xs
xsm
sm
md
lg

“มิ่ง”ไม่คุมข้าว ปล่อยส่งออกไม่ขาดแคลน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“มิ่งขวัญ”ไม่คุมส่งออกข้าว ปล่อยค้าขายเสรี แถมจะสนับสนุนให้มีการส่งออกให้หมด ยืนยันในประเทศไม่มีปัญหาขาดแคลนและราคาแพง เตรียมนำข้าวในสต๊อกบรรจุถุง 5 กิโลกรัมขายราคาถูก พร้อมเก็บไว้กันเหนียวส่วนหนึ่ง ส่วนการตรวจสต๊อกข้าวทั่วประเทศ หายจิ๊บจ๊อยแค่ 1.3 หมื่นตัน สั่งดำเนินคดีโรงสีโกงข้าวเฉียบขาด พร้อมเจ้าหน้าที่รัฐที่มีเอี่ยว ผู้ส่งออกข้าวชี้ข้าวหายเกิดขึ้นทุกปีย้ำผู้รับชอบเมินปัญหา ขณะ ผู้ประกอบการระบุข้าวถุงพาณิชย์มีแนวโน้มราคาต่ำกว่าท้องตลาดกิโลละ 5 บาท หวั่นพ่อค้าแม่ค้าตักข้าวกระสอบขายเจ๊งระนาว

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางการทำตลาดข้าวของกระทรวงพาณิชย์ในสถานการณ์ข้าวที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า จะสนับสนุนให้มีการส่งออกข้าวไปขายต่างประเทศอย่างเต็มที่ จะไม่มีการกำหนดโควตาส่งออก หรือดำเนินการใดๆ ส่วนราคาขายก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากขายได้ราคาที่ดีขึ้น ก็ยินดีกับพ่อค้า สำหรับเกษตรกร ก็จะดูแลให้ขายข้าวได้ตามราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ดูแลไม่ให้ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อ

“กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนให้มีการส่งออกข้าวให้หมด ชาวนาจะได้ลืมตาอ้าปากได้ โดยข้าวนาปรังที่กำลังจะออกมา ก็สนับสนุนให้ส่งออก รวมถึงข้าวฤดูกาลใหม่ เพราะปีนี้เป็นปีทองของชาวนา เพราะที่ผ่านๆ มา คนเคยพูดชาวนาขายข้าวหนึ่งเกวียนซื้อทองไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ซื้อได้แล้ว จึงอยากขอเตือนชาวนาให้ดูแลข้าวให้ดีที่สุด และให้ขายในราคาที่ตัวเองพอใจ”นายมิ่งขวัญ กล่าว

ทั้งนี้ ยืนยันว่าแม้กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนให้มีการส่งออกข้าวที่ผลิตออกมาได้ทั้งหมด ภายในประเทศจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนข้าว เพราะกลไกตลาดจะทำงานตามปกติ พ่อค้าที่ทำข้าวบรรจุถุงขายก็จะไปแย่งซื้อข้าวกับผู้ส่งออก ทำให้ราคาข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด และมีข้าวบรรจุถุงออกมาจำหน่ายตามปกติ

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า สำหรับการดูแลราคาข้าวที่บริโภคภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวสารที่อยู่ในสต๊อกจำนวนหนึ่งมาบรรจุเป็นข้าวถุง 5 กิโลกรัมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค โดยราคาที่ขายจะเป็นราคาที่คุ้มกับต้นทุนของข้าวที่รับจำนำมา แต่จะเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดแน่นอน โดยการจำหน่ายจะขายผ่านองค์การคลังสินค้า (อคส.) พาณิชย์จังหวัด และค้าภายในจังหวัด ซึ่งราคาและปริมาณจะมีการกำหนดรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือน

นอกจากนี้ ยังจะนำข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจำนวนหนึ่งมาเก็บไว้เป็นสต๊อกเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนข้าวเพื่อการบริโภค และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลออกไป ส่วนการรับจำนำข้าว ขอยืนยันเช่นกันว่า กระทรวงพาณิชย์จะไม่เปิดโครงการรับจำนำข้าวในปีนี้ เพราะขณะนี้กลไกตลาดได้ทำอย่างเป็นปกติ และราคาข้าวเป็นที่น่าพอใจแล้ว

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ส่วนผลการตรวจสอบข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจำนวน 2.109 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า ข้าวในโกดังกลาง 1.964 ล้านตัน มีปริมาณครบถ้วน ข้าวในโรงสี 0.145 ล้านตัน ขาดหายไป 13,000 ตัน คิดเป็น 0.62% ตรวจสอบพบในจังหวัดพิจิตร พะเยา ชัยนาท คงเหลือข้าวในสต๊อกทั้งสิ้น 2.096 ล้านตัน ซึ่งหากรวมกับข้าวที่หายที่จังหวัดเชียงรายอีก 12,000 ตัน จะมีข้าวหายเพียง 25,000 ตัน

