“สมพงษ์” อ้างจำเป็นต้องเด้ง “สุนัย” พ้นดีเอสไอ อ้างต้องรีบย้ายไปรักษาการเลขาฯ ป.ป.ท.ตามกรอบข้อกฎหมาย ระบุงานสอบสวนพิเศษต้องใช้มืออาชีพอย่าง “ทวี สอดส่อง” ทำ โบ้ยพันธมิตรฯ ทำให้ยุ่งเหยิง ส่วนคดี “แม้ว” พ้นไปถึงมืออัยการถือว่าจบหน้าที่แล้ว
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงย้ำความจำเป็นในการย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรักษาราชการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้วเอา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มารักษาการแทนว่า กรณีของนายสุนัยจะเป็นกรณีสุดท้ายของกระทรวงหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ และกระทรวงอื่นก็ยังไม่ทราบ ก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์จากนี้ไปถึงเดือนตุลาฯ มีบุคลากรคนใดบ้างได้ทำถูกต้องไม่ถูกต้อง เหมาะกับงานหรือไม่ ซึ่งต้องมี แต่ถ้าถามว่าตั้งใจในการโยกย้ายนั้นบอกได้เลยว่าไม่มี แต่ถ้าต้องโยกย้ายเพราะงานความเสียหายจะเกิดขึ้นเราก็จะทำ
นายสมพงษ์ กล่าวว่า การที่ขอร้องให้นายสุนัยมาอยู่ตรงนี้จะเสียหายตรงไหนเพราะพ.ร.บ.ออกมาแล้ว ตนเองต่างหากที่เป็นผู้บังคับบัญชาในกระทรวงก็อาจจะโดนพิจารณาจากมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงฯ ได้บอกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการย้ายนายสุนัยไม่ได้เป็นเรื่องของการล้างแค้น และยืนยันว่านายสุนัยมีความเหมาะสมจริงๆ ที่จะมารับตำแหน่งนี้ และเป็นเรื่องเร่งด่วนที่โดนกรอบของกฎหมายบังคับ ทั้งนี้ ในส่วนของงาน ป.ป.ท.เป็นงานคดีของข้าราชการในระดับ 7 ที่จะโอนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มายัง ป.ป.ท.อีกประมาณ 5-6 พันเรื่อง ต้องรีบทำไม่เช่นนั้นจะขาดอายุความ โดยหลังจาก พ.ร.บ. ป.ป.ท.เกิดขึ้น 120 วันแล้วต้องนำเรื่องจาก ป.ป.ช.ทั้งหมดมาพิจารณา ซึ่งในส่วนของกำลังคนนั้นปีแรกกำหนดไว้ 500 คน แต่ปีถัดไปภายใน 3 ปีต้องครบ 2,000 คนตามอัตรากำลัง ดังนั้น เป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม การที่นายสุนัยจะหาใครมาช่วยงานก็เป็นเรื่องของท่าน
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า งานของดีเอสไอเป็นของระดับโปรเฟสชันนัลหรือมืออาชีพ จะเอาแบบใครก็ได้มาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะบ้านเมืองเราทุกวันนี้ต้องเอาคนที่มือระดับที่มีความคิดความอ่านในเรื่องนี้มาอยู่ ส่วนเรื่องที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ข้าราชการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้ายส่งเรื่องเข้ามานั้น ในส่วนของตนยังไม่ถึงขนาดนั้น และยังไม่รู้เลยว่าจะมีใครยื่นมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นส่วนของกระทรวงยุติธรรมบ้าง
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มองว่าการย้ายนายสุนัยเป็นหนึ่งในกระบวนการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยตระกูลชินวัตร นายสมพงษ์ กล่าวยืนว่า ไม่ใช่ ทั้งนี้การคิดของคนคิดได้ต่างๆ นานา เพียงแต่ว่าจะคิดให้อยู่ในมุมไหนเท่านั้นเอง
“คุณไปอ่าน พ.ร.บ. ป.ป.ท.เลยไป ผมพูดยังงี้แล้วเมื่อไม่ได้อ่าน พ.ร.บ. ตรวจสอบ พ.ร.บ.ก็มาว่าผมต่างๆ นานา ไม่เป็นไรผมยอมรับ ผมรับในคำติชม ผมเคารพในคำติชม เพราะทุกคนหวังดีทั้งนั้น แต่การหวังดีต้องให้มีเหตุผล ไม่ใช่ว่าการโยกย้ายทำให้บ้านเมืองเสียหายเป็นเรื่องของการล้างแค้นอะไรต่างๆ ไม่เป็นไรถ้าเผื่อต่อไปการบริหารราชการแผ่นดินไม่มีโยกย้ายบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน บ้านเมืองก็ยุ่งเหยิง ก็เอาพันธมิตรฯ มาเป็นรัฐมนตรีดีไหมล่ะ มาเลย เรียนเลยว่าทุกอย่างจะได้เงียบเหงา เงียบสบาย จะได้จบ” นายสมพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสัมภาษณ์ นายสมพงษ์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า “ลงดีๆ หน่อยสิ ลงให้ชกกันอยู่เรื่อย”
นายสมพงษ์ยังกล่าวถึงการเดินทางกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า อ่านข่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประสานกัน และเรียนว่าที่ท่านทักษิณกลับมาเราจะดูแลท่านเหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ไม่มีอะไรพิเศษ ทั้งนี้ คดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ผ่านดีเอสไอไปแล้วก็ถือว่าจบในส่วนนี้แล้ว
/0110