“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ชี้คำพูด “จักรภพ” ดูภาพรวมสะท้อนชัดมอง “สถาบัน” อย่างไร เชื่อโดนตัดตอนแน่ พร้อมย้ำเตือนรัฐบาลอย่าชะล่าใจปล่อยเขมรขึ้นทะเบียน “เขาพระวิหาร” ฝ่ายเดียว หวั่นใช้แผนที่โมเมกินดินแดนไทย ชี้ ปชช.ยังระแวง “ลูกกรอก 1” เอื้อประโยชน์ “แม้ว” ลงทุนในกัมพูชา พบเบาะแสเตรียมแบ่งเขตแดนทางทะเลใหม่ ไทยได้เกาะกูด แต่ยกแหล่งก๊าซฯมหาศาลให้กัมพูชา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 15 พ.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ เปิดประเด็นด้วยท่าทีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้จัดงานครบรอบวันเกิด 76 ปี และดูเหมือนจะตกผลึกในแนวความคิดมากขึ้น สังเกตจากวันก่อน พล.อ.ชวลิต ได้ปรารภผ่านหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ฉบับเดียวเป็นกรณีพิเศษ เพราะคนรอบๆ ข้าง พล.อ.ชวลิตทำงานอยู่ที่นี่ โดย พล.อ.ชวลิตได้พูดชัดเจนว่ามีคนที่ยังคิดจะทำประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ มีความคิดล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า ซึ่ง พล.อ.ชวลิตบอกว่า พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลก
มาวันนี้ พล.อ.ชวลิต ก็แสดงท่าทีที่ชัดเจนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า แม้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ต้องทุ่มเท ควรสนใจแก้ปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่า ส่วนเรื่องการดึงสถาบันลงมาเกี่ยวพันการเมืองนั้น พล.อ.ชวลิต บอกว่า สถาบันถือเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นชาติ ที่อยู่คู่กับประเทศมาเป็นพันปี ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจ และอาจมีหัวก้าวหน้าแบบสาธารณรัฐบ้าง แต่คงล้มล้างความเป็นชาติไทยไม่ได้
ส่วนข่าวการปฏิวัตินั้น พล.อ.ชวลิตบอกว่า คงไม่ไหวแล้ว เพราะครั้งที่ผ่านมาไม่ใช่การปฏิวัติ เป็นแค่เปลี่ยนรัฐบาล เพราะการปฏิวัติที่แท้จริงคือการทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ พล.อ.ชวลิตมีมานานแล้ว และเคยเขียนในหนังสือว่าทหารยึดอำนาจได้แต่ปฏิวัติไม่เป็น
** “จักรภพ” ส่อโดนตัดตอน
ต่อมาผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงกรณีการกล่าวปาฐกถาของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.สำนักนายกฯ ที่ชมรมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย (เอฟซีซีที) เมื่อเดือนสิงหาคม 2550 ซึ่งทำให้มีคนไปแจ้งความกล่าวหาว่านายจักรภพหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งล่าสุดนายจักรภพอ้างว่ามีการแปลผิด อีกไม่กี่วันเขาจะนำฉบับที่เขาแปลเองให้ตรงตามเจตนารมณ์ของเขามาเผยแพร่ และอ้างว่าการพูดครั้งนั้น พูดมาก่อนเป็นรัฐมนตรีประมาณปีกว่า ตอนนั้นเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคม แต่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีแล้ว ความคิดบางอย่างอาจจะยังไม่เปลี่ยน แต่การพูดจาและท่าทีต้องเปลี่ยนเพื่อความสมานฉันท์
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า การที่นายจักรภพจะแปลเอง หลังจากที่มีคนไปแจ้งความแล้ว ทำให้ถูกมองว่าการแปลเองก็เพื่อให้พ้นจากข้อกล่าวหา แต่กรณีนี้ถ้าดูเนื้อหาทั้งหมดที่นายจักรภพพูด หลายคนที่อ่านภาษาอังกฤษออกก็จะเข้าใจว่านายจักรภพคิดอย่างไร เช่นนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ที่โตเมืองนอก ก็ยังบอกว่า เมื่อดูทั้งหมดแล้วเห็นว่าทัศนคติของนายจักรภพอันตราย
ทั้งนี้ ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า การพูดครั้งนั้นเป็นช่วงที่นายจักรภพออกมาจากคุกใหม่ๆ หลังถูกจับกุมดำเนินคดีฐานก่อความวุ่นวายหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และได้ยกตัวอย่างคำพูดของนายจักรภพตอนต้นๆ เช่น บอกว่า “ผมเพิ่งออกมาจากคุกคุณเปรม คุณเปรมคือใคร เป็นตัวแทนของใคร เป็นส่วนหนึ่งของอะไร นั่นคือสิ่งที่เราจะพูดคุยในคืนนี้” เพราะฉะนั้น นายจักรภพไม่ได้พูดถึง พล.อ.เปรมเฉยๆ แต่พูดถึงในฐานะตัวแทนของใคร ดังนั้น นายจักรภพจะอธิบายอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องแปลให้ครบด้วย ไม่ใช่แปลให้พ้นจากการจับตามองของประชาชน
ผู้ดำเนินรายการได้เรียกร้องให้นายจักรภพนำเทปการพูดครั้งนั้นออกมาเผยแพร่ และอย่ากลัว ถ้าเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด ที่สำคัญนายจักรภพยืนยันว่า ความคิดเขาไม่เปลี่ยนแปลง อาจเปลี่ยนท่าที่เพื่อความสมานฉันท์ เพราะเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น
ผู้ดำเนินรายการได้ตั้งข้อสังเกตคอลัมน์ที่เขียนโดย “กาหลิบ” ที่เชื่อว่าคือนายจักรภพ เพ็ญแข ในหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ล่าสุดได้เขียนในลักษณะการบ่นในทำนองรำพึงรำพันว่าคนทำดีไม่ได้ดี อาจรอคนรุ่นหน้า ทำให้คิดกันว่านายจักรภพอาจถูกตัดตอนในเร็วๆ นี้ ที่น่าสนใจคือคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ของนายเผด็จ ภูรีปฏิภาณ ที่ไม่เคยโจมตีนายจักรภพมาก่อน มาวันนี้ก็ไม่เห็นด้วยกับนายจักรภพอย่างชัดเจน และโยงถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวหาคนหัวเถิกว่าสร้างเรื่องให้วุ่นวาย ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคือคนที่ช่วยปิดเว็บหมิ่นสถาบัน
นอกจากนี้ ท่าทีของนายสมัครวันนี้ก็เปลี่ยนไป จากที่เคยบอกว่าคำพูดของนายจักรภพนั้นตนเคยอ่านแล้วไม่เห็นมีอะไร เป็นเรื่องของคนหัวเถิกที่สร้างเรื่องขึ้น แต่ล่าสุดได้บอกว่าต้องเอามาแปลให้เป็นขั้นเป็นตอน และให้ตำรวจดู นายจักรภพต้องไปให้ตำรวจสอบสวน ให้อัยการดู ให้ศาลตัดสินไปตามระบบอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ปาฐกถาของนายจักรภพนั้น นายสมัครในฐานะนายกฯ จะต้องไม่ดูเฉพาะคำพูดเป็นคำๆ แต่ต้องดูทัศนคติของนายจักรภพว่ามีต่อระบอบ สถาบันอย่างไร เพราะถ้าดูเป็นคำๆ อาจแปลผิด แต่เนื้อความทั้งหมดมันจะบอกอะไรได้
** สวนกลับ “ฟ้าเดียวกัน” ยานเกราะตัวจริง
ต่อมาผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดเผยว่า มีคนแจ้งมาว่า ภาพอันมิบังควรที่ควรถูกจัดดารในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปแล้ว ตอนนี้ได้กลับมาอีก จึงขอฝากให้กระทรวงไอซีทีไปจัดการด้วย แม้ว่าจะจัดการได้ยาก แต่ก็ต้องพยายาม
นอกจากนั้น ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงเว็บไซต์ “ฟ้าเดียวกัน” ว่า เว็บไซต์แห่งนี้นอกจากเสนอเนื้อหาที่หมิ่นต่อสถาบันฯ แล้ว ยังได้กล่าวหาสื่อเครือผู้จัดการว่ายั่วยุให้เกิดความรุนแรงเหมือนหนังสือพิมพ์ดาวสยาม และวิทยุยานเกราะในช่วง 6 ตุลาคม 2519 โดยได้ยกเอากรณีที่รายการเมโทรไลฟ์ ทางวิทยุชุมชนเจ้าฟ้า เคยพูดอย่างมีอารมณ์กรณีนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ไม่ทำความเคารพเพลงสรรเสริญ ไปเป็นประเด็นโจมตี
ต่อมาแม้ว่า ทางวิทยุเจ้าฟ้าได้ออกแถลงการณ์ขออภัยต่อความผิดพลาดดังกล่าวและแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุติรายการรวมทั้งนำคลิปเสียงรายการที่มีปัญหาออกจากเว็บไซต์ แต่ปรากฏว่า ทางเว็บไซต์ฟ้าเดียวกันกลับนำคลิปเสียงรายการดังกล่าวไปไว้ที่เว็บตัวเองและเปิดให้ดาวโหลดเพื่อโจมตีสื่อในเครือผู้จัดการต่อไป จึงไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่ทำตัวเป็นวิทยุยานเกราะ
**ปมเขาพระวิหาร-เขตทับซ้อนไทย/เขมร
ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ อ้างว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะเอาไปและเปลี่ยนผลประโยชน์กับการขุดก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และโทษสื่อกัมพูชาว่านำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนที่บอกว่าฝ่ายไทยเอาทั้ง 2 เรื่องไปเชื่อมโยงกัน
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ต้องย้อนไปดูเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 51 นายสุวรรณ วัฒนพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าอุทยานฯ ที่จ.ศรีสะเกษให้สัมภาษณ์ว่าทางฝ่ายเขมรจะเสนอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยได้จ้างชาวต่างประเทศมาเขียนแผนที่บริเวณเขาพระวิหารขึ้นมาใหม่โดยตัดเอาดินแดนฝั่งไทยไปอยู่ในเขตแดนกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการหารือกันระหว่าง 2 ประเทศ
