xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 ลงใต้ไปแค่หาดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตตำรวจกองปราบฯ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ในฐานะ มท.1 ทำใจดีสู้โจรใต้ลงพื้นที่วันนี้หลังโดน "หมัก" ไล่ให้ไปทำงาน แต่พบไปแค่หาดใหญ่เท่านั้นแถมจองที่พักสุดหรูโรงแรมบีพีสมิหลา ไว้พักผ่อนก่อนบินกลับในวันรุ่งขึ้น โดยไม่กล้าไปแตะพื้นดิน "ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส" ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐ เยี่ยมประชาชน ขณะที่ทหารในยะลาและปัตตานี เปิดฉากปะทะโจรใต้ ผลฝ่ายตรงข้ามดับ 3 จับได้ 1 ส่วน จนท.เจ็บ 3 นาย

วานนี้ (19 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้ลงไปแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดภนภาคใต้ว่า บางครั้งสื่ออาจจะเข้าใจสับสนในเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนไปดูแลปัญหาภาคใต้ และรับผิดชอบทั้งหมด เพราะในหลักการ กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ที่ต้องดูแลกับปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ในเขต จ.สงขลา รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ

"เป็นเพียงดูแลในภาพรวมชั่วคราวเท่านั้น เพราะความรับผิดชอบยังอยู่ในความดูแลของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีและฝ่ายทหารที่ปฏิบัติการในพื้นที่ยังคงเป็นผู้ปฏิบัติงานหลัก" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว พร้อมกับกล่าวถึงเรื่องที่ถูกมองว่าตนโยนความรับผิดชอบให้นายกรัฐมนตรี และฝ่ายทหารเพราะรู้ว่าปัญหาภาคใต้ไม่สามารถแก้ได้ด้วยว่า "คนที่พูดปัญญาทึบไม่รู้ข้อเท็จจริง นายกรัฐมนตรีให้ยึดหลักการสมานฉันท์ และการเจรจาในการทำงาน ไม่ใช้ความรุนแรง และส่วนตัวเตรียมเปิดเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบ แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าเป็นใคร หรือเจรจาที่ไหน เมื่อไร แต่คงต้องเป็นการเจรจานอกประเทศ"

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่า ตนจะไปจะจับเขาคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง หารือถึงปัญหาและเตรียมให้การสนับสนุนในส่วนที่มีความจำเป็น โดยการไปครั้งนี้จะเป็นการคุยแบบเปิดใจคุย และจับเข่า ทหารเขามีปัญหาหรือไม่ ตำรวจว่าไง มหาดไทยว่าไง เครื่องไม้เครื่องมือพอหรือไม่ งบประมาณติดขัดยังไง ในพื้นที่มันติดขัดระดับไหน อย่างบางพื้นที่ระดับปลัดอำเภอ ระดับอบต.ยังไม่ผ่านการฝึก เราคุยกันถึงขนาดว่าจะเอาใครรับสมัครมาแล้วจะทำงานได้ในวาระเร่งด่วนนี้

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอบโต้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ รมว.มหาดไทยเงา ที่ออกมาวิจารณ์ตัวเขาว่าไม่กล้าลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะกลัวตายว่า ตนยอมรับว่าส่วนตัวกลัวตายมานานแล้ว ใครไม่กลัวตายถือเป็นยอดมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คงไม่พานายสุเทพ ไปด้วย ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่เป็นเรื่องความลับทางราชการ

"เหลิม"ลงใต้วันนี้พักที่หาดใหญ่

มีรายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (20 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมด้วยนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิชัย ศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการ ศอ.บต.พร้อมคณะ นอกจากนี้ยังมีนายดวง อยู่บำรุง บุตรชายคนเล็กจะเดินทางลงภาคใต้โดยเที่ยวบิน TG 1231 ไปที่หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบปัญหา

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ของ ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนี้ได้พาเอานักข่าวทีวีไปด้วยช่องละ 2 คนทั้ง 3,5,7,9,11 เพื่อนำเสนอข่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม ยกเว้นหนังสือพิมพ์ และวิทยุ โดยทั้งหมดจะพักค้างแรมที่โรงแรมบีพีสมิหลา อ.เมืองสงขลา หลังจากนั้นก็จะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น โดยได้มีการจองตั๋วเครื่องบินของการบินไทยไว้แล้ว

