การเมืองไทยกำลังวิ่งเข้าสู่วิกฤตอีกครั้งแล้ว!!!
เนื่องจากคณะทหารในนาม คมช.“ตีงูทักษิณ-แค่หลังหัก” และยังแสดงความสับสน “ทางเพศ (การเมือง)”จะเป็นเผด็จการก็มิใช่ จะเป็นประชาธิปไตยก็ไม่เชิงหนำซ้ำยังตั้งตนเป็น “ชาวนา” อุ้ม “งูเห่าทักษิณ” ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกต่างหาก
เริ่มด้วยการตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล คมช.ที่อ่อนแอชูนโยบายปรองดองสมานฉันท์อย่างสิ้นคิดกับทักษิณและพรรคพวกทั้งลับและเปิดเผยโดยมิได้บั่นทอนทำลายระบอบทักษิณและกลไกทั้งปวงเลย
ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง “งูเห่าทักษิณ” ก็ฉกกัด “ชาวนา” (ประชาชน) อีกครั้งขบวนการ “เด็กเลี้ยงแกะทักษิณ” ได้ใช้เงินทองมากมาย ชักใยพรรคการเมือง-นักการเมืองนอมินี ดำเนินการซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม จนชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งได้ ส.ส.ในสภาฯ มากที่สุด ตั้งนายกรัฐมนตรีจมูกชมพู่สมัคร สุนทรเวช และตั้งคณะรัฐมนตรีขี้เหร่สุดๆ เพื่อมาทำเรื่องสารพัดให้ทักษิณพ้นผิดแบบสุดๆ ไงล่ะครับ
เรียกว่า ส.ส.และรัฐบาลนอมินีต้องทำทุกวิธีการ เพื่อให้ทักษิณพ้นจากความผิดทั้งปวงครับ
การดีดลูกคิดรางแก้ว ค้นหา “เหลี่ยมคู” เพื่อยกทิ้งความผิดทั้งหมดของ “บุรุษหน้าเหลี่ยม” ทั้งหมดมาลงตัวตรงเหลี่ยมมุมที่คิดว่าดีที่สุด นั่นคือ..ต้องฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งเท่านั้น
เหลี่ยมคูหนึ่ง-ทักษิณและครอบครัวกำลังถูกกระบวนการยุติธรรมทั้ง ดีเอสไอ ป.ป.ช. คตส. ศาลสถิตยุติธรรม ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบ พิจารณาคดีความอยู่อย่างมากมาย
คดีความที่ถูกดำเนินการเยอะแยะเช่นนี้ อาจมีคดีความหนึ่งคดีความใดก็ได้ ที่ทำให้ทักษิณและครอบครัวต้องอาญาแผ่นดินซึ่งทักษิณไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นอย่างเด็ดขาด
เหลี่ยมคูสอง-การใช้เงินซื้อคนเลวเยอะแยะมาเป็นลูกกะโล่ เพื่อทำเรื่องชั่วสารพัดนั้น แม้นทักษิณจะทำสำเร็จมาไม่น้อย แต่ทักษิณก็รู้ดีและมีประสบการณ์ว่า เงินซื้อทุกคนมิได้เสมอไป ดังนั้น..หลักประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการซื้อเสียงข้างมากของผู้พิพากษาในศาลสถิตยุติธรรมนั้น
ทักษิณรู้ดีว่า..เป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงด้วย ยิ่งสถานการณ์ยามนี้..ชัยชนะบนโรงศาล เป็นเรื่องที่ทักษิณถือว่า หลักประกันน้อยมากจนแทบเหลือศูนย์!
เหลี่ยมคูสาม-อาศัยประเด็นล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 สร้างความแตกแยกและการต่อต้านจากภาคประชาชน ใช้มวลชนรับจ้างสร้างสถานการณ์ร้าย เพื่อเป็นข้ออ้างใช้กฎหมายความมั่นคง ทำรัฐประหารตนเองโดยรัฐบาลนอมินี ก่อนจะดำเนินการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม พร้อมๆ กับยกทิ้งความผิดทั้งปวงของทักษิณและพรรคพวกทั้งหมด เพื่อเป็นหนทางให้ทักษิณกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
แต่แผนนี้เสี่ยงขนาดหนัก เพราะทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ตกอยู่ในกำมือของทักษิณเบ็ดเสร็จ 100% แผนนี้จึงยากและออกจะเสี่ยงจนเกินเหตุ ทว่า..อย่าประมาทนะครับ หากโอกาสอำนวย “เสือหน้าเหลี่ยม” ก็พร้อมยกพลตะโกน..ไอ้เสือ..เอาละวา..ทันที!
เหลี่ยมคูสี่-ที่คนหน้าเหลี่ยมคิดว่าดีที่สุด-ยอดที่สุด-เร็วที่สุด-เสี่ยงน้อยที่สุด คือ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี2550 ทิ้ง หวังยุติความผิดทั้งปวงของตนและพวกพ้องโดยอัตโนมัติ
ทว่า..ทั้งหมดทักษิณรู้ดีว่า นอกจากต้องทำให้สำเร็จแล้ว ยังต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย!
ดังนั้นตอนนี้..ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนและรัฐบาลนอมินี จึงไม่แยแสว่าอะไรถูก-อะไรผิด อะไรชอบธรรม-อะไรไม่ชอบธรรม แถมประชาชนจะเดือดร้อนเลือดตากระเด็นสักปานใด? อีกทั้งบ้านเมืองจะฉิบหายวายป่วงสักแค่ไหน? ทักษิณกับลูกกะโล่ในสภาฯ และในรัฐบาลทั้งหมด ล้วนดาหน้ามุ่งล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งสถานเดียว!
ที่สำคัญรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้จะคลอดในยุครัฐประหาร แต่ความเป็นมากลับเป็นประชาธิปไตยยิ่งนัก เพราะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ที่มิใช่ ส.ส.กับ ส.ว.ซึ่งเป็นกลุ่มคนซึ่งมีส่วนได้เสีย หรือมีประโยชน์ทับซ้อนกับรัฐธรรมนูญโดยตรง
แถมรัฐธรรมนูญปี 2550 นี้ ยังให้ประชาชนเป็นเจ้าของตัวจริงเสียงจริง ด้วยการเปิดให้ลงประชามติทั่วประเทศ โดยมีทักษิณและพรรคพวกกับเครือข่าย เคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านคัดค้านอย่างหนัก แต่ในที่สุดคนกว่า 14 ล้านเสียง ก็ลงประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงต้องถือว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนครับ
ทว่า14 ล้านเสียงสวรรค์ของประชาชนนั้น ทักษิณและ ส.ส.นอมินีกลับเห็นเป็นสิ่งไร้ค่าไร้สาระ ไร้ความสำคัญแม้นแต่น้อย ตรงกันข้ามกลับใช้คณะบุคคลในสภาฯ แค่ 300 กว่าคน บังอาจข่มขืนจิตใจคนทั้ง 14 ล้านเสียง หวังฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งกลางสภาฯ อย่างหน้าด้านๆ
การกระทำดังกล่าวต้องถือว่า..เป็นการรัฐประหารเงียบ ทำลายรัฐธรรมนูญของประชาชนปี 2550 ด้วยน้ำมือของคณะบุคคลที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตรและพรรคพวกไม่กี่คนครับ!
วันนี้เวลาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับทักษิณและพวกพ้อง ทักษิณและส.ส.นอมินีจึงไม่คิดจะเปิดให้มีการลงประชามติว่า ประชาชนจะยินยอมให้พวกทักษิณฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่? อีกทั้งไม่แยแสให้มีการลงประชามติ รับหรือไม่รับ..ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกด้วย
ทักษิณและพวกพ้องต่างอ้างว่า เสียเวลาและไม่มีความจำเป็น เนื่องจาก ส.ส.เสียงข้างมากของตนได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน จึงสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ในประเทศนี้ รวมทั้งปู้ยี่ปู้ยำหรือฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550!
