"สดศรี" ย้ำหาก"หมัก"ดำรงตำแหน่งนายกฯแล้วยังเป็นลูกจ้าง "ชิมไปบ่นไป" แม้จะหยุดตอนนี้ก็ไม่มีผล ระบุรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้ กกต. ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กกต.ชี้ขาดได้เลย "สุเมธ"ระบุไม่กดดันแม้"หมัก" จะอ้างว่าเป็นปัญหาการเมืองจากพวกจ้องล้ม คาดหากได้ผลสรุปจากคณะกรรมการสอบ สามารถวินิจฉัยเสร็จภายใน 1-2 วัน "เจิมศักดิ์" ชี้ พฤติกรรมผิดชัด และเป็นความผิดสำเร็จแล้วด้วย
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยการตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จัดรายการ "ชิมไป บ่นไป" อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้นายสมัคร ยังไม่มีการประสานหรือส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจง กกต. ถึงการจัดรายการดังกล่าว ในระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังมีผู้ร้องเรียนว่า การกระทำของนายสมัคร ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 โดยมีผู้ร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา
นางสดศรี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจจะเคร่งครัดต่อนักการเมืองมาก คือ ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมาตรา 267 ห้ามนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี มีตำแหน่งในนิติบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งห้ามเป็นลูกจ้างของบุคคลใด ซึ่งคำว่า "ลูกจ้างของบุคคลใด" ต้องดูว่า เข้าข่ายตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ หรือเข้าข่ายในลักษณะที่เป็นการจ้างทำ โดยขณะนี้ กกต.ได้ลงมติให้คณะอนุกรรมการที่ 14 ที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธานสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ หลังจากคณะอนุกรรมการสอบสวนแล้วเสร็จสรุปเสนอต่อ กกต. จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ กกต. โดยสิ่งที่จะต้องนำมาเป็นหลักในการวินิจฉัย คือ การดูเรื่องสัญญาการว่าจ้าง ว่าเป็นสัญญาอะไร แต่หากไม่มีสัญญา กกต.ต้องเชิญเจ้าของบริษัท หรือกรรมการบริษัท มาสอบปากคำ
ส่วนที่ นายสมัคร ระบุว่าได้ยุติบทบาทการจัดรายการแล้ว จะมีผลต่อการสอบสวนหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า การที่มีตำแหน่งในนิติบุคคล เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี หรือนายกฯ แล้ว จะต้องลาออกภายใน 30 วัน ตามมาตรา 268 แต่หากเป็นกรณีที่มีการดำรงตำแหน่งแล้วไม่ลาออก ถือว่า นายสมัคร ไม่ได้ปฎิบัติตาม มาตรา 268 การที่นายสมัคร ยุติบทบาทขณะนี้ ก็ถือว่าไม่มีผล
เมื่อถามว่า ความชัดเจนของ เรื่องนี้ กกต.จะสามารถมีมติวินิจฉัยได้ หรือต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาข้อกฎหมาย นางสดศรี กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 และ มาตรา 268 ไม่ได้เขียนว่าให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าหากขัดตาม มาตรา 268 ความสิ้นสุดลงของตำแหน่งรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงทันที กกต.สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจน และผู้ร้องไม่ได้ระบุไว้ชัดว่า ต้องการให้ กกต. ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่
กกต.ใช้เวลา1-2วันก็เรียบร้อย
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่าหากอนุกรรมการไต่สวนฯ สรุปสำนวน และส่งให้ กกต.พิจารณา ก็คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน ในการวินิจฉัยเพื่อสรุปสำนวนได้
ทั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกกดดันใดๆ แม้นายสมัคร จะอ้างว่าเรื่องนี้เป็นความพยายามของพวกที่จ้องล้ม และต้องการให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า หากนายสมัคร ส่งข้อมูลมาชี้แจงว่า เป็นการรับจ้าง กกต.จะต้องเป็นผู้ตีความตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ด้วย