จากการตรวจสอบพบว่าการลงพื้นที่ภาคใต้ในครั้งนี้ไม่พบกำหนดการใดๆ ของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง รวมทั้งตรวจเยี่ยมประชาชนแต่อย่างใด โดย ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เท่านั้น

เลขาฯ รมว.กลาโหมลงใต้วันนี้

พล.อ.อุดมชัย องคสิงห เลขานุการ รมว.กลาโหม เผยว่า วันนี้ (20) ตนจะเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสมทบกับคณะของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ตามที่นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ไปดูการทำงานและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยจะไปรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงาน และลงพื้นที่ดูสถานการณ์ ทั้งนี้ จะได้ทราบว่าหน่วยปฏิบัติมีปัญหาข้อขัดข้องอะไรบ้าง และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไร ก็จะได้นำข้อมูลเหล่านั้นกลับมาเสนอรัฐบาล

"ส่วนใหญ่จะเป็นการไปอำนวยการและประสานงานของทุกหน่วยในพื้นที่ให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ตอนนี้แม้ว่าจะเดินมาถูกทางและทำดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเพิ่มเติมในเรื่องการประสานงานด้านการข่าวและมาตรการเชิงรุกให้มากขึ้น ซึ่งตัวบุคลากรก็อาจมีการปรับปรุงนิดหน่อยในเรื่องของงานข่าว แต่ไม่มีอะไรใหญ่โต อย่างไรก็ตามการรบแบบนี้ต้องใช้เวลา ไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จได้ภายใน 1-2 ปี"

ส่วนในอนาคตนายกรัฐมนตรีจะมีกำหนดการเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น พล.อ.อุดมชัย กล่าวว่า นายกฯไปตรวจเยี่ยมแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ได้มอบหมายให้ รมว.มหาดไทยเดินทางไปก่อน และตนในฐานะเลขานุการ รมว.กลาโหม ก็จะเข้าไปดูข้อมูลด้วย

อดีต มทภ.4 รับข้อมูล "หมัก" จริง

พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้พบว่ามีการเคลื่อนไหวของ 2 กลุ่มยกระดับสู่นานาชาติ ตั้งโต๊ะเจรจาที่เจนีวาว่า สิ่งที่นายกฯพูดเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงทราบกันมานานแล้ว และเป็นที่รู้กันดีว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องการแบ่งแยกดินแดน พยายามสร้างสถานการณ์ขึ้นมาให้มีคนตายเป็นจำนวนมากเพื่อต้องการให้ยูเอ็นเข้ามา ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้กลายเป็นเรื่องสากล เช่นเดียวกับอาเจ๊ะ และกลุ่มเหล่านี้ก็เคลื่อนไหวกันมานานแล้ว เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงรู้กันดี แน่นอนว่า การที่นายกฯระบุว่ารัฐบาลไทยจะไม่ยอมเปิดให้มีการตั้งโต๊ะเจรจาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเสียเปรียบ

"แต่หากเป็นการเปิดเจรจาแบบลับๆ ระดับล่าง ผมว่าสามารถทำได้ คือเป็นการเปิดเจรจาอย่างไม่เปิดเผยและอดีตก็เคยทำอย่างนี้มาแล้วและก็สำเร็จ และไม่ใช่เรื่องของการเอาหน้า มานั่งเจรจากันอย่างเปิดเผย เพราะถ้าทำอย่างนั้นเท่ากับยกฐานะคนเหล่านี้"

