“สมาคมโรงสี” เตือนรัฐอย่าขายข้าวโครงการจำนำให้พ่อค้า หวั่นทำข้าวเปลือกราคาตก ขณะที่ประชาชนจะยังกินข้าวแพงเหมือนเดิม หนุนทำข้าวธงฟ้าราคาประหยัดดีกว่า พร้อมให้จับตาเกมปั่นราคาข้าว ชี้พิรุธข้าวเปลือกราคาคงที่ แต่ข้าวสารราคาพุ่ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังสมาคมโรงสีข้าวไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเวทีความคิด
จากสถานการณ์ข้าวสารราคาแพง ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน ส่งผลให้ผู้บริโภคเรียกร้องข้อให้กระทรวงพาณิชย์หามาตรการช่วยเหลือผู้บริโภค ด้วยการจัดหาข้าวสารราคาถูกมาจำหน่ายให้กับประชาชน
ต่อกรณีนี้ นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เวทีความคิด” ทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ทีวี ดำเนินรายการโดย นายสุวิช สุทธิประภา ว่า สาเหตุที่ข้าวในบ้านเราราคาสูงขึ้นเนื่องจาก ประเทศผู้ผลิตข้าว ไม่ว่าจะเป็น จีน อียิปต์ อินเดีย เวียดนาม ต่างประสบปัญหาทำให้ไม่สามารถส่งออกข้าวได้ ทำให้ตลาดโลกต่างมุ่งมาซื้อข้าวที่ตลาดเมืองไทย ส่งผลให้ต่างชาติซื้อข้าวในประเทศเราราคาสูงขึ้น ตามกลไกตลาด ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อชาวนาที่ได้รับผลตอบแทนในราคาสูง แต่ในแง่ของประชาชนผู้บริโภคนั้นก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเนื่องจากต้องซื้อข้าวในราคาแพง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐต้องหาทางแก้ไข
ส่วนกรณีที่ กระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวสารที่มีอยู่ในสต็อกโครงการจำนำข้าว มาใส่ถุงจำหน่ายในโครงการธงฟ้าราคาประหยัดนั้น ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะคิดว่าสามารถช่วยประชาชนผู้บริโภคได้จริง และไม่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาจะขายด้วย แต่ตอนนี้มีข่าวแว่วมาว่า มีพ่อค้าบางกลุ่มจะขอซื้อข้าวจากโครงการจำนำข้าวดังกล่าว ตนเห็นว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากหากรัฐขายข้าวให้กับพ่อค้า พ่อค้าก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อข้าวจากโรงสี โรงสีก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อข้าวจากชาวนา ซึ่งก็จะส่งผลให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาต่ำลง แต่ประชาชนที่ซื้อข้าวบริโภคก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะอย่างไรพ่อค้าก็จะขายข้าวให้ประชาชนราคาสูงอยู่ดี ต้องจับตาดูว่าสุดท้ายแล้วรัฐจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไร
นายปราโมทย์ ยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้อยากให้กระทรวงพาณิชย์ จับตาดูตัวเลขความเปลี่ยนแปลงราคาข้าวว่า ณ ขณะนี้มีการปั่นราคาหรือไม่ เนื่องจากตนพบว่า ว่าเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ราคาข้าวเปลือกตันละ 1 หมื่นบาท จนถึงวันที่ 24 มี.ค. ก็ยังอยู่ที่ราคา 1 หมื่นบาท แต่ราคาข้าวสารที่โรงสีขายให้ผู้ส่งออกกลับมีการปรับราคาขึ้นกว่า 390 บาท ต่อกระสอบ ซึ่งขัดต่อกลไกตลาด เนื่องจากหากราคาขายข้าวสารราคาสูงขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกราคาสูงขึ้นด้วย ไม่น่าจะราคาสูงขึ้นแค่เพียงราคาข้าวสารส่งออกเท่านั้น จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น มีการปั่นราคาข้าวหรือเปล่า
ส่วนปัญหาปุ๋ยราคาแพงที่ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนจนมีการร้องเรียนว่าแท้จริงแล้วสูงขึ้นจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะพ่อค้ากักตุนไว้เก็งกำไร ซึ่งตอนนี้ถือว่ากระทรวงพาณิชย์ทำถูกแล้วที่มีการออกมากำกับดูแลเรื่องปุ๋ย และขอให้ทำอย่างจริงจังต่อไป