"ขณะนี้กกต.ยังพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องรอดูการชี้แจงของนายสมัคร ซึ่งกรณีที่นายสมัคร อ้างว่าเป็นการรับจ้าง ไม่ได้แปลว่าเป็น ลูกจ้าง นั้น กกต.ก็ต้องตีความว่า ถ้อยคำดังกล่าวกรณีลูกจ้างนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่ง หมายถึง การที่เป็นลูกจ้างรายเดือน แต่คำว่า "รับจ้าง" นั้น กกต.ต้องตีความ ซึ่งตามความเข้าใจของผมน่าจะหมายถึง การรับจ้างเป็นงานๆ เช่น การรับจ้างดายหญ้าทำงานเสร็จก็จบ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ นอกจากดูตามกฎหมายแล้ว ต้องดูตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย" นายสุเมธ กล่าว
"เจิมศักดิ์"ชี้พฤติกรรมผิดชัด
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว. กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี เข้าไปผลิตรายการตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ มีความชัดเจนว่า ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 เพราะคำว่า ดำรงตำแหน่งใดๆ หมายความถึงการมีหน้าที่ประจำ ดังนั้นการเป็นพิธีกรประจำ จึงถือว่าเข้าข่ายด้วย และตนอยากรู้ว่า ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯ จะได้เวลาของสถานีโทรทัศน์หลายช่องอย่างนี้หรือไม่ และทางสถานีก็คงไม่กล้าปรับผังรายการ เพราะมีความเกรงใจ ซึ่งคำพูดที่นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งให้ยกเลิกรายการไปแล้ว ตรงนี้ถ้าเป็นเพียงผู้รับจ้าง จะมีอำนาจสั่งยกเลิกรายการได้หรือ และการพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับยอมรับผิดไปส่วนหนึ่งแล้ว
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถึงนายสมัครจะไปออดอ้อนกับ กกต.ว่า ขอให้ลงโทษเพียงตักเตือน ซึ่งตนคิดว่า กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปลดหย่อนโทษได้ ต้องพิจารณาไปตามความผิด กรณีของนายสมัคร ก็เหมือนกับ ป.ป.ช. ที่ออกระเบียบเพิ่มค่าตอบแทนให้ตัวเอง ซึ่งเปรียบเสมือนการขโมยควาย ที่ถือเป็นความผิดสำเร็จ ดังนั้นการที่นายสมัครได้อ้าปากชิมเข้าไปแล้ว จึงช่วยไม่ได้ เป็นการตายน้ำตื้น
ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า ได้พยามถามนายสมัคร ถึงการชี้แจงต่อ กกต. กรณีที่ไปดำเนินรายการ"ชิมไปบ่นไป" และ"ยกขโยง 6 โมงเช้า" แต่นายสมัคร ไม่ยอมตอบ ได้แต่โบกมือหยอย หยอย
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยการตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จัดรายการ "ชิมไป บ่นไป" อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้นายสมัคร ยังไม่มีการประสานหรือส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจง กกต. ถึงการจัดรายการดังกล่าว ในระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังมีผู้ร้องเรียนว่า การกระทำของนายสมัคร ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 โดยมีผู้ร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา
นางสดศรี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจจะเคร่งครัดต่อนักการเมืองมาก คือ ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมาตรา 267 ห้ามนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี มีตำแหน่งในนิติบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งห้ามเป็นลูกจ้างของบุคคลใด ซึ่งคำว่า "ลูกจ้างของบุคคลใด" ต้องดูว่า เข้าข่ายตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ หรือเข้าข่ายในลักษณะที่เป็นการจ้างทำ โดยขณะนี้ กกต.ได้ลงมติให้คณะอนุกรรมการที่ 14 ที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธานสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ หลังจากคณะอนุกรรมการสอบสวนแล้วเสร็จสรุปเสนอต่อ กกต. จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ กกต. โดยสิ่งที่จะต้องนำมาเป็นหลักในการวินิจฉัย คือ การดูเรื่องสัญญาการว่าจ้าง ว่าเป็นสัญญาอะไร แต่หากไม่มีสัญญา กกต.ต้องเชิญเจ้าของบริษัท หรือกรรมการบริษัท มาสอบปากคำ