“ได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับโรงสีทั้งทางแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุด และขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมงานกับรัฐบาลอีกต่อไป และขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีอาญากับพนักงานและข้าราชการอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบปริมาณข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกอย่างต่อเนื่องด้วย”นายมิ่งขวัญ กล่าว

ผู้ส่งออกข้าวชี้ข้าวหายเกิดทุกปี

แหล่งข่าวจากสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวถึงปัญหาข้าวในโกดังของรัฐสูญหายว่าปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เป็นปัญหาใหม่ แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นมาทุกปี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในที่รับผิดชอบดูแลเรื่องสต็อกข้าวก็ยังปล่อยให้เกิดซ้ำซาก

“เมื่อปีที่แล้วก็เกิดปัญหาข้าวในสต็อกหายไป ซึ่งอดีตอธิบดีกรมการค้าภายในตอนนั้นก็รับทราบปัญหาข้าวหาย มาถึงยุคนายมิ่งขวัญ เป็น รมว.พาณิชย์ ก็เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการทุจริตและขโมยข้าวกันเป็นขบวนการโดยที่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ น่าจะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างจริงจังโดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่รับชอบต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง แต่กลับไม่ดำเนินการอะไรอย่างจริงจัง ”แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

สำหรับสถานการณ์ข้าวของผู้ส่งออกต่างประเทศ นั้นราคาข้าวคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความต้องการซื้อข้าวจากต่างประเทศมากขึ้น และบางประเทศเกิดภาวะขาดแคลนในการบริโภค ทำให้มีการสั่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้น แถมผู้ส่งออกรายใหญ่หยุดส่งออก ทำให้ไทยมีโอกาสในการขายข้าวเพิ่มขึ้น

”มิ่ง”จี้ติดราคาปุ๋ยต้องเป็นธรรม

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ในด้านการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร จะมีการดูแลราคาปุ๋ยให้เกิดความเป็นธรรม โดยขณะนี้ได้มีการกำหนดให้ผู้นำเข้า ผู้ค้าปุ๋ยต้องแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ สั่งการให้มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบปริมาณและสถานที่เก็บ และจะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยทั้งระบบ รวมทั้งให้คณะอนุกรรมการดูแลราคาเรื่องปุ๋ยที่แต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2551 เร่งรัดการดูแลโครงสร้างราคาปุ๋ยและจัดทำราคาแนะนำโดยเร็ว

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการข้าวถุง กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาบรรจุถุงขายนั้น เชื่อว่าจะทำให้ราคาข้าวถุงถูกลงอย่างแน่นอน เพราะต้นทุนของรัฐบาลต่ำกว่าราคาข้าวที่ผู้ประกอบการต้องซื้อในขณะนี้ โดยคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 13-15 บาท ขณะที่ราคาข้าวถุงปัจจุบันนี้ต้นทุนอยู่ที่กิโลกรัมละ 18-20 บาท

“ที่กระทรวงพาณิชย์นำข้าวบรรจุถุงมาจำหน่าย ผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เพราะข้าวถุงเป็นข้าวที่คนบริโภคในตลาดบน แต่ผลกระทบจะไปเกิดกับพ่อค้า แม่ค้าที่ขายข้าวกระสอบที่ตักแบ่งขาย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบขายข้าวไม่ได้ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์นำข้าวบรรจุถุงมาขายแข่ง เพราะแค่ราคาก็ถูกกว่าแล้ว ผู้บริโภคได้ประโยชน์ก็จริง แต่คนขายข้าวที่ตักจากกระสอบแบ่งขายลำบากแน่”แหล่งข่าวกล่าว

โยนคลังหาเงินซื้อปุ๋ย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง ว่าคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ ฯ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง ไปหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง เนื่องจากปัจจุบันผู้จำหน่ายปุ๋ยนั้นคิดกำไรจากการขายปุ๋ยเฉลี่ย 20-30 % เนื่องจากเห็นว่าข้าวปีนี้มีราคาสูง จึงได้ถือโอกาสขึ้นราคาปุ๋ยล่วงหน้า หากรัฐสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญด้วยการนำเข้ามาจำหน่ายให้เกษตรกรได้ก็จะสามารถลดต้นทุนกำไรลงได้อย่างแน่นอน

“ตอนนี้ต้องหารือร่วมกันกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ว่าจะหาเงินมาจากไหน ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องไปหาแหล่งเงินมาสนับสนุน ซึ่งคาดว่าจะมีการนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศประมาณ 100 ล้านตัน ในลักษณะที่เป็นกซื้อแบบรัฐต่อรัฐซึ่งจะทำให้ได้ราคาถูกปุ๋ยถูกกว่าท้องตลาดที่เอกชนนำเข้า”แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น