xs
xsm
sm
md
lg

DSI เร่งสางคดีฆ่าทูตซาอุฯ-คดีทนายสมชายสูญหาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


โฆษกดีเอสไอยืนยันเร่งสางคดีฆ่าทูตและนักธุรกิจซาอุฯ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่คิดเล่นงานฝ่ายตรงข้าม หรือใครเป็นพิเศษ ส่วนข้อมูลคดีอุ้มทนายสมชายสัปดาห์หน้าจะมีข่าวดี อ้างข้อมูลที่กลุ่มพันธมิตรฯและข้อเรียกร้องของลูกสาวสมชายเป็นข้อมูลเก่าที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีของชั้นศาล

วันนี้ (13 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีดีเอสไอ ทำความจริงให้ปรากฏว่ามีส่วนรับรู้ถึงการอุ้มนายสมชาย นีละไพจิตร หรือไม่ว่า ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกนำเสนอให้คณะพนักงานสอบสวนชุดที่มี พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ตรวจสอบข้อมูลคำให้การในชั้นศาล ที่ระบุว่า พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ได้รับทราบข้อมูลจาก พ.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ว่า พ.ต.ท.ชาญชัย ลิขิตคันทะสร พบกับกลุ่มบุคคลที่รู้จักกันบริเวณหน้ากองบังคับการปราบปราม และได้สอบถามบุคคลเหล่านั้นได้ความว่าจะไปอุ้มทนายโจร จึงได้นำมาเล่าให้ พ.ต.อ.ทวีฟัง โดยการตรวจสอบพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยผู้เกี่ยวข้องปฏิเสธว่าไม่มีการพูดคุยหรือพบปะกัน

ส่วนกรณีการเร่งรัดการสอบสวนคดีฆ่านักการทูตซาอุดีอาระเบีย และคดีการหายตัวของนักธุรกิจชาวซาอุฯ นั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่าคดีดังกล่าวมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลต่างให้ความสำคัญกับคดีนี้ ดังนั้น ในช่วงที่อายุความในคดีเหลืออีกเพียงปีเศษ หากการสอบสวนไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็จะไม่มีคำตอบให้กับทางการซาอุดีอาระเบีย ซึ่งการเร่งรัดคดีของดีเอสไอจึงไม่ได้ทำเพื่อเล่นงานบุคคลใดตามที่กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุ เพราะตัวละครที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เป็นข้อเท็จจริงเดิมที่คงอยู่ในสำนวนคดีมาตั้งแต่เริ่มต้น

ส่วนกรณีที่ น.ส.ประทับจิตร นีละไพจิตร บุตรสาวของนายสมชายเรียกร้องให้ดีเอสไอเรียกตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าให้การในฐานะพยานคดีอุ้มทนายสมชาย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ว่าทนายสมชายตายแล้ว และก่อนหน้าการหายตัวของนายสมชายมีบุคคลใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปค้นข้อมูลภาพใบหน้าของนายสมชายในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรนั้น พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในชั้นการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ซึ่งในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง โดยคณะพนักงานสอบสวนอาจหารือร่วมกันว่าจะเรียกพยานบุคคลรายใดเข้าให้ปากคำบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น