ชาวนาผวา! หวั่น “มิ่งขวัญ” ใช้วิธีการเดิมๆ สั่งคุมราคาข้าว เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในประเทศไม่ให้กินข้าวแพง สอนมวยอยากช่วยเกษตรกรต้องคุมราคาปุ๋ยให้ด้วย เพราะหากข้าวแพงแต่ปุ๋ยแพงตาม ชาวนาก็ไม่ได้อะไร ผู้ส่งออกชี้ราคาจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เหตุความต้องการมีมาก แนะรัฐจับตาข้าวในสต๊อก เกรงจะเกิดการทุจริต ส่วนผลการตรวจสต๊อกข้าวรัฐบาลล่าสุดพบล่องหนกว่า 2 แสนตัน “มิ่งขวัญ” นัดแถลงวันนี้ กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบ
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะเชิญให้สมาคมฯ ไปหารือ ซึ่งสมาคมฯ จะขอความชัดเจนในเรื่องนโยบายข้าวของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเกรงว่า หากกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาควบคุมราคาข้าวเหมือนสินค้าอื่นๆ ก็จะเกิดผลกระทบต่อชาวนาได้
“ตอนนี้ ถือเป็นโอกาสของชาวนาที่จะลืมตาอ้าปากได้ เพราะตลอดชีวิตของการเป็นชาวนา เพิ่งจะมีปีนี้ที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ก็ไม่อยากให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาข้าว เพื่อหวังช่วยเหลือผู้บริโภคให้กินข้าวราคาถูก แต่เห็นด้วยกับการที่จะนำข้าวในสต๊อกรัฐมาบรรจุเป็นข้าวถุงขายราคาถูก เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคมากกว่า” นายประสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ สมาคมฯ จะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลปัญหาราคาปุ๋ยเคมี ที่ขณะนี้ราคาสูงขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 บาท/ไร่ จากเดิมประมาณ 4,000 บาท/ไร่ ซึ่งหากไม่มีแนวทางทำให้ราคาปุ๋ยเคมีลดลง ชาวนาไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นมากในขณะนี้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ราคาข้าวจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้มีความต้องการสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศเข้ามามาก อีกทั้งหลายๆ ประเทศเกิดภาวะการขาดแคลนข้าวในการบริโภค ทำให้ออร์เดอร์มีเข้ามามาก และผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างอินเดียที่เคยส่งออกปีละ 4 ล้านตัน หยุดส่งออกไม่มีกำหนด และยังตั้งราคาขั้นต่ำสูงถึงตันละ 650 เหรียญสหรัฐ ขณะที่เวียดนาม ก็ชะลอการส่งออก ทำให้ออร์เดอร์ทะลักมาไทยแทน
โดยสมาคมฯ ได้คาดการณ์ว่าราคาข้าวของไทยทั้งข้าวขาว 100% และข้าวหอมมะลิไทย น่าจะทะลุตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ได้ในไม่ช้านี้ ส่วนราคาส่งออกล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ข้าวหอมมะลิตันละ 862 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 749 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100% ขั้น 2 ตันละ 580 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 25% ตันละ 548 เหรียญสหรัฐ ข้าวเหนียว ตันละ 580 เหรียญสหรัฐ และข้าวนึ่งตันละ 612 เหรียญสหรัฐ
“ราคาข้าวส่งออกดีก็จริง แต่ผู้ส่งออกก็มีต้นทุนเพิ่ม เพราะต้องซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่แพงขึ้น แต่ตอนนี้หาซื้อข้าวยากมาก เพราะมีการตกเขียวข้าวเปลือกกับเกษตรกรหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ส่งออกได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยโดยการระบายสต๊อกข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก แต่ก็ไม่ได้ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบสต๊อกที่มีอยู่ด้วยว่ามีอยู่ครบหรือไม่ เพราะอาจเกิดการทุจริตนำข้าวออกมาขายทำกำไรก่อน”นายชูเกียรติกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ผลจากการที่ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น นายมิ่งขวัญเกรงจะมีการลักลอบนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกไปขายทำกำไร จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศตามบัญชีที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 11-17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วพบว่าปริมาณข้าวไม่ตรงตามบัญชี โดยมีข้าวหายไป 10-15% หรือประมาณ 2 แสนตัน เป็นการหายในพื้นที่จ.พิจิตร นครสวรรค์ และเชียงราย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าตัวเลขที่หายไปเป็นความคาดเคลื่อนทางบัญชี หรือว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญจะเรียกประชุมปลัดกระทวงพาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และทีมงานตรวจสอบปริมาณข้าวในวันนี้ เพื่อให้รายงานตัวเลขข้าวในสต๊อกหลังการตรวจสอบ รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น สถานการณ์ค้าข้าว เพื่อออกแนวทางหรือมาตรการในการดูแลข้าวทั้งระบบ โดยจะนำเสนอดังกล่าวไปชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นในการประชุมหารือกับสมาคมชาวนาไทย และสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ในปลายสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบต่อไป
