xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กบลจ.ฟันธงปลายปีดบ.ขาขึ้นปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ผู้จัดการกองทุนมองดอกเบี้ยขาลงจบแล้ว เหตุถูกอัตราเงินเฟ้อกดดัน "กสิกรไทย" ระบุปลายปีเห็นการกลับฐานเป็นขาขึ้นได้ แนะผู้ลงทุนกองตราสารหนี้อย่าตกใจ เหตุฟันด์แมเนเจอร์ปรับพอร์ตรับมืออยู่แล้ว พร้อมประเมินปีนี้จีดีพีขยายตัว 5-6% และดัชนีหุ้นไทยมีสุ้นแตะ 960 จุด ภายใต้ปัจจัยภายในและภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงจากนี้ ด้าน "ทหารไทย" แนะ กองทุนอสังหาฯ-หุ้น ช่องทางลงทุนเอาชนะเงินเฟ้อได้

นายอโศก วงศ์ชะอุ่ม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยหลังจากนี้เชื่อว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไป เพราะที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อของประเทศปรับเพิ่มขึ้นไปค่อนข้างมาก ดังนั้นดอกเบี้ยไม่น่าจะปรับตัวลงในช่วงสั้น ขณะเดียวกันมีโอกาสที่ดอกเบี้ยจะมีการกลับฐานเป็นขาขึ้นได้ โดยปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งน่าจะทำให้ส่งผลต่อการปรับดอกเบี้ยขึ้นได้ โดยคาดว่าจะได้เห็นในปลายปีนี้
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไม่น่าจะเร็วมาก ดังนั้นจึงเชื่อว่ากองทุนตราสารหนี้ยังปรับตัวดีอยู่ ขณะเดียวกัน มองว่าปัจจุบันมีกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยยังต่ำอยู่ จึงทำให้มีโอกาสการลงทุนในต่างประเทศอีกมากอยู่ที่ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย ถ้าจะมีส่วนต่างกันอยู่ก็ยังสามารถไปลงทุนได้
ส่วนการลงทุนของกองทุนตราสารหนี้จะต้องปรับเปลี่ยนพอร์ตหรือไม่นั้น นายอโศกกล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นปัจจัยที่ผู้จัดการกองทุนหรือผู้บริหารพอร์ตการลงทุนต้องนำมาพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งถ้าดอกเบี้ยขึ้นก็จะต้องลดอายุการลงทุนให้สั้นลงจากเดิม ในส่วนของผู้ลงทุนเอง ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนหรือโยกไปลงทุนในกองทุนประเภทอื่นๆ เนื่องจากผู้จัดการกองทุนเองจะบริหารพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่แล้ว
สำหรับแนวโน้่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ที่มีการส่งสัญญาณว่าจะกลับขาเป็นช่วงขาขึ้น อาจจะส่งผลให้เงินลงทุนไหลกลับไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นได้ เพราะสหรัฐถือเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก ขณะเดียวกันส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของหลายประเทศยังสูงกว่า ทำให้การไหลกลับดังกล่าวคงต้องใช้เวลา ส่วนปัญหาซับไพรม์เชื่อว่าทุกคนรู้แล้วว่าปัญหาเป็นอย่างไร จึงไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่นักลงทุนกังวลอีกต่อไปแล้ว
นายอโศกกล่าวต่อว่า เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ประมาณ 5-6% ภายใต้สถานการณ์ภายในประเทศรวมถึงการเมืองยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ รวมถึงแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่เป็นไปตามแผน ทั้งนี้ การคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าว เป็นการปรับตามปกติในกรณีที่ภาวะการณ์เปลี่ยนไป
ส่วนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ บลจ.กสิกรไทยมองดัชนีสิ้นปีไว้ที่ระดับ 960 จุด ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่นกัน โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมองว่าเป็นเรื่องของปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เป็นปัจจัยหลัก รวมถึงปัญหาสินค้าขาดแคลดที่อาจจะเป็นปัจจัยกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก แต่สำหรับประเทศไทย มีปัจจัยภายในคือเรื่องของการเมืองในประเทศ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจจะส่งผลให้การลงทุนจากต่างประเทศซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจชะงักไปได้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยเชื่อว่าน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหลังจากถูกกดดันจากอัตราเงินเฟ้่อที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วยว่า จะให้ความสำคัญในด้านใด ด้านการคลังที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศหรือด้านการเงินที่ต้องจัดการกับอัตราเงินเฟ้อ แต่จากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาค่อนข้างสูงในปัจจุบันเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะเหมาะสมกว่า
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทเองไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีแต่กองทุนรวมตลาดเงิน (มันนี่มาร์เก็ต) ไม่มีกองทุนพันธบัตร โดยมองว่ากองทุนที่ได้รับผลกระทบหากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จะเป็นกองทุนพันธบัตรระยะยาวมากกว่า เพราะอาจจะทำให้กองทุนเหล่านี้ติดลบ
“ขณะนี้ดอกเบี้ยขาขึ้นและควรจะขึ้นแล้วด้วยซ้ำ เพราะเงินเฟ้อขึ้นไปเกิน 3% แล้ว ในขณะที่ดอกเบี้ยยังอยู่ที่ 3.25% แต่หากไม่ขึ้นหรือลง ก็ควรตรึงไว้ในระดับนี้ดีแล้ว”นางโชติกากล่าว
นางโชติกากล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ หากต้องการเอาชนะเงินเฟ้อ แนะนำว่าการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น การเลือกลงทุนในหุ้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นจีนที่ยังน่าสนใจอยู่ แม้จะมีความผันผวนสูง
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้่ยหลังจากนี้ คงไม่อยู่ในช่วงขาลงอีกต่อไปแล้ว แต่จะทรงตัวไปจนถึงสิ้นปีมากกว่า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างสูง ซึ่งแนวโน้มดังกล่าว เราคงไม่มีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของตราสารหนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากการลงทุนโดยปกติจะนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น