ต่อมาในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในเว็บไซต์ของชาวกัมพูชาที่อ้างว่าเป็นกลุ่มเขมรพลัดถิ่นได้เผยแพร่แผนที่ที่อ้างว่าไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาบริเวณเขาพระวิหารโดยอ้างแผนที่ทีทำขึ้นโดยทหารสหรัฐเทียบกับแผนที่กูเกิลเอิร์ธ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการยกเลิกข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชาในปี 2545 โดยหันไปใช้สนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศสว่าด้วยเขตแดนไทย-กัมพูชาเมื่อ 100 ปีก่อนแทน
ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวฝ่ายไทยได้ตรวจสอบหรือยังว่า ในการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้นทางกัมพูชาใช้แผนที่ฉบับไหน โดยเฉพาะในช่วงนี้กัมพูชากำลังมีการเลือกตั้งและนำเรื่องเขาพระวิหารไปหาเสียง
ขณะเดียวกัน พล.อ.เตีย บัญ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้พูดชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าไปลงทุนทำกาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในกัมพูชาที่จังหวัดเกาะกง และอาจมีการลงทุนด้านพลังงานด้วย ซึ่งทำให้ประชาชนคนไทยหวาดระแวง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมีอิทธิพลต่อรัฐบาลชุดนี้ อาจทำให้นโยบายในเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะเข้าไปลงทุนในกัมพูชา
นอกจากนี้ ไทยกัมพูชายังมีปัญหาเขตแดนทางทะเลบริเวณพื้นที่ทับซ้อนเนื่องจากการขีดเส้นเขตแดนในทะเลที่หลัก 73 ไม่เหมือนกันโดยฝ่ายกัมพูชาได้ขีดให้ผ่านเกาะกูด อ้างว่าเป็นเขตน่านน้ำกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2515 ซึ่งบริเวณนี้มีแหล่งก๊าซมหาศาลใช้ได้กว่า 30 ปี และถ้ายึดตามแผนที่นี้ ไทยจะต้องตัดเกาะกูดให้กัมพูชาครึ่งหนึ่ง แต่ไทยไม่ยอมรับเขตแดนนี้ โดยบอกว่าเขตแดนไทยต้องลึกเข้าไปอีกด้านหนึ่ง ทำให้ต้องมีการเจรจากัน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปลงทุน ถึงแม้ว่านายนพดลอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกอายัดทรัพย์ไม่มีเงินแล้วก็ตาม และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องรู้ว่ารัฐทำอะไรไว้ เพราะเท่าที่ทราบมา อาจจะมีการเจรจาใหม่โดยยกเลิกทั้ง 2 เส้น แล้วเขียนเส้นใหม่ที่ยังให้เกาะกูดเป็นของไทย แต่เขตน่านน้ำที่มีแหล่งก๊าซมหาศาลนั้นให้เป็นของกัมพูชา ดังนั้นทั้งนายสมัครและนายนภดลจะต้องตอบเรื่องนี้ชัด โดยเฉพาะนายนภดลนั้นตั้งแต่เป็น รมว.ต่างประเทศก็เอื้อให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณมาตลอด
**วิกฤตประชาชน
ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ที่พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นวิกฤตชาติ ส่วนวิกฤตศาสนา วิกฤตสถาบันกษัตริย์ ได้พูดไปแล้วเมื่อวันก่อน จึงจะขอพูดถึงวิกฤตประชาชน ที่กำลังเดือดร้อนจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยเฉพาะเกษตรกรใน จ.เชียงราย และกาฬสินธุ์ ฐานเสียงของ ส.ส.รัฐบาลชุดนี้เอง แต่กลับช่วยเหลือช้ากว่าการช่วยเหลือพม่า ขณะเดียวกันต้องซื้อข้าวกินในราคาแพง โดยที่รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกทาง ทำให้โรงสีร่ำรวย แต่ชาวนามีแต่หนี้สิน ส่วนผู้ใช้แรงงานได้ขึ้นค่าแรงเพียง 2 บาท เปรียบกับอัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นไป 5% ประชาชนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน บัตรเครดิตมีหนี้เสียมากมาย
ในอีกด้านหนึ่งบริษัทอย่าง ปตท.กำไรไตรมาสแรก 5 หมื่นล้าน ขณะที่ประชาชนเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพงไปทั่วทุกหย่อมหญ้า วิกฤตของชาติเหล่านี้ รัฐบาลทำอะไรบ้างนอกจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นว่าจะนำพาประเทศต่อไปได้ วิกฤตครั้งนี้เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ และเปราะบาง ประเทศไทยต้องการการปฏิวัติ ซึ่งไม่ได้แปลว่ารัฐประหาร แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )