่านจะเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับท่าน ก็เลยอยากไปหาท่าน ไปกราบไหว้ แต่แทบจะไม่ได้พูดจาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ท่านก็ยังกรุณาว่า เข้าใจผิดกัน เยอะ เดี๋ยวจะช่วยอธิบายให้ เดี๋ยวจะช่วยเคลียร์ให้ ท่านไม่ได้บอกหรอกครับจะไปพูด กับใครที่ไหน อย่างไร เรื่องนี้ถ้าอยากทราบต้องไปถามกับท่าน และท่านไม่ได้แนะนำอะไร พูดกันเพียงสั้นๆ ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น" นายจักรภพกล่าว
ตร.ประชุมเตรียมสรุปคดี
สำหรับความคืบหน้าคดีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข และ นายโจนาธาน เฮด ( Jonathan Head )ผู้สื่อข่าวบีบีซี และ คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น วันที่ 22 พ.ค. เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี ที่มี พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะ ที่ห้องประชุม 304 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ( บช.ก. )
โดย ดีวีดี บันทึกภาพและเสียงดังกล่าว ที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นั้นขณะนี้ กองการต่างประเทศ สตช. ได้แปลเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนจะหารือว่าเนื้อหาที่ นายจักรภพ และ นายโจนาธาน เฮด ให้สัมภาษณ์ และบรรยายนั้น เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งหากที่ประชุมลงความเห็นว่าผิดจริง ขั้นตอนตอนต่อไปจะดำเนินการเรียกทั้งสองมาให้ปากคำและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พปช.สายอีสานถกขับ"เพ็ญ"วันนี้
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ ปาถกฐาให้คนไทยในอเมริกาในช่วงที่เป็นแกนนำ นปก.เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 50 ซึ่งถูกมองว่าอาจหมิ่เหม่สถาบันฯ ว่า ในวันนี้ส.ส.ในภาคอีสานหลายคน จะร่วมหารือเป็นการภายใน โดยจะหารือถึงประเด็นที่ นายจักรภพ ถูกกล่าวหา เพื่อแสดงจุดยืน และท่าทีของส.ส.กลุ่มต่อประเด็นดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ายังไม่ฟังคำพูดจากการบันทึกเทปของนายจักรภพ อย่างละเอียด แต่เท่าที่ติดตามประเด็นข่าวเบื้องต้นทราบว่า นายจักรภพ พูดถึงประเด็นศักดินา ซึ่งหากนายจักรภพผิดจริง ส.ส.ในพรรคก็คงรับไม่ได้ และเชื่อว่านายสมัคร จะมีวิจารณาณต่อการทำหน้าที่ของนายจักรภพ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นหากนายจักรภพ ถูกปรับออกตำแหน่ง ก็คงต้องถือว่า มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรี และอยู่มาได้ถึงตอนนี้นายจักรภพก็มีบุญมากแล้ว
แฉเว็บอุบาทว์จ้องล้มล้างสถาบัน
นาย เทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเรียกร้องให้รมว.ไอซีที ตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลเว็บไซต์ จำนวน 5 เว็บ ที่เป็นประเภทล้มล้างสถาบัน ประกอบด้วย www.youtube.com/StopleseMajeste ซึ่งเป็นเว็ปที่แสดงภาพการตัดต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ไม่เหามะสม www.2519me.com เป็นเว็บ ที่มีการมีการปลุกระดมมวลชนให้สร้างเครือข่ายคอมมิวนิสต์ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ชื่อ" สำนักคิดไทยใหม่" http://hello-siam.blogspot.com มีเนื้อหาเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระองค์ ของพระมหากษัตริย์ www.http://rukchard.blogspot.com มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์ราชการที่ 8 โดยโยงใยมาถึงนาย ปรีดี พนมยงค์ และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดฟังคลิปเสียงได้ โดยใช้ชื่อว่า อ.ชีพ ชูชัย และ http://chakridynasty.googlepages.com ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับราชวงค์จักรี ตั้งแต่รัชการที่1 ถึงรัชการที่ 9 โดยในความระบุถึงความต้องการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง
นอกจากนี้ยังมีเว็ปไซด์อื่นๆ อีก 24 เว็บ ที่มีการเปิดกระทู้ไว้ โดยเจ้าของปล่อยปละละเลย ปล่อยให้มีการตั้งกระทู้พาดพิงถึงบุคคลอื่นจนได้รับความเสียหาย เช่นโจมตีสถาบันองคมนตรี โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และชื่นชมเชียร์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
"การที่มีคนออกมาเรียกร้องให้ยุติการทำเรื่องสถาบันมาโยงให้เป็นประเด็นการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย แต่เปรียบเหมือนกับคนที่เห็นไฟไหม้บ้านแล้วพยายามตะโกนบอก แต่มีอีกฝ่ายบอกว่าไม่ควรตะโกน อยากให้ไฟไหม้บ้านหรืออย่างไร" นายเทพไท กล่าว
"เป็ดเหลิม"ขึงขังจัดการเว็บอุบาทว์
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาล และกระทรวงไอซีที ดำเนินการต่อเว็บไซต์ ที่จาบจ้วง และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า เรื่องนี้มีกฎหมายด้านความมั่นคงมาดำเนินการกับเว็บไซต์ต่างได้ ซึ่งตนจะเรียกประชุมและจะติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้ง 29 เว็บไซต์
เมื่อถามว่าหากมีบางเว็บไซต์เข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน จะพร้อมเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ดำเนินคดีกับทุกคนที่กระทำความผิด เว้นไม่ได้ แต่จะอ้างว่าส่งข้อความมาจากต่างประเทศในทำนองหมิ่นสถาบันฯ ถือว่าเป็นตัวการร่วมกัน หากมีบุคคลที่เข้าไปแสดงความเห็นในทางเสียหาย ก็ต้องติดคุกด้วย เรื่องอย่างนี้ต้องมีความสำนึก และปล่อยปละละเลยไม่ได้
