ผู้จัดการออนไลน์ – รมต.พาณิชย์กัมพูชา แฉผ่านสื่อ ระบุ รัฐบาลไทยเสนอยื่นหมูยื่นแมว แลกเขาพระวิหาร กับพื้นที่ทับซ้อนสัมปทานแหล่งก๊าซในอ่าวไทย โดยข่าวดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำคำกล่าวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลนายสมัครกำลังจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของอดีตนักการเมืองใหญ่ ด้าน “นพดล” เสียงสั่นปฏิเสธไม่รู้เรื่อง และยืนยันว่า ประเทศไทยจะไม่เสียดินแดนแน่
หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 พ.ค.) หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาเปิดเผยว่า อดีตนักการเมืองใหญ่อาจเตรียมยกดินแดนเขาพระวิหารให้รัฐบาลกัมพูชา เพื่อแลกกับสิทธิสัมปทานขุดก๊าซในเขตทับซ้อนทางทะเลไทย-เขมร โดยตั้งคำถามถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีของไทย และ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ว่า ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร พร้อมระบุว่า ประเทศไทยเคยเตรียมขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกคู่กับกัมพูชา แต่ขณะนี้ทางฝ่ายไทยกลับปล่อยให้ประเทศกัมพูชายื่นขอฝ่ายเดียว จนอาจทำให้เกิดการเสียดินแดน 2.5 ตารางกิโลเมตร (อ่าน : “สนธิ” แฉแผนขายอธิปไตย! ยก “พระวิหาร” ให้เขมรแลกสัมปทานขุดก๊าซ)
โดยจากการออกมาเปิดโปงดังกล่าว ทำให้ในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นายสมัคร ต้องออกมาปฏิเสธผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ที่ออกอากาศทางช่องเอ็นบีที พร้อมขู่ว่าจะฟ้องหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ ที่ตีข่าวเรื่องรัฐบาลเตรียมยกเขาพระวิหารแลกสัมปทานขุดก๊าซ
ล่าสุด เช้าวันนี้ (13 พ.ค.) หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้ตีพิมพ์ข่าว “รมต.เขมรถลกไทย ยกขุมพลังงานพ่วงเจรจาเขาพระวิหาร สื่อกัมพูชาปักใจ “น้ำมัน-ก๊าซ” มหาศาล” โดยมีเนื้อหาอ้างอิงถึงข่าวจากหนังสือพิมพ์เดอะ คอมโบเดีย เดลี (The Cambodia Daily) ระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของ นายจาม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของกัมพูชา ที่ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่พยายามโยงกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหารเข้ากับผลประโยชน์ทางทะเลในอ่าวไทยระหว่างการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาไม่เห็นด้วย
“พวกเขาต้องการโยง 2 เรื่องเข้าด้วยกัน ดังนั้น หากเราแก้ปัญหาเขาพระวิหาร เราก็ต้องแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนด้วย มันเป็นคนละเรื่องกัน” นายจาม กล่าว
นอกจากนี้ ในตอนหนึ่ง นายจาม ยังกล่าวด้วยว่า “เราได้หารือถึงพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว (ในน่านน้ำบริเวณอ่าวไทยที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันอยู่) เรากำลังลดช่องว่างในกระบวนการเจรจาลง ทว่าดูเหมือนว่าขณะนี้ฝ่ายไทยกำลังสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมา ทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้น” พร้อมกล่าวด้วยว่า นายสกอัน รัฐมนตรีประจำคณะรัฐมนตรีของกัมพูชา กำลังเตรียมเดินทางมาประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อหารือเรื่องพื้นที่ผลประโยชน์ทับซ้อนในอ่าวไทย แต่ยังไม่มีการระบุวันเวลาที่แน่นอน
“นพดล” ปฏิเสธเสียงสั่น ไม่เคยเสนอยื่นหมูยื่นแมว
ด้าน นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้ได้กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของกัมพูชา ระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายที่พยายามโยงกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหารกับผลประโยชน์ทางทะเลในอ่าวไทยขึ้นมาเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ว่า ไม่ทราบเรื่อง และไม่รู้ว่ารัฐมนตรีกัมพูชาให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร แต่ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่เคยมีการยื่นหมูยื่นแมวเพื่อแลกเปลี่ยนในกรณีใดๆ กับเขาพระวิหาร
“แนวทางของเรา คือ จะเจรจาให้มีการบริหารจัดการร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อน ส่วนเรื่องน้ำมันก็จะเป็นการเจรจาต่อไป ไม่เกี่ยวข้องกัน” นายนพดล กล่าว “จะมีการพูดคุยในฐานะมิตรประเทศ เราจะพยายามให้ทุกอย่างจบลงด้วยผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายในเดือนกรกฎาคมนี้ มั่นใจว่า เราจะไม่เสียดินแดนจากเรื่องนี้”
พร้อมกันนั้น นายนพดล ได้ย้ำว่า ประเทศไทยมีท่าทีชัดเจนและยืนยันมาโดยตลอด ว่า ยินดีให้การสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ในส่วนของพื้นที่ทับซ้อนทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการคุยและบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งในโอกาสที่ตนจะเดินทางไปเปิดถนนสาย 48 ซึ่งไทยให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในการก่อสร้างก็คงจะมีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย