ผู้จัดการรายวัน - บอร์ด ก.ล.ต.ไฟเขียวตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้ข้อมูลหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์อ้างอิงตรวจสอบหุ้นเก็งกำไร รวมถึงมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรใหม่ๆ เพิ่มเติม ด้านเอ็มดีตลาดหุ้นยังอุบไต๋ อ้างรอรับทราบผลการประชุมอย่างเป็นทางการก่อน แต่จะแจ้งให้โบรกเกอร์รับทราบก่อนประกาศใช้ 30 วัน แย้มเล็งใช้มาตรการวางประกันเพิ่ม 100% ขณะที่บอร์ด ก.ล.ต. พร้อมหนุนตราสารการเงินต่างๆ อิงทองคำเพิ่มความหลากหลายสินค้า
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. วานนี้ (14 พ.ค.) ว่า บอร์ดได้พิจารณาข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะนำรายชื่อหลักทรัพย์ที่อยู่ในรายงานหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายหมุนเวียนสูง (เทิร์นโอเวอร์ลิสต์) ไปใช้อ้างอิงการตรวจสอบและดูแลราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติเพียงแค่ให้นำหุ้นที่ติดโผหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงไปใช้เท่านั้น ส่วนการจะนำมาตรการอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงอย่างไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง
นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวเสริมว่า บอร์ดก.ล.ต. อนุมัติให้ตลาดนำข้อมูลหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงไปอ้างอิงได้ แต่เรื่องการกำกับดูแลหุ้นดังกล่าว หรือการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 100% นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้ต้องสอบบถามจากตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้งหนึ่ง
"สำนักงานก.ล.ต.อนุมัติทุกเรื่องตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอมา แต่เรื่องรายละเอียดต้องสอบถามจากทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะเกณฑ์ดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ออกและดูแล"นางจารุพรรณ กล่าว
ด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์ที่จะนำเข้ามากำกับดูแลหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูง ซึ่งต้องรอผลการประชุมของบอร์ดก.ล.ต.อย่างเป็นทางการก่อน เพราะตอนนี้ได้รับทราบจากสื่อมวลชนเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกเกณฑ์ออกมาแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯจะแจ้งให้บริษัทหลักทรัพย์สมาชิกทราบและทำความเข้าใจก่อน 30 วันที่จะมีผลบังคับใช้
สำหรับหลักเกณฑ์หรือมาตรการในการดูแลหุ้นหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวปฏิบัติสำหรับหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอยู่แล้ว ทั้งการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading)
ขณะที่การออกหลักเกณฑ์ใหม่นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการให้มีความชัดเจนสำหรับทุกฝ่ายมากขึ้น โดยนำหุ้นที่ติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงมาอ้างอิงเพื่อที่จะดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป เนื่องจากตลาดทรัพย์ฯ ทราบว่ามีผู้มีความกังวลในเรื่องแนวทางในการดูแลหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
"ตลาดหลักทรัพย์จะนำหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงมาอ้างอิง ในการดูแลกำกับดูแลหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ แต่จะมีหลักเกณฑ์ออกมาพิจารณาอีกชั้นหนึ่งว่าหุ้นกลุ่มนั้นจะเข้าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเรื่องการวางหลักประกัน 100% ในหุ้นติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าเกณฑ์ที่จะต้องใช้กับหุ้นใด ซึ่งการวางเงินสด 100% นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยลดความเสี่ยงแก่โบรกเกอร์ แต่เรื่องนี้ก็มีการใช้อยู่แล้วในกรณีเทรดหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ต"นางภัทรียา กล่าว
หนุนออกตราสารอิงทองคำ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวเพิ่มเติมว่า บอร์ดก.ล.ต.ในครั้งนี้ได้มีมติอนุมัติสนับสนุนให้มีการออกตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ที่มีทองคำเป็นสินค้าอ้างอิง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีในตลาดทุน และเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ ก.ล.ต. และตราสารทางการเงินที่อ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) เนื่องจาก ก.ล.ต. เห็นว่า ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประชาชนมีความคุ้นเคยและมีสภาพคล่องสูง รวมทั้งยังมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำกับกลุ่มหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ก.ล.ต. หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรคในการออกตราสารดังกล่าว โดยตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับทองคำจึงสามารถช่วยผู้ลงทุนในการกระจายความเสี่ยงได้ ประกอบกับผู้ค้าทองคำและผู้ประกอบธุรกิจอัญมณีก็มีความต้องการที่จะใช้ตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง และจากการสำรวจตลาดอนุพันธ์ หรือ TFEX พบว่า มีความพร้อมด้านระบบงานที่จะเปิดให้ซื้อขาย Gold Futures ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
"บอร์ด ก.ล.ต. เห็นด้วยกับหลักการที่จะให้มีการซื้อขายตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ที่อ้างอิงกับทองคำ ทั้ง ฟิวเจอร์ส ออปชั่นส์ และ อีทีเอฟ แต่ปัจจุบันประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ยังไม่อนุญาตให้ซื้อขายทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้ บอร์ด ก.ล.ต. จึงให้ ก.ล.ต. หารือกับคลัง และธปท. เพื่อแก้ไขประกาศกระทรวง การคลังฉบับดังกล่าวต่อไป"
นอกจากนี้ ประธานก.ล.ต.คนใหม่คือนายวิจิตร สุพินิจ ร่วมกับ กรรมการก.ล.ต. โดยตำแหน่งอีก 3 คน ประกอบไปด้วย นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง และนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้คณะกรรมการคัดเลือก พิจารณา เพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการ 3 คนที่ได้แสดงความประสงค์ลาออกไปก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องจับสลากออก ประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนายวสันต์ เทียนหอม
