“สนธิ” แฉซ้ำพฤติกรรม “จักรภพ” สุดเหิมเกริม ปราศรัยเป็นภาษาไทยที่แอลเอ ท้านรก กล่าวหา “หลวงตาบัว” หวังเป็นสังฆราชทางลัด จาบจ้วงเหน็บแนมคนใกล้ชิดราชวงศ์เป็นพวก “ตอแหล” แถมอ้างคนที่อยู่เบื้องหลังยึดอำนาจ 19 ก.ย.ใหญ่กว่า “พล.อ.เปรม” พร้อมแฉ “พ่อใหญ่จิ๋ว” รับแผน “แม้ว” เดินเกมตัดตอน “จักรภพ-สมัคร”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย สนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย สนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 15 พ.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกลับมาดำเนินรายการเป็นกรณีพิเศษอีกครั้ง โดยเปิดประเด็นด้วยพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงเบื้องสูงของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีที่ไปพูดที่ชมรมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทยเมื่อเดือน ก.ย.2550 ซึ่งแม้ว่านายจักรภพจะอ้างว่าคนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้นแปลผิด อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานว่าตอนที่พูดภาษาไทย นายจักรภพก็เคยพูดในลักษณะที่หมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงมาแล้ว และจะทำให้นายจักรภพที่ตกนรกไปครึ่งตัวก่อนหน้านี้แล้วจะตกนรกลงไปอีกเต็มตัว
นายสนธิ กล่าวว่า มีคนชอบกล่าวหาตนและพันธมิตรฯ ว่าดึงฟ้าต่ำ ซึ่งการพูดเช่นนี้เป็นหลุมพรางไม่ให้มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แล้วพวกเขาก็จะสร้างเครือข่ายทำลายสถาบันเผยแพร่ออกไป ทั้งในกลุ่มนักวิชาการบางส่วน ทางนิตยสาร เช่น ฟ้าเดียวกัน และทางเว็บไซต์ต่างๆ มีการจัดม็อบไปแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จนทำให้รู้สึกว่าไม่มียุคไหนที่จะมีคนเลวทรามเท่ากับยุครัฐบาลนี้ ขณะเดียวกัน ขบบวนการเหล่านี้ก็ประสานกับนักการเมืองที่ซื้อเสียงเข้าไปในสภา พยายามซื้อศาล ซื้อ กกต.ประสานกับนักวิชาการฝ่ายซ้ายที่ได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ
** “เพ็ญ” ไม่กลัวนรก กล่าวหาหลวงตาบัว
หลังจากนั้น นายสนธิได้นำภาพเหตุการณ์ตอนที่นายจักรภพไปปราศรัยกับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2550 มาเปิดในรายการซึ่งมีอยู่ 3 ตอนที่นายจักรภพพูดในลักษณะที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยตอนแรกได้กล่าวหาว่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ต้องการจะเป็นพระสังฆราช ดังนี้
คลิก! ชมการปราศรัยของ “จักรภพ”กรณีหลวงตามหาบัว(56K) |(256K)
“หลวงตาก็เจริญธรรมมาและก็มีญาติโยมไปขึ้นกันมาก ต่อมาญาติโยมนั้นก็เลยกลายเป็นเน็ตเวิร์กที่ต่อมาคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้อย่างสบายใจ เช่น ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย แม้กระทั่งพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีความเคารพในหลวงตามหาบัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เสด็จ โดยเฉพาะเวลาหลวงตามากรุงเทพฯ ก็เสด็จไป