ส่วนที่ นายสมัคร ระบุว่าได้ยุติบทบาทการจัดรายการแล้ว จะมีผลต่อการสอบสวนหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า การที่มีตำแหน่งในนิติบุคคล เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี หรือนายกฯ แล้ว จะต้องลาออกภายใน 30 วัน ตามมาตรา 268 แต่หากเป็นกรณีที่มีการดำรงตำแหน่งแล้วไม่ลาออก ถือว่า นายสมัคร ไม่ได้ปฎิบัติตาม มาตรา 268 การที่นายสมัคร ยุติบทบาทขณะนี้ ก็ถือว่าไม่มีผล
เมื่อถามว่า ความชัดเจนของ เรื่องนี้ กกต.จะสามารถมีมติวินิจฉัยได้ หรือต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาข้อกฎหมาย นางสดศรี กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 และ มาตรา 268 ไม่ได้เขียนว่าให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าหากขัดตาม มาตรา 268 ความสิ้นสุดลงของตำแหน่งรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงทันที กกต.สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจน และผู้ร้องไม่ได้ระบุไว้ชัดว่า ต้องการให้ กกต. ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่
กกต.ใช้เวลา1-2วันก็เรียบร้อย
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่าหากอนุกรรมการไต่สวนฯ สรุปสำนวน และส่งให้ กกต.พิจารณา ก็คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน ในการวินิจฉัยเพื่อสรุปสำนวนได้
ทั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกกดดันใดๆ แม้นายสมัคร จะอ้างว่าเรื่องนี้เป็นความพยายามของพวกที่จ้องล้ม และต้องการให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า หากนายสมัคร ส่งข้อมูลมาชี้แจงว่า เป็นการรับจ้าง กกต.จะต้องเป็นผู้ตีความตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ด้วย
"ขณะนี้กกต.ยังพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องรอดูการชี้แจงของนายสมัคร ซึ่งกรณีที่นายสมัคร อ้างว่าเป็นการรับจ้าง ไม่ได้แปลว่าเป็น ลูกจ้าง นั้น กกต.ก็ต้องตีความว่า ถ้อยคำดังกล่าวกรณีลูกจ้างนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่ง หมายถึง การที่เป็นลูกจ้างรายเดือน แต่คำว่า "รับจ้าง" นั้น กกต.ต้องตีความ ซึ่งตามความเข้าใจของผมน่าจะหมายถึง การรับจ้างเป็นงานๆ เช่น การรับจ้างดายหญ้าทำงานเสร็จก็จบ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ นอกจากดูตามกฎหมายแล้ว ต้องดูตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย" นายสุเมธ กล่าว
"เจิมศักดิ์"ชี้พฤติกรรมผิดชัด
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว. กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี เข้าไปผลิตรายการตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ มีความชัดเจนว่า ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 เพราะคำว่า ดำรงตำแหน่งใดๆ หมายความถึงการมีหน้าที่ประจำ ดังนั้นการเป็นพิธีกรประจำ จึงถือว่าเข้าข่ายด้วย และตนอยากรู้ว่า ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯ จะได้เวลาของสถานีโทรทัศน์หลายช่องอย่างนี้หรือไม่ และทางสถานีก็คงไม่กล้าปรับผังรายการ เพราะมีความเกรงใจ ซึ่งคำพูดที่นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งให้ยกเลิกรายการไปแล้ว ตรงนี้ถ้าเป็นเพียงผู้รับจ้าง จะมีอำนาจสั่งยกเลิกรายการได้หรือ และการพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับยอมรับผิดไปส่วนหนึ่งแล้ว
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถึงนายสมัครจะไปออดอ้อนกับ กกต.ว่า ขอให้ลงโทษเพียงตักเตือน ซึ่งตนคิดว่า กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปลดหย่อนโทษได้ ต้องพิจารณาไปตามความผิด กรณีของนายสมัคร ก็เหมือนกับ ป.ป.ช. ที่ออกระเบียบเพิ่มค่าตอบแทนให้ตัวเอง ซึ่งเปรียบเสมือนการขโมยควาย ที่ถือเป็นความผิดสำเร็จ ดังนั้นการที่นายสมัครได้อ้าปากชิมเข้าไปแล้ว จึงช่วยไม่ได้ เป็นการตายน้ำตื้น
ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า ได้พยามถามนายสมัคร ถึงการชี้แจงต่อ กกต. กรณีที่ไปดำเนินรายการ"ชิมไปบ่นไป" และ"ยกขโยง 6 โมงเช้า" แต่นายสมัคร ไม่ยอมตอบ ได้แต่โบกมือหยอย หยอย