xs
xsm
sm
md
lg

"เหลิม"ขายของเก่าแก้ไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"หมอแว" จวกรัฐบาล "สมัคร" ไม่จริงใจดับไฟใต้ แถมนโยบายก็ไม่มีอะไรใหม่ ยังคงใช้กรอบคิดแบบเดิมๆ เผยสลดใจแม้แต่ในสภาฯ เองยังเถียงกันว่าจะให้เรื่องการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำที่อีสานกับปัญหาชายแดนใต้เรื่องไหนเป็นเรื่องเร่งด่วนกันแน่ อัด "มท.1"ลงพื้นที่แค่งานรูทีน แก้ปัญหาไม่ได้จริง ขณะที่ "เหลิม" ลงใต้ถึงแค่สงขลาท่ามกลาง รปภ.เข้ม แต่ยังทำขึงขังทั้งที่ขาสั่นลง 3 จชต.แน่ แต่ไม่ใช่วันนี้ เรียกถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดับไฟใต้ล้วนแต่เป็นข้อมูลเก่าในเหล้าขวดใหม่

วานนี้ (20 มี.ค.) นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ส.ส.นราธิวาส แกนนำกลุ่มสัจจานุภาพ ให้สัมภาษณ์กับ "ผู้จัดการรายวัน" ถึงแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขณะนี้เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นว่า นโยบาย 43 ข้อที่กลุ่มสัจจานุภาพนำเสนอต่อพรรคเพื่อแผ่นดิน ก่อนการเข้าร่วมสังกัดพรรคฯ เป็นนโยบายที่ครอบคลุมทุกด้าน ตอนนั้นเราคาดการณ์ว่าหลังเลือกตั้งแล้วพรรคเพื่อแผ่นดินน่าจะเป็น 1 ใน 3 พรรคการเมืองที่เป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อเราจะได้บรรจุนโยบายเหล่านี้เป็นนโยบายหลักในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

แต่หลังจากเลือกตั้งแล้ว ผลออกมาพรรคเพื่อแผ่นดินมีจำนวน ส.ส.ไม่มากพอ ทำให้อำนาจในการที่จะกำหนดเรื่องต่างๆ ก็คลาดเคลื่อนไปจากที่คาดหวังไว้ นโยบายหลักๆ จึงมาจากพรรคพลังประชาชน ที่เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคเพื่อแผ่นดินก็มีการหารือกันแล้วว่า หากนโยบายไหนที่เกี่ยวข้องกันก็จะพยายามผลักดันให้ถึงที่สุด

"ก่อนการเลือกตั้งเราได้นำเสนอนโยบายไปแล้ว แม้เราจะมี ส.ส.ไม่มากนัก มีอำนาจต่อรองไม่มาก แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามผลักดันทุกๆ เรื่องที่เราสามารถทำได้ ในส่วนของความร่วมมือจากพรรคการเมืองอื่นเมื่อ 2 วันก่อนผมเองได้รับการติดต่อจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือเรื่องการเสนอญัตติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นญัตติเร่งด่วน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี"

เมื่อถามถึงท่าทีของรัฐบาลชุดนี้ว่า มีความจริงจังแค่ไหนต่อการแก้ปัญหา นพ.แวมาฮาดี ตอบว่า วันที่รัฐบาลอภิปรายนโยบายมีการตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีอะไรใหม่ มีการกำหนดการแก้ปัญหาในวิธีการเดิมๆ รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจวิธีคิดในการแก้ปัญหานี้ของทุกๆ ฝ่ายถ้าไม่พยายามเข้าใจรัฐก็จะคิดนอกกรอบไม่ได้ ยังคงแก้ปัญหาแบบเดิมๆ มันก็ไม่สำเร็จ

"รัฐบาลคงสับสน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ถามว่าจริงใจมั้ยตรงนี้ก็น่าคิด การเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหาก็ยังน้อย รัฐยังใช้กรอบคิดแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ความคิดเก่าๆ มันใช้แก้ปัญหาไม่ได้อยู่แล้ว ผมสลดใจที่แม้แต่ในสภาฯเองก็มีการถกเถียงกันว่าจะให้เรื่องการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำที่ภาคอีสานกับปัญหาชายแดนใต้ เรื่องไหนเป็นเรื่องเร่งด่วน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติหลายคน ยังให้น้ำหนักกับการแก้ปัญหาน้อยไป จริงอยู่เรื่องขาดแคลนน้ำส่งผลต่อการประกอบอาชีพของคนจำนวนมาก แต่ที่นี่เรากำลังจะสูญเสียดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศอยู่แล้ว"

นพ.แวมาฮาดี กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำขณะนี้ คือ นำผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่มีการศึกษาไว้แล้วมาวิเคราะห์แล้วนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม หลายส่วนได้มีการศึกษาปัญหามานานแล้ว พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขเพียงแต่ยังไม่มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง มีแต่พยายามจะตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาปัญหาต่อไปอีก ซึ่งไม่รู้ว่าจะศึกษาอีกทำไมในเมื่อมีองค์ความรู้อยู่แล้วมากมาย เช่น ข้อเสนอของ กอส. รัฐบาลแต่ละสมัยไม่เคยคิดที่จะนำมาสรุปแล้วไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง

***อัด "เหลิม"ลงพื้นที่แค่งานรูทีน
นายแวมาฮาดี ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.สงขลา เพื่อรับฟังปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่า ตนเห็นว่าเป็นงานรูทีนที่รัฐบาลต้องทำ ซึ่งเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ซึ่งตนไม่เชื่อว่า การลงพื้นที่ไปเพียงไม่กี่วันของ ร.ต.อ.เฉลิม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะสามารถมีแนวทางมาแก้ไขปัญหาได้ เพราะปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน การแก้ไขปัญหาเรื่องภาคใต้ ตนก็ไม่ได้หวังว่ารัฐบาล หรือ ร.ต.อ.เฉลิม จะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้

"ชีวิตคนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกวันนี้ไม่มีความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย การที่ท่านเฉลิมลงพื้นที่ไปก็ไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ นอกจากผมก็ไม่คาดหวังว่ารัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาบริหารงานจะแก้ไขปัญหาใต้ได้ การลงพื้นที่ ของคุณเฉลิม หากได้ลงพื้นที่แล้วลงลึกไปที่ จ.ปัตตานี นราธิวาส หรือจังหวัดที่ประสบปัญหาก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่แนะนำว่าอย่าไปบ่อย เพราะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเขาจะเกรงในการปฏิบัติหน้าที และไม่เป็นผลดีอะไรเลย"

***"อภิสิทธิ์" แนะตั้ง "สบ.ชต."
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลหันมาใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น หลังจากถูกสังคมกดดันพอสมควร แต่มีหลายเรื่องที่ รมว.มหาดไทยขอความร่วมมือจากเรา และเราเสนอขอให้ทำ เช่น การออกร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งสำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ที่ทำให้การแก้ปัญหานี้เป็นแบบบูรณาการ เรื่องเบี้ยเสี่ยงภัย และเรื่องเทคโนโลยี ซึ่งเราอยากเห็นโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การออกร่าง พ.ร.บ.สบ.ชต.นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อตามร่างของฝ่ายค้าน แต่ถ้ารัฐบาลเสนอเป็นกฎหมายเข้ามา เราก็ยินดีที่จะรีบผ่านให้ แต่ขอให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการอย่างจริงจัง

ส่วนที่มีการเรียกร้องให้นายกฯลงไปพื้นที่ภาคใต้นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯบอกว่าจะลงไปพื้นที่ดังกล่าวโดยจะไม่บอกล่วงหน้า แต่ตนขอให้นายกฯ ส่งสัญญาณให้ชัดว่า รัฐบาลเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงต้องให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ รวมถึงมีทิศทางที่ชัดเจนว่า นโยบาย คืออะไร ตลอดจนเร่งปรับปรุงเครื่องมือ งบประมาณ และโครงการต่างๆให้คล้องกับนโยบายหลัก การแก้ปัญหานี้ก็จะเดินไปได้

***"เหลิม" ถกดับไฟใต้ล้วนข้อมูลเก่า
ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.สงขลาวานนี้ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงฯ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.และคณะ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ในเวลา 07.40 น.โดยมีนายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงในพื้นที่ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินทางไปประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และฝ่ายปกครองจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ท่ามกลางการวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งในช่วงของการเดินทางและในบริเวณสถานที่จัดประชุม

เวลา 12.00 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุม รมว.มหาดไทย ได้ให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายรายงานผลการปฏิบัติงานและอุปสรรคปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยประเด็นสำคัญ คือ จะให้มีการติดตั้งกล้อง CCTV และเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในเรื่องนี้นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานว่าขณะนี้การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายใต้งบประมาณ 900 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถติดตั้งครอบคลุมทุกอำเภอในปลายปีนี้

ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย ได้ย้ำกับที่ประชุมว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภาคใต้และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องต่างๆ โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเข้มข้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถหวังผลการปฏิบัติได้ชัดเจน

นอกจากนี้ รมว.มหาดไทย ยังเสนอความเห็นให้ขยายการทำงานของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ให้เพิ่มเวลาในการทำงานช่วงกลางวันและเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย พร้อมกับได้มอบหมายงานให้กับส่วนราชการต่างๆ ไปประชุมระดมสมอง และหาข้อสรุปสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนการทำงาน และให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา ที่สำคัญได้ตั้งเป้าหมายว่าจะลดจำนวนสถิติการก่อเหตุร้ายให้น้อยลงให้ได้โดยเร็วที่สุด

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอนแต่ยังไม่ใช่วันนี้ เนื่องจากต้องนำอุปสรรคปัญหาที่มารับฟังในวันนี้กลับไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบก่อนเพื่อเข้าสู่กระบวนการอนุมัติต่อไป แต่ยืนยันว่าจะลงพื้นที่อย่างแน่นอนในครั้งต่อไป"

ข่าวแจ้งว่า การประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองของ รมว.มหาดไทยในครั้งนี้ ไม่มีอะไรใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลเก่าที่มีการนำขึ้นมาหารือกันอีกครั้งเท่านั้น

***"หมัก" ยันไม่เคยบอกใช้นโยบายแม้ว
ที่รัฐสภาวันเดียวกัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระสำคัญ คือ การตอบกระทู้ถามสด เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ถามนายกรัฐมนตรี โดยได้ถามหาผู้รับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางการแก้ไขปัญหาว่าจะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ รวมทั้งขอความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนเวลาการแก้ปัญหา ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมยืนยันไม่เคยบอกว่าจะนำนโยบายของรัฐบาลชุดที่แล้วมาดำเนินการ ส่วนแนวทางการแก้ปัญหานั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะส่งผลให้ผู้ก่อความไม่สงบปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการก่อเหตุได้

"ไม่อยากให้มีการระบุเรื่องกำหนดเวลาการแก้ไขปัญหา เพราะการแก้ไขปัญหาต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าพร้อมชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สมาชิกทราบ".
กำลังโหลดความคิดเห็น