โดยเฉพาะจำได้ไหมที่หลวงตาหาทองมาเพื่อชำระหนี้ประเทศตอนนั้น เป็นพีกของหลวงตา เป็นระยะที่หลวงตามีชื่อเสียงที่สุด ว่าเป็นพระพิเศษ ไม่เหมือนพระทั่วไป สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ก็เสด็จฯ ที่วัดหลวงป่าบ้านตาด
เอาล่ะ ทั้งหมดนั้นทำให้หลวงตาเองก็อยู่ในสถานะพระพิเศษ ปรากฏว่า ผู้ช่วยของหลวงตาที่มีชื่อว่า ทองก้อน ซึ่งบัดนี้แตกกันไปแล้ว ทองก้อนนี่เป็นคนที่ให้ความคิดกับหลวงตาว่า หลวงตามีอาวุโสในทางพระ ที่เรียกว่าพรรษาสูงกว่าทุกองค์ที่อยู่ในพระราชาคณะ
ผมไม่ทราบว่าพูดอย่างไรล่ะ แต่ดูเหมือนกับว่า ต่อมาความต้องการจะเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ คือ สมเด็จพระสังฆราชก็เกิดขึ้น แทนที่จะไปตามอริยศักดิ์ทั่วไป ก็คิดจะขึ้นทางด่วน
เรื่องที่จะลัดขึ้นเคยมีคนใช้คำนี้ไว้แล้ว แต่ใช้ในทางที่ดี คือ พระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระพิศาลธรรมวาที รู้สึกตอนนี้จะเลื่อนสมณศักดิ์แล้ว คนที่จำได้ท่าน เล่าให้ผมฟัง พระพยอมนี่เป็นพระครูธรรมดา แต่พระเจ้าอยู่หัวนี่โปรดเกล้าให้เป็นท่านเจ้าคุณ คือ เป็นพระพิศาลธรรมวาที เรียกว่าท่านเจ้าคุณที่พิศาลธรรมวาที ก็เรียกว่า เจ้าคุณพยอมนั่นเอง
เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในหลวงตั้งอย่างนี้ปรู๊ดปร๊าดรวดเร็ว วันที่เจ้าคุณพยอมไปรับพระราชทานพัดยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมาเป็นระยะๆ เรียกว่า มีพระราชปฏิสันถารกับพระแต่ละองค์ พอมาถึงพระพยอมท่านเป็นพระนักพูด มีปฏิภาณในการพูด ท่านก็ถวายพระพร บอกว่า พระมหาบพิตรแต่งตั้งพระองค์อย่างนี้มีคนเขาว่า เหมือนขึ้นลิฟต์ ก็กราบทูลอย่างนั้น พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งสวนทันทีว่า ให้ขึ้นลิฟต์ไปทำงาน จะกลัวอะไร
เพราะฉะนั้นคำว่าขึ้นลิฟต์มันก็มีในสารบบขึ้นมา ก็คือ การข้ามทางไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมไม่รู้ว่าหลวงตาท่านคิดเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าทองก้อนคิด พี่น้องทราบไหมครับว่า วัดในเมืองไทย ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก หลายหมื่นวัด ถ้านำเอาที่ หรือที่เรียกว่าธรณีสงฆ์ และโบราณวัตถุต่างๆ ศาสนสถานวัตถุต่างๆ มารวมกันทั่วประเทศ กิจการคณะสงฆ์จะมีทรัพย์สินรวมกันทั่วประเทศประมาณ 4 แสนล้าน พี่น้องทราบเรื่องนี้ไหมครับ แล้วพี่น้องนึกภาพต่อไปไหมครับว่า ทำไมคนอยากเป็นใหญ่ในวงการนี้”
นายสนธิ กล่าวว่า การพูดถึงพระอริยสงฆ์เจ้าอย่างหลวงตามหาบัวในทางที่ผิดข้อเท็จจริงเช่นนี้ จะทำให้นายจักรภพตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ไม่อยากจะพูดว่านายจักรภพนั้นเลวจริงๆ ที่ไปกล่าวหาพระอริยสงฆ์อย่างองค์หลวงตาฯ ซึ่งในชีวิตท่านทั้งชีวิตไม่ต้องการอะไร มีคนนำเงินถวายก็นำไปช่วยโรงเรียน,โรงพยาบาลหมด และได้หาทองช่วยชาติ 1 หมื่นกว่ากิโลกรัม ท่านเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง การไปกล่าวหาท่าน ถือว่าจาบจ้วงมาก
นอกจากนี้ นายจักรภพยังแอบอ้างกระแสพระราชดำรัสฯ ที่ทรงมีกับพระพยอมอย่างไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้เป็นคนฟังเอง แต่ฟังมาอีกทอดหนึ่งแล้วมาถ่ายทอดในที่สาธารณะ เหมือนเห็นทุกอย่างเป็นของเล่น
นายสนธิ กล่าวว่า หากนายจักรภพเคยปฏิบัติธรรมจะรู้ว่าธรรมที่แท้จริงคืออะไร และส่วนหนึ่งของธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเน้นคือสัจจะ พูดคำไหนคำนั้น ไม่กลับหลอก แต่นายจักรภพกลับกลอกตลอดเวลา กล่าวหาว่าตนเข้าไปใช้เครือข่ายของหลวงตาทั้งที่ในข้อเท็จจริงนั้นตนเป็นศิษย์หลวงตามาตั้งแต่ปี 2536 และเข้าไปช่วยเหลือท่านห่างๆ ไม่เคยเข้าไปใกล้ชิดหรือไปใช้เครือข่าย และตนเพิ่งเคยพบท่านผู้หญิงสุธาวัลย์เพียง 2 ครั้งพร้อมกับ ดร.สุรเกียรติ์ แต่กลับมีคนชั่วบางคนเขียนใบปลิวโจมตีตนกับท่านผู้หญิงอย่างเสียหาย
**ด่าคนใกล้ชิดราชวงศ์
ต่อมา นายสนธิได้เปิดเทปตอนที่นายจักรภพพูดกล่าวหาคนใกล้ชิดราชวงศ์อย่างไม่บังควร ดังนี้
คลิก! ชมการปราศรัยของ “จักรภพ”กรณีคนใกล้ชิดราชวงศ์(56K) |(256K)
“มันเริ่มมีสัญญาณที่แปลก คุณสนธิเริ่มตั้งขบวนการนี้ที่เรียกว่า เรารักในหลวง จำได้ไหมครับ ใส่เสื้อเหลืองเป็นยุคแรกๆ คือ เสื้อเหลืองนี่เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณโปรโมตขึ้น และทำให้คนแสดงความจงรักภักดีอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ อันนี้ฝีมือรัฐบาลทักษิณที่คนเขาว่าไม่จงรักภักดีนั่นแหละ
เดี๋ยวๆ เรื่องพระเจ้าอยู่หัวกับนายกฯ ทักษิณจะพูดอีกทีหนึ่ง อยากจะทบทวนความจำเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งหลายเรื่อง ก็เลยเล่าได้ เอาเรื่องนี้ก่อน คุณสนธิสร้างพลังเสื้อเหลืองขึ้นมา พูดง่ายๆ คือ ยุให้วังกับรัฐบาลตีกัน เพราะเห็นแล้วว่าไม่มีทางอื่นจะโค่นทักษิณได้ ยกเว้นจะว่าให้ตีกับในวัง หรือให้ในวังไม่ชอบ เพราะในวังนี่มีคนหลายประเภท พระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูงเรายกไว้ แต่บุคคลที่เชื่อมระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วไปกับบุคคลข้างล่าง เป็นคนหลายหลากความคิดและจิตใจ หลายหลากผลประโยชน์ และที่สำคัญก็คือว่ามีลักษณะเหมือนคอร์ตทั่วๆไป
ท่านเคยดูหนังจีนไหมครับ คนที่เป็นขุนนางในหนังจีนเขาจะมีความสามารถอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เป็นทักษะคือ ต้องมีความสามารถในการตอแหล คำว่า ตอแหลไม่ได้เป็นคำด่า แต่เป็นคำไทยแท้ที่แปลว่า ความจริงส่วนหนึ่ง ความเท็จส่วนหนึ่ง แล้วก็บิดเบือน มีความสามารถในการจับจริงมานิดหนึ่งให้คนพอเชื่อ แล้วผสมกับความเท็จลงไป”
นายสนธิ กล่าวว่า คำว่าตอแหลนั้นต้องใช้กับนายจักรภพ เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นใครตอแหลได้เท่านี้ การใส่เสื้อเหลืองของคนไทยนั้นมาจากการเทิดทูนในหลวงของคนไทยทั้งชาติ ไม่ได้มาจากการโปรโมตของทักษิณ และถ้ายังจำได้ กลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณเองที่สร้างขบวนการเสื้อแดงขึ้นมาสวนกับคนใส่เสื้อเหลือง ในช่วงที่พันธมิตรฯ ประท้วงขับไล่รัฐบาลทักษิณ ซึ่งฝ่ายพันธมิตรฯ แม้ไม่ได้เป็นเจ้าของแนวคิดการใส่เสื้อเหลือง แต่ได้ใส่ด้วยใจบริสุทธิ์