การอ้างดังกล่าวเป็นสิ่งน่าขยะแขยงและน่ากลัวจริงๆ เพราะประชาชนคนไทยต่างรู้ว่า การได้มาซึ่ง ส.ส.เสียงข้างมากของทักษิณนั้น ใช้ทั้งเงินซื้อเสียงและใช้ทั้งเล่ห์เพทุบายสารพัดแทบทั้งสิ้น
อีกทั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองและนักการเมืองนอมินีของทักษิณ ก็มิได้หาเสียงชูนโยบายฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลนอมินีปัจจุบัน นอกจากไม่เคยหาเสียงฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้ว ยังหาเสียงด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรคนอมินีของทักษิณด้วยซ้ำไป
ดังนั้นการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง ต้องถือเป็นการหักหลังประชาชนทั้งประเทศ ของพรรคนอมินีทักษิณและพรรคร่วมรัฐบาล และเป็นการเหยียบย่ำหัวใจประชาชน 14 ล้านคน ที่ลงประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 2550 ครับ
รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ทักษิณและส.ส.นอมินีอ้างเป็น “ยาแรง” นั้น มีบทลงโทษที่หนักและชัดเจนต่อคนหรือพรรคการเมืองที่โกงการเลือกตั้ง เป็นกติกาบัญญัติไว้ก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งทุกพรรคการเมืองต่างยอมรับและต้องปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.และพวกนักธุรกิจการเมือง จะใช้เงินซื้อเสียงประชาชนยากกว่าปกตินั่นเอง
ดังนั้นความชอบธรรมอันพึงปฏิบัติก็คือ หากนักการเมืองและพรรคการเมืองใดทำผิดกฎหมาย กกต.และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม รวมทั้งนักการเมืองและพรรคการเมือง ย่อมต้องดำเนินและถูกดำเนินตามกฎหมาย เมื่อมีความผิดเกิดขึ้นโดยมิอาจบิดพลิ้วใดๆ ทั้งสิ้น
เลิกกล่าวโทษรัฐธรรมนูญนี้ว่า จงใจร่างขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งทักษิณและพวกพ้องได้แล้วครับ
เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ออกอากาศทางทีวียอมรับไปทั่วประเทศแล้วว่าการล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ครั้งนี้ ก็เพื่อหนีความผิดในกรณียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัฌชิมาฯ แต่ที่สมัครยังพูดไม่ครบถ้วนก็คือ หนีความผิดของทักษิณและพวกพ้องด้วยครับ
รัฐธรรมนูญ “ยาแรง” ฉบับปี2550 นั้น ต้องถือว่าเป็นสิ่งดีสำหรับชาติและประชาชนคนไทย แต่กลับเป็นยาพิษร้ายแรงสำหรับผู้สมัคร ส.ส.ขี้โกงทุกคน เพราะโอกาสโกงนั้น..ยากมากขึ้น ขืนโกงหน้าด้านๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจโดนยุบพรรคอีกทั้งแกนนำพรรค อาจถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีได้
ฉะนั้น..อย่าหลงกล-หลงเชื่อ-หลงข้ออ้างอื่นๆ สารพัดสารพันจากปากคนพูดอย่างทำอย่างเยี่ยงทักษิณและบรรดาลูกกะโล่เลย เพราะนั่นล้วนเป็นเล่ห์เพทุบายลวงหลอกทั้งสิ้นครับ!
แผนจริง คือ ทักษิณ-จะต้องรีบฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งโดยเร็วที่สุด เพื่อทักษิณ-จะได้พ้นจากความผิดทั้งปวง แล้วทักษิณ-จะได้กลับมายึดครองอำนาจรัฐเป็นใหญ่เทียมฟ้าอีกครั้งหนึ่ง
เหลี่ยมคูสามานย์การเมืองปี 2551 โดยฝีมือคนหน้าเหลี่ยมและเพื่อคนหน้าเหลี่ยมคนเดียวนี่แหละ ที่จะทำให้ประเทศชาติก้าวเข้าสู่วิกฤตการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ได้แน่นอน!!!
เนื่องจากคณะทหารในนาม คมช.“ตีงูทักษิณ-แค่หลังหัก” และยังแสดงความสับสน “ทางเพศ (การเมือง)”จะเป็นเผด็จการก็มิใช่ จะเป็นประชาธิปไตยก็ไม่เชิงหนำซ้ำยังตั้งตนเป็น “ชาวนา” อุ้ม “งูเห่าทักษิณ” ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกต่างหาก
เริ่มด้วยการตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล คมช.ที่อ่อนแอชูนโยบายปรองดองสมานฉันท์อย่างสิ้นคิดกับทักษิณและพรรคพวกทั้งลับและเปิดเผยโดยมิได้บั่นทอนทำลายระบอบทักษิณและกลไกทั้งปวงเลย
ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง “งูเห่าทักษิณ” ก็ฉกกัด “ชาวนา” (ประชาชน) อีกครั้งขบวนการ “เด็กเลี้ยงแกะทักษิณ” ได้ใช้เงินทองมากมาย ชักใยพรรคการเมือง-นักการเมืองนอมินี ดำเนินการซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม จนชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งได้ ส.ส.ในสภาฯ มากที่สุด ตั้งนายกรัฐมนตรีจมูกชมพู่สมัคร สุนทรเวช และตั้งคณะรัฐมนตรีขี้เหร่สุดๆ เพื่อมาทำเรื่องสารพัดให้ทักษิณพ้นผิดแบบสุดๆ ไงล่ะครับ
เรียกว่า ส.ส.และรัฐบาลนอมินีต้องทำทุกวิธีการ เพื่อให้ทักษิณพ้นจากความผิดทั้งปวงครับ
การดีดลูกคิดรางแก้ว ค้นหา “เหลี่ยมคู” เพื่อยกทิ้งความผิดทั้งหมดของ “บุรุษหน้าเหลี่ยม” ทั้งหมดมาลงตัวตรงเหลี่ยมมุมที่คิดว่าดีที่สุด นั่นคือ..ต้องฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งเท่านั้น
เหลี่ยมคูหนึ่ง-ทักษิณและครอบครัวกำลังถูกกระบวนการยุติธรรมทั้ง ดีเอสไอ ป.ป.ช. คตส. ศาลสถิตยุติธรรม ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบ พิจารณาคดีความอยู่อย่างมากมาย
คดีความที่ถูกดำเนินการเยอะแยะเช่นนี้ อาจมีคดีความหนึ่งคดีความใดก็ได้ ที่ทำให้ทักษิณและครอบครัวต้องอาญาแผ่นดินซึ่งทักษิณไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นอย่างเด็ดขาด
เหลี่ยมคูสอง-การใช้เงินซื้อคนเลวเยอะแยะมาเป็นลูกกะโล่ เพื่อทำเรื่องชั่วสารพัดนั้น แม้นทักษิณจะทำสำเร็จมาไม่น้อย แต่ทักษิณก็รู้ดีและมีประสบการณ์ว่า เงินซื้อทุกคนมิได้เสมอไป ดังนั้น..หลักประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการซื้อเสียงข้างมากของผู้พิพากษาในศาลสถิตยุติธรรมนั้น
ทักษิณรู้ดีว่า..เป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงด้วย ยิ่งสถานการณ์ยามนี้..ชัยชนะบนโรงศาล เป็นเรื่องที่ทักษิณถือว่า หลักประกันน้อยมากจนแทบเหลือศูนย์!
เหลี่ยมคูสาม-อาศัยประเด็นล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 สร้างความแตกแยกและการต่อต้านจากภาคประชาชน ใช้มวลชนรับจ้างสร้างสถานการณ์ร้าย เพื่อเป็นข้ออ้างใช้กฎหมายความมั่นคง ทำรัฐประหารตนเองโดยรัฐบาลนอมินี ก่อนจะดำเนินการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม พร้อมๆ กับยกทิ้งความผิดทั้งปวงของทักษิณและพรรคพวกทั้งหมด เพื่อเป็นหนทางให้ทักษิณกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
แต่แผนนี้เสี่ยงขนาดหนัก เพราะทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ตกอยู่ในกำมือของทักษิณเบ็ดเสร็จ 100% แผนนี้จึงยากและออกจะเสี่ยงจนเกินเหตุ ทว่า..อย่าประมาทนะครับ หากโอกาสอำนวย “เสือหน้าเหลี่ยม” ก็พร้อมยกพลตะโกน..ไอ้เสือ..เอาละวา..ทันที!
