xs
xsm
sm
md
lg

ตีปี๊บ!! “รื้อเพชรซาอุ” ทำเพื่อใคร?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โดย “นักข่าวเกียร์ว่าง”

หากจะกล่าวถึงคดีดังที่มักจะถูกนำขึ้นมา “ ตีปี๊บ” กันทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คงต้องยกให้ “คดีประวัติศาสตร์” ที่นำไปสู่ปมบาดหมางที่ยากประสานระหว่างประเทศไทย กับซาอุดีอาระเบีย อย่าง “คดีเพชรซาอุฯ” เพชรอาถรรพณ์ แห่งราชวงศ์ไฟซาล ที่จนป่านนี้เวลาผ่านไปกว่า 19 ปี ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

จุดเริ่มของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ “เกรียงไกร เตชะโม่ง” หนุ่มแรงงานไทยจากเมืองรถม้าที่เข้าไปทำงานในพระราชวังอันหรูหราของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ได้ขโมยเอาเครื่องเพชรมูลค่ามหาศาลหนีกลับมา จนทางการซาอุฯ ต้องประสานรัฐบาลไทยให้ช่วยติดตามหา โดยเฉพาะ “บลูไดมอนด์” เพชรล้ำค่าประจำราชวงศ์

และในระหว่างการติดตามเพชรล้ำค่านี้เอง ทำให้เกิดตำนาน และอาถรรพ์ขึ้นมากมาย จน “พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ” อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีที่แม้จะได้รับการแต่งตั้งจากทางการซาอุฯให้เป็นถึง “ชี้ค” แต่สุดท้ายก็ต้องไปพบวิบากกรรมอยู่ในคุกรอวันขึ้นแท่นประหารอยู่จนถึงปัจจุบัน ฐานอุ้มฆ่า ด.ช.เสรี และนางดาราวดี ลูก-เมียของนายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พ่อค้าเพชรเพื่อรีดหา “บลูไดมอนด์”

ด้าน นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ รมว.ต่างประเทศ ในขณะนั้นขันอาสา “เสนอหน้า” นำเพชรประจำราชวงศ์ ไปคืนถึงแผ่นดินตะวันออกกลาง แต่กลับกลายเป็นว่าเครื่องเพชรเกือบครึ่งเป็นของปลอม ทำเอารัฐบาลไทยถึงกับ “หน้าแหกจนแทบแทรกแผ่นดินหนี” ยิ่งเมื่อเกิดคดี “ฆาตกรรมทูตชาวซาอุดีอาระเบีย” ซ้ำขึ้นมาอีก ทำเอาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแทบขาดสะบั้น

ส่วนเครื่องเพชรล้ำค่าของจริงอยู่ในมือใครนั้น?!? ในทางสืบสวนตามเส้นทางการซื้อขาย เป็นที่ “รู้กันแบบลับๆ” ว่าโยงใยไปถึงกลุ่มคนในสังคมชั้นสูงมากมาย ทั้ง นักการเมือง คุณหญิงคุณนาย ตลอดจนคนมีสีทั้งหลายที่ “แตะไม่ได้” จนกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้าไม่ว่าจะผ่านมารัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่า แม้กระทั่งรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ ที่ระดมคนดีมีฝีมืออย่างนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาจับคดีโดยตรงแต่ในห้วงเวลากว่า 1 ปี ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา “นายนพดล ปัทมะ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าหารือเพื่อรื้อคดีเพชรซาอุ อีกครั้ง โดยนายนพดล เผยว่าได้เร่งรัดให้ดีเอสไอไปสืบสวนสอบสวนคดีอีกครั้ง เพื่อหาข้อเท็จจริงนำไปบอกกับ นายนาบีล ฮุสเซน อัชรี อุปทูตซาอุดีบาระเบียบประจำประเทศไทย ที่เข้ามาทวงถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้รู้ว่าเราทำครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยถ้ามีผู้กระทำความผิดในไทย ก็ต้องหาตัวมาลงโทษให้ได้ กระทรวงการต่างประเทศถือว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก

ด้าน พ.ต.อ.ทวี บอกว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย แต่พอจะมีแนวทางในการไปฟื้นคดีดังกล่าว และยังไม่กล้ารับปากว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้ โดยเฉพาะคดีการฆาตกรรมทูตชาวซาอุดีอาระเบียที่เหลืออายุความอีกเพียง 1 ปี

การรื้อคดี “เพชรซาอุฯ”  ในครั้งนี้ แม้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะออกมายืนยันว่าเป็นครั้งสุดท้าย “เชื่อขนมกินได้” ว่าคงไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าเดิม แถมบางคนยังมองลึกไปกว่านั้นว่า การออกมา “ตีปี๊บ” กันในครั้งนี้ เป็นแค่เกมการเมืองที่หวังกลบกระแสวิจารณ์เรื่องการโยกย้ายข้าราชการในดีเอสไอเท่านั้น และสุดท้าย “เพชรซาอุฯ” ก็ยังคงเป็นคดีอมตะ ที่ทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็จะถูกนำกลับมากล่าวขานถึงอย่างไม่รู้จักจบสิ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น