นายสนธิ กล่าวอีกว่า นายจักรภพกล่าวหาว่ามีคนที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทตอแหล แล้วอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณเทิดทูลพระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลา แต่เรื่องนี้องค์หลวงตามหาบัวเคยพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ลูกศิษย์อีกต่อไปแล้ว เพราะเลวยิ่งกว่าเทวทัต และเคยเตือนว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าไม่รีบกลับตัวกลับใจทำคุณความดีให้ชาติ ซึ่งสิ่งที่ท่านได้พูดไว้นั้นไม่เคยผิด แต่อาจจะเกิดช้าหน่อย ขอให้ติดตามดูต่อไปว่าธรรมะจะชนะอธรรมหรือไม่
**อ้างคนอยู่เบื้องหลังปฏิวัติใหญ่กว่าป๋าเปรม
หลังจากนั้นนายสนธิได้เปิดเทปช่วงที่นายจักรภพที่กล่าวถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ดังนี้
คลิก! ชมการปราศรัยของ “จักรภพ”กรณีการยึดอำนาจ 19 ก.ย.(56K) |(256K)
“คุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผมทำงานด้วยไม่อยากจะวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาเลย แต่นี่บ้านเมืองใหญ่กว่า ความรู้สึกส่วนตัว คุณสุรเกียรติ์อยู่ได้จนถึงนาทีสุดท้าย เพราะอะไร อยู่เพื่อจะกระซิบคุณทักษิณที่นิวยอร์กว่า อย่าไปสู้เลยเพราะรัฐประหารครั้งนี้ สูงมาก
ซึ่งเป็นผลให้คุณทักษิณตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะอยากเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ผมนะเสียใจมากถ้ารู้ว่ารับมืออยู่กับโจรก็เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปซะนานแล้ว ทางนี้จะได้กลายเป็นเถื่อนไปให้หมด ทางนี้หมายถึงที่กรุงเทพฯนะ ไม่ว่าจะฤาษีเลี้ยงเต่าหรือเต่าควายอะไรทั้งหลายนั่นแหละ เถื่อนทั้งนั้น เถื่อนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเนี่ย มันมีเหตุผลที่จะต้องตัดสินใจยามคับขัน ผมเห็นใจท่านนายกฯ ตอนนั้นผมอยู่ที่กรุงเทพฯนะครับ ท่านนายกฯอยู่นิวยอร์ก ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะเริ่มได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดี ในเมื่อเข้าซอยตรงนี้ ก็เล่าตรงนี้ว่าทำไมไม่สู้ กำลังก็มีเตรียมไว้แล้วด้วย ก็ตอบสั้นๆ เท่านั้นล่ะครับ แล้วขอตอบประโยคเดียว ใครถามก็จะร้องเพลงให้ฟัง ให้ตอบเพิ่มว่า เหตุที่ไม่สู้ก็เพราะว่า เราเตรียมกำลังไว้สู้กับคุณเปรมเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะคุณเปรมนั่นเหรอก็จบเกมไปนานแล้ว
เพราะว่าดูหนังจีนเรื่องเดียวกันรู้ว่าจะจัดการกับนางพญาผมขาวอย่างไร”
ทั้งนี้ ในช่วงที่นายจักรภพพูดนั้น คนไทยที่นั่งฟังจำนวนหนึ่งได้หัวเราะชอบใจกับคำพูดของนายจักรภพด้วย
