xs
xsm
sm
md
lg

ทุนนอก2แสนล้านล่องหน ก.พ.ทะลัก645%ธปท.หวั่นเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติตามล่าเงินต่างชาติไหลเข้าหลังยกเลิกมาตรการ 30% ยอมรับเจอลงทุนในตลาดหุ้นบางส่วนจากยอดรวมกว่า 1.8 แสนล้านบาท หวั่นฝรั่งซ่อนแหล่งพักเงินหวังเก็งกำไร ตัวเลขเงินไหลเข้าล่าสุดเดือน ก.พ. 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือพุ่งจากเดือน ม.ค.ถึง 645% ขณะที่แนวโน้มฝรั่งเน้นลงทุนตลาดตราสารหนี้ กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงถือพันธบัตร ธปท.และรัฐบาลมากขึ้น

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% สำหรับเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น และขณะนี้ต่างชาติก็เริ่มหันมาลงทุนพันธบัตร ธปท.ในตลาดรองมากขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรที่มีอายุสั้นๆ แต่ปริมาณที่เข้ามาไม่ได้มากและยังสามารถบริหารจัดการได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท.กำลังติดตามดูอยู่ว่าเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุนกว่า 180,000 ล้านบาท นั้น นอกจากลงทุนในตลาดหุ้นแล้วและยังไปลงทุนในจุดไหนมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเท่าทราบพบว่าการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้มีเพียง 5 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ยังมีทั้งซื้อและขาย แต่สุทธิแล้วยังมีการซื้ออยู่ จากช่วงก่อนออกมาตรการ 30% ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมีเพียงซื้อเท่านั้น

ทั้งนี้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% มาแตะที่ระดับ 2.00% แต่ยังไม่เห็นสัญญาณเงินทุนไหลเข้าผิดปกติมากนัก เชื่อว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าไทยมากจากปัจจัยส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายไทยกับสหรัฐที่ห่างกันถึง 1.25% นอกจากนี้การตัดสินใจลงทุนประเทศใดของชาวต่างชาติจะดูจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศนั้นๆ ประกอบด้วย ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในขณะนี้ค่อนข้างนิ่ง จึงไม่น่าจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติไหลทะลักเข้ามาในไทยมากเกิน

ทั้งนี้ ตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้ายในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 5,096 ล้านเหรียญ เป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่มีเงินทุนไหลเข้า 684 ล้านเหรียญ หรือมีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น 4,412 ล้านเหรียญ คิดเป็น 645% โดยในส่วนของ ธปท.และภาครัฐมีเงินทุนไหลเข้า 128 และ 87 ล้านเหรียญ ตามลำดับ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติหันมาซื้อพันธบัตร ธปท.และพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองมากขึ้น และภาครัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 39 ล้านเหรียญ จากการชำระคืนเงินกู้ตามสัญญา

ขณะที่ภาคธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 2,150 ล้านเหรียญ โดยเงินทุนไหลเข้ามาจากการลดสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิ เนื่องจากการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับต่างชาติ (Resident) เป็นสำคัญ นอกจากนี้มีเงินไหลเข้าบางส่วนจากการเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์บางแห่ง

ส่วนภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 2,770 ล้านเหรียญ โดยเงินทุนไหลเข้ามาจากเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) จำนวน 575 ล้านเหรียญ เงินลงทุนในตราสารทุนของนักลงทุนต่างชาติ 3,519 ล้านเหรียญ และการไถ่ถอนเงินลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนไทย รวมทั้งได้รับสินเชื่อการค้าจำนวน 659 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะสินเชื่อน้ำมัน สำหรับเงินกู้ต่างประเทศเป็นการชำระคืนทั้งเงินกู้ในเครือและเงินกู้นอกเครือ ซึ่งมียอดไหลออกสุทธิ 1,678 ล้านเหรียญ.
กำลังโหลดความคิดเห็น