สำหรับกรณีของนายวิจิตร สุพินิจ ที่ได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ก.ล.ต. มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังคงดำรงตำแหน่งในประธานกรรมการบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ควบคู่ไปด้วย โดยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบ ธนาคารทหารไทย(TMB) ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเกิดความไม่เหมาะสม ขาดความโปร่งใสนั้น นายธีระชัย กล่าวในเรื่องนี้ ว่า ในกฎหมายไม่ได้กำหนดข้อห้ามไว้
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. วานนี้ (14 พ.ค.) ว่า บอร์ดได้พิจารณาข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะนำรายชื่อหลักทรัพย์ที่อยู่ในรายงานหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายหมุนเวียนสูง (เทิร์นโอเวอร์ลิสต์) ไปใช้อ้างอิงการตรวจสอบและดูแลราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติเพียงแค่ให้นำหุ้นที่ติดโผหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงไปใช้เท่านั้น ส่วนการจะนำมาตรการอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงอย่างไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง
นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวเสริมว่า บอร์ดก.ล.ต. อนุมัติให้ตลาดนำข้อมูลหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงไปอ้างอิงได้ แต่เรื่องการกำกับดูแลหุ้นดังกล่าว หรือการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 100% นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้ต้องสอบบถามจากตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้งหนึ่ง
"สำนักงานก.ล.ต.อนุมัติทุกเรื่องตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอมา แต่เรื่องรายละเอียดต้องสอบถามจากทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะเกณฑ์ดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ออกและดูแล"นางจารุพรรณ กล่าว
ด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์ที่จะนำเข้ามากำกับดูแลหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูง ซึ่งต้องรอผลการประชุมของบอร์ดก.ล.ต.อย่างเป็นทางการก่อน เพราะตอนนี้ได้รับทราบจากสื่อมวลชนเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกเกณฑ์ออกมาแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯจะแจ้งให้บริษัทหลักทรัพย์สมาชิกทราบและทำความเข้าใจก่อน 30 วันที่จะมีผลบังคับใช้
สำหรับหลักเกณฑ์หรือมาตรการในการดูแลหุ้นหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวปฏิบัติสำหรับหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอยู่แล้ว ทั้งการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading)
ขณะที่การออกหลักเกณฑ์ใหม่นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการให้มีความชัดเจนสำหรับทุกฝ่ายมากขึ้น โดยนำหุ้นที่ติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงมาอ้างอิงเพื่อที่จะดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป เนื่องจากตลาดทรัพย์ฯ ทราบว่ามีผู้มีความกังวลในเรื่องแนวทางในการดูแลหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
"ตลาดหลักทรัพย์จะนำหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงมาอ้างอิง ในการดูแลกำกับดูแลหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ แต่จะมีหลักเกณฑ์ออกมาพิจารณาอีกชั้นหนึ่งว่าหุ้นกลุ่มนั้นจะเข้าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเรื่องการวางหลักประกัน 100% ในหุ้นติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าเกณฑ์ที่จะต้องใช้กับหุ้นใด ซึ่งการวางเงินสด 100% นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยลดความเสี่ยงแก่โบรกเกอร์ แต่เรื่องนี้ก็มีการใช้อยู่แล้วในกรณีเทรดหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ต"นางภัทรียา กล่าว
หนุนออกตราสารอิงทองคำ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวเพิ่มเติมว่า บอร์ดก.ล.ต.ในครั้งนี้ได้มีมติอนุมัติสนับสนุนให้มีการออกตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ที่มีทองคำเป็นสินค้าอ้างอิง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีในตลาดทุน และเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ ก.ล.ต. และตราสารทางการเงินที่อ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) เนื่องจาก ก.ล.ต. เห็นว่า ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประชาชนมีความคุ้นเคยและมีสภาพคล่องสูง รวมทั้งยังมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำกับกลุ่มหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ก.ล.ต. หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรคในการออกตราสารดังกล่าว โดยตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับทองคำจึงสามารถช่วยผู้ลงทุนในการกระจายความเสี่ยงได้ ประกอบกับผู้ค้าทองคำและผู้ประกอบธุรกิจอัญมณีก็มีความต้องการที่จะใช้ตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง และจากการสำรวจตลาดอนุพันธ์ หรือ TFEX พบว่า มีความพร้อมด้านระบบงานที่จะเปิดให้ซื้อขาย Gold Futures ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
"บอร์ด ก.ล.ต. เห็นด้วยกับหลักการที่จะให้มีการซื้อขายตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ที่อ้างอิงกับทองคำ ทั้ง ฟิวเจอร์ส ออปชั่นส์ และ อีทีเอฟ แต่ปัจจุบันประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ยังไม่อนุญาตให้ซื้อขายทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้ บอร์ด ก.ล.ต. จึงให้ ก.ล.ต. หารือกับคลัง และธปท. เพื่อแก้ไขประกาศกระทรวง การคลังฉบับดังกล่าวต่อไป"
นอกจากนี้ ประธานก.ล.ต.คนใหม่คือนายวิจิตร สุพินิจ ร่วมกับ กรรมการก.ล.ต. โดยตำแหน่งอีก 3 คน ประกอบไปด้วย นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง และนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้คณะกรรมการคัดเลือก พิจารณา เพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการ 3 คนที่ได้แสดงความประสงค์ลาออกไปก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องจับสลากออก ประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนายวสันต์ เทียนหอม
สำหรับกรณีของนายวิจิตร สุพินิจ ที่ได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ก.ล.ต. มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังคงดำรงตำแหน่งในประธานกรรมการบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ควบคู่ไปด้วย โดยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบ ธนาคารทหารไทย(TMB) ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเกิดความไม่เหมาะสม ขาดความโปร่งใสนั้น นายธีระชัย กล่าวในเรื่องนี้ ว่า ในกฎหมายไม่ได้กำหนดข้อห้ามไว้