นายสนธิ กล่าวว่า เสียใจกับคนไทยที่ได้ฟังแล้วนั่งหัวเราะ ไม่ทราบว่ามีจิตวิญญาณเป็นไทย หรือยังรักชาติอยู่หรือไม่ แต่ที่นายจักรภพอ้างถึง ดร.สุรเกียรติ์นั้น รู้หรือไม่ว่าในวันดังกล่าว ดร.สุรเกียรติ์เป็นคนเตือน พ.ต.ท.ทักษิณให้ระมัดระวัง ซึ่งตอนนั้นอยู่กันสองต่อสอง และ พ.ต.ท.ทักษิณพูดอย่างมีอารมณ์ จน ดร.สุรเกียรติ์ต้องหนีออกมา เพราะนึกไม่ถึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดคำนั้น
“คุณพูดได้ยังไงเนี่ย ที่คุณบอกว่าคุณไม่ได้สู้รบกับ พล.อ.เปรม เท่านั้น เพราะคุณเตรียมกำลังไว้สู้กับ พล.อ.เปรม เท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะ พล.อ.เปรม มันจบไปนานแล้ว คุณพูดได้อย่างไร หมายความว่าอย่างไร นี่ภาษาไทยนะ ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แสดงว่าสูงกว่า พล.อ.เปรม ใช่ไหมที่คุณต้องสู้ และใครล่ะสูงกว่า พล.อ.เปรม นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนนะ คุณจักรภพ คุณโดนตัดหัว 7 ชั่วโคตรนะ” นายสนธิกล่าว
แฉ “จิ๋ว” รับแผน “แม้ว” เดินเกมตัดตอน “จักรภพ”
ในช่วงที่ 2 นายสนธิได้กล่าวถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีว่า คอยอุ้มนายจักรภพตลอดเวลา นอกจากเป็นการทำผิดต่อสายเลือดตัวเอง ยังทำผิดต่อจิตใต้สำนักของคนที่รักชาติฯ แล้วยังทำผิดต่อมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ระบุว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
ต่อมา นายสนธิได้พูดถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ออกมาแสดงท่าทีในเรื่องต่างๆ ในช่วงนี้ว่า แท้ที่จริงแล้วก็อยู่ในขบวนการที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจเช่นเดียวกันกับนายสมัคร นายจักรภพ เครือข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ และเครือข่ายของคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังทั้งหมด และขณะนี้ เห็นว่านายจักรภพและนายสมัครกำลังล้ำเส้น จนอาจจะทำให้พังด้วยกันทั้งหมด จึงมีขบวนการที่จะตัดตอนนายจักรภพและนายสมัครออกไป
ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิตนั้นเคยถูกทาบถามจาก พ.ต.ท.ทักษิณให้มาเป็นหัวหน้าพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ แต่ตกลงกันไมได้เรื่องของรางวัล พ.ต.ท.ทักษิณจึงหันไปหานายสมัคร แต่เมื่อนายสมัครเป็นนายกฯแล้วก็มัวแต่ทำวาระของตัวเอง ปล่อยให้เครือข่ายต่างๆ แย้งชิงอำนาจกันเอง จนอาจล้ำเส้น โดยเฉพาะกรณีของนายจักรภพที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พล.อ.ชวลิตจึงออกมาแสงท่าทีต่อเรื่องต่างๆ ผ่านหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ผ่านายเผด็จ ภูริปฏิภาณ คอลัมนิสต์ที่ทำตัวเป็นนายหน้านักการเมือง รวมทั้งนายไพรวงศ์ เตชะณรงค์ ที่มีความใกล้ชิดกัน
จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ไม่เคยโจมตีนายจักรภพ แต่เมื่อเห็นว่านายจักรภพมีพฤติกรรมจาบจ้วงจนสังคมจะยอมรับไม่ได้แล้ว จึงออกมาโจมตี เพื่อเป็นการตัดตอน
คลิกอ่านฉบับเต็ม ยามเฝ้าแผ่นดิน : “สนธิ” แฉหลักฐานใหม่ “เพ็ญ” สุดจาบจ้วง - เปิดโปง “จิ๋ว” รับแผน “แม้ว” ตัดตอน “จักรภพ-หมัก”
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )