ชมรม ส.ส.ร.50 แฉมีการบิดเบือนเจตนารมณ์ รธน.50 เตรียมนัดประชุมถกญัตติแก้ รธน.ของ พปช. ด้าน “เจิมศักดิ์” แจงข้อเสีย รธน.40 เป็นรายมาตรา ขู่หากดันทุรังยื่นแก้ รธน.เจอถอดถอนแน่
วันนี้ (20 พ.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรม ส.ส.ร.50 แถลงภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ทางชมรมได้สรุปการเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.ssr50.org เนื่องจากที่ผ่านมามีการนำเสนอข้อคิดเห็นและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเบี่ยงเบน ทำให้เข้าใจในเนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญปี 50 คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง ส่วนกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชนเตรียมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 กับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 พ.ค. ทาง ส.ส.ร.50 ก็ต้องพิจารณาดูเนื้อหาสาระดังกล่าวก่อนมีการซ่อนเร้นแอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ โดยจะนำเข้าที่ประชุม ส.ส.ร.50 ในวันที่ 27 พ.ค.สำหรับกรณีที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ยื่นรายชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งทราบว่าขณะนี้ประธานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องให้ประธานรัฐสภาได้รับทราบแล้ว
ด้าน นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ส.ร.50 กล่าวว่า จากการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับเห็นว่าจะมีการยกเลิกฉบับปี 50 แล้วนำฉบับปี 40 มาใช้จะเกิดความเสียหายดังต่อไปนี้ คือ เปิดโอกาสให้มีการผูกขาดอำนาจรัฐไม่โปร่งใสไร้จริยธรรม ทำให้การตรวจสอบนายกฯ และรัฐมนตรียากขึ้น เปิดช่องให้มีการซื้อเสียงและทุจริตเลือกตั้ง โดยไม่มีบทลงโทษเด็ดขาด และเปิดโอกาสให้มีการควบรวมพรรคการเมืองหลังเลือกตั้ง ปัญหาด้านจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง จะมีการทุจริตเชิงนโยบายผลประโยชน์ทับซ้อนทำให้นักการเมือง พรรคการเมือง ครอบงำแทรกแซง ส.ว. รวมถึงข้าราชการและหน่วยงานของรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้มีการแทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระผ่านกระบวนการสรรหา เปิดโอกาสให้มีการตัดตอนคดี ล้มคดี แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ลดทอนสิทธิประโยชน์และการมีส่วนร่วมของประชาชนทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงยากขึ้น เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนการเมืองฮุบสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และยังสามารถเข้าไปแทรกแซงครอบงำสื่อได้ ปิดโอกาสและตัดช่องทางในการคุ้มครองช่วยเหลือประชาชน
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถ้ามีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 พ.ค.จริง เราจะพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 122 อย่างไร ซึ่งมีช่องทางที่จะดำเนินการถอดถอนหรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราคงต้องดูว่าจะมีใครดำเนินการหรือไม่ ถ้าไม่มีก็มีแนวโน้มว่าทาง ส.ส.ร.50 จะเป็นผู้ดำเนินการเอง นอกจากนี้ในการเปิดเวปไซด์จะเปิดช่องให้คนโหวตว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่