เหลี่ยมคูสี่-ที่คนหน้าเหลี่ยมคิดว่าดีที่สุด-ยอดที่สุด-เร็วที่สุด-เสี่ยงน้อยที่สุด คือ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี2550 ทิ้ง หวังยุติความผิดทั้งปวงของตนและพวกพ้องโดยอัตโนมัติ
ทว่า..ทั้งหมดทักษิณรู้ดีว่า นอกจากต้องทำให้สำเร็จแล้ว ยังต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย!
ดังนั้นตอนนี้..ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนและรัฐบาลนอมินี จึงไม่แยแสว่าอะไรถูก-อะไรผิด อะไรชอบธรรม-อะไรไม่ชอบธรรม แถมประชาชนจะเดือดร้อนเลือดตากระเด็นสักปานใด? อีกทั้งบ้านเมืองจะฉิบหายวายป่วงสักแค่ไหน? ทักษิณกับลูกกะโล่ในสภาฯ และในรัฐบาลทั้งหมด ล้วนดาหน้ามุ่งล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งสถานเดียว!
ที่สำคัญรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้จะคลอดในยุครัฐประหาร แต่ความเป็นมากลับเป็นประชาธิปไตยยิ่งนัก เพราะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ที่มิใช่ ส.ส.กับ ส.ว.ซึ่งเป็นกลุ่มคนซึ่งมีส่วนได้เสีย หรือมีประโยชน์ทับซ้อนกับรัฐธรรมนูญโดยตรง
แถมรัฐธรรมนูญปี 2550 นี้ ยังให้ประชาชนเป็นเจ้าของตัวจริงเสียงจริง ด้วยการเปิดให้ลงประชามติทั่วประเทศ โดยมีทักษิณและพรรคพวกกับเครือข่าย เคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านคัดค้านอย่างหนัก แต่ในที่สุดคนกว่า 14 ล้านเสียง ก็ลงประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงต้องถือว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนครับ
ทว่า14 ล้านเสียงสวรรค์ของประชาชนนั้น ทักษิณและ ส.ส.นอมินีกลับเห็นเป็นสิ่งไร้ค่าไร้สาระ ไร้ความสำคัญแม้นแต่น้อย ตรงกันข้ามกลับใช้คณะบุคคลในสภาฯ แค่ 300 กว่าคน บังอาจข่มขืนจิตใจคนทั้ง 14 ล้านเสียง หวังฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งกลางสภาฯ อย่างหน้าด้านๆ
การกระทำดังกล่าวต้องถือว่า..เป็นการรัฐประหารเงียบ ทำลายรัฐธรรมนูญของประชาชนปี 2550 ด้วยน้ำมือของคณะบุคคลที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตรและพรรคพวกไม่กี่คนครับ!
วันนี้เวลาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับทักษิณและพวกพ้อง ทักษิณและส.ส.นอมินีจึงไม่คิดจะเปิดให้มีการลงประชามติว่า ประชาชนจะยินยอมให้พวกทักษิณฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่? อีกทั้งไม่แยแสให้มีการลงประชามติ รับหรือไม่รับ..ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกด้วย
ทักษิณและพวกพ้องต่างอ้างว่า เสียเวลาและไม่มีความจำเป็น เนื่องจาก ส.ส.เสียงข้างมากของตนได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน จึงสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ในประเทศนี้ รวมทั้งปู้ยี่ปู้ยำหรือฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550!
การอ้างดังกล่าวเป็นสิ่งน่าขยะแขยงและน่ากลัวจริงๆ เพราะประชาชนคนไทยต่างรู้ว่า การได้มาซึ่ง ส.ส.เสียงข้างมากของทักษิณนั้น ใช้ทั้งเงินซื้อเสียงและใช้ทั้งเล่ห์เพทุบายสารพัดแทบทั้งสิ้น
อีกทั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองและนักการเมืองนอมินีของทักษิณ ก็มิได้หาเสียงชูนโยบายฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลนอมินีปัจจุบัน นอกจากไม่เคยหาเสียงฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งแล้ว ยังหาเสียงด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรคนอมินีของทักษิณด้วยซ้ำไป
ดังนั้นการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง ต้องถือเป็นการหักหลังประชาชนทั้งประเทศ ของพรรคนอมินีทักษิณและพรรคร่วมรัฐบาล และเป็นการเหยียบย่ำหัวใจประชาชน 14 ล้านคน ที่ลงประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 2550 ครับ
รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ทักษิณและส.ส.นอมินีอ้างเป็น “ยาแรง” นั้น มีบทลงโทษที่หนักและชัดเจนต่อคนหรือพรรคการเมืองที่โกงการเลือกตั้ง เป็นกติกาบัญญัติไว้ก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งทุกพรรคการเมืองต่างยอมรับและต้องปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.และพวกนักธุรกิจการเมือง จะใช้เงินซื้อเสียงประชาชนยากกว่าปกตินั่นเอง
ดังนั้นความชอบธรรมอันพึงปฏิบัติก็คือ หากนักการเมืองและพรรคการเมืองใดทำผิดกฎหมาย กกต.และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม รวมทั้งนักการเมืองและพรรคการเมือง ย่อมต้องดำเนินและถูกดำเนินตามกฎหมาย เมื่อมีความผิดเกิดขึ้นโดยมิอาจบิดพลิ้วใดๆ ทั้งสิ้น
เลิกกล่าวโทษรัฐธรรมนูญนี้ว่า จงใจร่างขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งทักษิณและพวกพ้องได้แล้วครับ
เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ออกอากาศทางทีวียอมรับไปทั่วประเทศแล้วว่าการล้มรัฐธรรมนูญปี 2550 ครั้งนี้ ก็เพื่อหนีความผิดในกรณียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัฌชิมาฯ แต่ที่สมัครยังพูดไม่ครบถ้วนก็คือ หนีความผิดของทักษิณและพวกพ้องด้วยครับ
รัฐธรรมนูญ “ยาแรง” ฉบับปี2550 นั้น ต้องถือว่าเป็นสิ่งดีสำหรับชาติและประชาชนคนไทย แต่กลับเป็นยาพิษร้ายแรงสำหรับผู้สมัคร ส.ส.ขี้โกงทุกคน เพราะโอกาสโกงนั้น..ยากมากขึ้น ขืนโกงหน้าด้านๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจโดนยุบพรรคอีกทั้งแกนนำพรรค อาจถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีได้
ฉะนั้น..อย่าหลงกล-หลงเชื่อ-หลงข้ออ้างอื่นๆ สารพัดสารพันจากปากคนพูดอย่างทำอย่างเยี่ยงทักษิณและบรรดาลูกกะโล่เลย เพราะนั่นล้วนเป็นเล่ห์เพทุบายลวงหลอกทั้งสิ้นครับ!
แผนจริง คือ ทักษิณ-จะต้องรีบฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้งโดยเร็วที่สุด เพื่อทักษิณ-จะได้พ้นจากความผิดทั้งปวง แล้วทักษิณ-จะได้กลับมายึดครองอำนาจรัฐเป็นใหญ่เทียมฟ้าอีกครั้งหนึ่ง
เหลี่ยมคูสามานย์การเมืองปี 2551 โดยฝีมือคนหน้าเหลี่ยมและเพื่อคนหน้าเหลี่ยมคนเดียวนี่แหละ ที่จะทำให้ประเทศชาติก้าวเข้าสู่วิกฤตการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ได้แน่นอน!!!