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ข้าวมีราคาดี จะต้องควบคุมราคาทำไม ขายแพงนิดหน่อยแต่ก็ต้องพอสมควรแก่เหตุ จะขายไม่แพงเลยก็ไม่ต้องหากำไร พ่อค้าก็เรื่องของเขา แต่ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะข้าวใหม่กำลังจะออกมาแล้ว
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะเชิญให้สมาคมฯ ไปหารือ ซึ่งสมาคมฯ จะขอความชัดเจนในเรื่องนโยบายข้าวของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเกรงว่า หากกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาควบคุมราคาข้าวเหมือนสินค้าอื่นๆ ก็จะเกิดผลกระทบต่อชาวนาได้
“ตอนนี้ ถือเป็นโอกาสของชาวนาที่จะลืมตาอ้าปากได้ เพราะตลอดชีวิตของการเป็นชาวนา เพิ่งจะมีปีนี้ที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ก็ไม่อยากให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาข้าว เพื่อหวังช่วยเหลือผู้บริโภคให้กินข้าวราคาถูก แต่เห็นด้วยกับการที่จะนำข้าวในสต๊อกรัฐมาบรรจุเป็นข้าวถุงขายราคาถูก เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคมากกว่า” นายประสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ สมาคมฯ จะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลปัญหาราคาปุ๋ยเคมี ที่ขณะนี้ราคาสูงขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 บาท/ไร่ จากเดิมประมาณ 4,000 บาท/ไร่ ซึ่งหากไม่มีแนวทางทำให้ราคาปุ๋ยเคมีลดลง ชาวนาไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นมากในขณะนี้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ราคาข้าวจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้มีความต้องการสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศเข้ามามาก อีกทั้งหลายๆ ประเทศเกิดภาวะการขาดแคลนข้าวในการบริโภค ทำให้ออร์เดอร์มีเข้ามามาก และผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างอินเดียที่เคยส่งออกปีละ 4 ล้านตัน หยุดส่งออกไม่มีกำหนด และยังตั้งราคาขั้นต่ำสูงถึงตันละ 650 เหรียญสหรัฐ ขณะที่เวียดนาม ก็ชะลอการส่งออก ทำให้ออร์เดอร์ทะลักมาไทยแทน
โดยสมาคมฯ ได้คาดการณ์ว่าราคาข้าวของไทยทั้งข้าวขาว 100% และข้าวหอมมะลิไทย น่าจะทะลุตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ได้ในไม่ช้านี้ ส่วนราคาส่งออกล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ข้าวหอมมะลิตันละ 862 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 749 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100% ขั้น 2 ตันละ 580 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 25% ตันละ 548 เหรียญสหรัฐ ข้าวเหนียว ตันละ 580 เหรียญสหรัฐ และข้าวนึ่งตันละ 612 เหรียญสหรัฐ
“ราคาข้าวส่งออกดีก็จริง แต่ผู้ส่งออกก็มีต้นทุนเพิ่ม เพราะต้องซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่แพงขึ้น แต่ตอนนี้หาซื้อข้าวยากมาก เพราะมีการตกเขียวข้าวเปลือกกับเกษตรกรหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ส่งออกได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยโดยการระบายสต๊อกข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก แต่ก็ไม่ได้ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบสต๊อกที่มีอยู่ด้วยว่ามีอยู่ครบหรือไม่ เพราะอาจเกิดการทุจริตนำข้าวออกมาขายทำกำไรก่อน”นายชูเกียรติกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ผลจากการที่ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น นายมิ่งขวัญเกรงจะมีการลักลอบนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกไปขายทำกำไร จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศตามบัญชีที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 11-17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วพบว่าปริมาณข้าวไม่ตรงตามบัญชี โดยมีข้าวหายไป 10-15% หรือประมาณ 2 แสนตัน เป็นการหายในพื้นที่จ.พิจิตร นครสวรรค์ และเชียงราย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าตัวเลขที่หายไปเป็นความคาดเคลื่อนทางบัญชี หรือว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญจะเรียกประชุมปลัดกระทวงพาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และทีมงานตรวจสอบปริมาณข้าวในวันนี้ เพื่อให้รายงานตัวเลขข้าวในสต๊อกหลังการตรวจสอบ รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น สถานการณ์ค้าข้าว เพื่อออกแนวทางหรือมาตรการในการดูแลข้าวทั้งระบบ โดยจะนำเสนอดังกล่าวไปชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นในการประชุมหารือกับสมาคมชาวนาไทย และสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ในปลายสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบต่อไป
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ข้าวมีราคาดี จะต้องควบคุมราคาทำไม ขายแพงนิดหน่อยแต่ก็ต้องพอสมควรแก่เหตุ จะขายไม่แพงเลยก็ไม่ต้องหากำไร พ่อค้าก็เรื่องของเขา แต่ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะข้าวใหม่กำลังจะออกมาแล้ว