จี้ใช้ พรบ.ความมั่นคงถ้ามีข้อมูลใหม่

ขณะที่นายปณิธาน วัฒนายากร นักรัฐศาสตร์ด้านความมั่นคง ระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่นายกฯระบุนั้นน่าจะเป็นข้อมูลเก่าที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่เคลื่อนไหวในยุโรป 2-3 กลุ่ม เช่น พูโล และเบอซาตู ซึ่งอยู่ประเทศสวีเดน เยอรมัน และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งคอยประสานงานกับองค์กรภาคเอกชนหลายองค์กรให้เกิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยอยู่สม่ำเสมอ แต่ทางกระทรวงต่างประเทศเองก็พยายามที่จะต่อสายเพื่อพูดคุยกับกลุ่มเหล่านี้อยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม แม้น่าเชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเก่า แต่หากนายกฯมีข้อมูลว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหวกลุ่มใหม่ที่มีบทบาทในการก่อเหตุในพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลควรจะต้องแจ้งเตือนต่อประชาชน ข้อมูลที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ยังถือว่าน้อยเกินไปสำหรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งมีความชอบธรรมในการใช้อำนาจแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะนี้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ได้บังคับใช้แล้วเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการใช้กฎหมายดังกล่าวเลย
 
"หากรัฐบาลมีข้อมูลแล้ว ควรจะต้องรีบใช้กฎหมายฉบับนี้เปิดประชุม กอ.รมน.โดยเร็ว เพื่อประเมินภัยคุกคามและใช้มาตรการต่างๆ ตามกฎหมายฉบับนี้ เช่น การทำแผนรองรับ การขออำนาจพิเศษจากสภา ผมไม่ใช่นักกฏหมาย จึงไม่แน่ใจว่าหากรัฐบาลไม่ทำอะไร จะเข้าข่ายละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ทั้งๆ ที่มีกฎหมายฉบับนี้แล้ว"

ชี้รัฐบาลพลเรือนต้องรับภาระ

ด้านนายศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวถึงบทบาทของรัฐบาลนายสมัคร ต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ความรับผิดชอบหลักในการแก้ปัญหาจะต้องเป็นของรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง แม้จะไม่ใช่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก แต่ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่น่าจะมอบหมายการแก้ปัญหาทั้งหมดให้กับกองทัพ หากยังยึดถือแนวทางการเมืองนำการทหารจริงๆ แต่ก็เข้าใจว่าตัวนายกฯ เองก็ไม่แน่ใจว่าจะกุมสภาพการแก้ปัญหานี้ได้ดีหรือไม่ หรือไม่ก็จำเป็นต้องเอาใจกองทัพไว้ก่อนในช่วงนี้

"ทหารเข้ามามีบทบาทหลักหลังจากการรัฐประหาร แต่เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือผ่านการเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลพลเรือนน่าจะมีบทบาทในการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายในการแก้ปัญหา โดยให้กองทัพเข้ามามีบทบาทในระดับการปฏิบัติ ที่สำคัญภัยคุกคามที่กำลังเจออยู่ในพื้นที่ขณะนี้ก็ไม่ควรมอบหมายให้เป็นภารกิจหลักของกองทัพเพียงฝ่ายเดียว แต่ควรให้บทบาทต่อพลเรือนมากยิ่งขึ้นด้วย" นายศรีสมภพ กล่าว

เด็ดหัวโจรใต้ค่าหัว 5 แสนบาท

ด้านสถานการณ์ความไม่สงบยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ เวลา 06.45 น. หลังจากที่คนร้าย 2 คนก่อเหตุอาวุธปืนยิงนายสมชาย เจริญวัย 71 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 7 ม.1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ขณะที่หลบหนีได้ถูกทหารชุด ร้อย ร.15211 ฉก.12 อ.รามัน ออกไล่ล่าจนเกิดการปะทะกันขึ้นผลฝ่ายตรงข้ามดับ 2 ศพพบนายสูนาวา ยะโก๊ะ หนึ่งในสองศพมีค่าหัว 5 แสนบาท ซึ่งเป็นแกนนำดจรใต้และมีหมายจับของเจ้าหน้าที่ตรวจ

จากนั้นเวลา 08.45 น.ตำรวจ สภ.ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.24 และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.41 ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ ม.2 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ แล้วเกิดการยิงปะทะกับคนร้ายเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 รายเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.41 บาดเจ็บ 3 นาย

สำหรับผู้เสียชีวิตชื่อนายมะกอเซ็ง ยูโซะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.3 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 รายด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น