อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน ค้านเด้ง พ.ต.อ.สังวรณ์ ขู่หากดื้อผนึกกำลังร่วมสมัชชาประชาชนฯชุมนุม ระบุ เป็นคำสั่งไม่เป็นธรรม หวังช่วยนักการเมืองตระกูลดังบุรีรัมย์ ด้านลิ้วล้อ เนวิน อ้าง รองผู้การบุรีรัมย์ปฎิบัติหน้าที่ไม่สุจริต สมชัย กกต.ฝ่ายสืบสวนฯ เอาด้วยชี้ย้าย สังวรณ์ มาจากนำผู้ถูกออกหมายจับมาเป็นพยานคดีทุจริตเลือกตั้ง ขณะที่เจ้าตัวโต้ไม่ได้ละเว้นปฎิบัติหน้าที่เชื่อเป็นการทำลายน้ำหนักพยาน
นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตผู้สมัครส.ส.บุรัรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวถึง กรณีที่ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการจ.บุรีรัมย์ และคณะกรรมการ การเลือกตั้งจ.บุรีรัมย์ (กกต.บุรีรัมย์) ถูกย้ายไปช่วยราชการที่จ.ศรีสะเกษ ว่า ตนพร้อมด้วยนายพีระพงษ์ เฮงสวัสดิ์ นายขจรธน จุดโต และนายหนูแดง วันกลางซ้าย อดีตผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน ขอเรียกร้องให้ปรับย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่จ.บุรีรัมย์เช่นเดิม เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมมีอำนาจ การเมืองเข้ามาแทรกแซง เพราะพ.ต.อ.สังวรณ์รับผิดชอบหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการการเมืองตระกูลดังในจ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สังวรณ์ก็ปฏิบัติหน้าที่ อย่างเคร่งครัด จนทำให้อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต1 ได้ใบแดงทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการทบทวนคำสั่งพวกตนจะนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุม เรียกร้องกับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานต่อไป เพราะถ้าไม่มีพ.ต.อ.สังวรณ์พวกตนเกรงว่าจะไม่มีใครกล้ามาสอบสวนเอาผิดคดีความของนักการเมืองใหญ่ในจ.บุรีรัมย์ จะปล่อยคนเลวไปไม่ได้
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีของ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สายนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สังวรณ์มีพฤติกรรมหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริต โดยเฉพาะกรณีการให้ใบแดงผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.บุรีรัมย์ ที่มีการนำบุคคลที่ถูกออกหมายจับคดีงัดตู้เซฟมาเป็นพยานในคดี เปรียบเสมือนการยืมมือโจรมาใช้ ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายศุภชัย กล่าวว่า นอกจากนี้การเลือกตั้งส.จ.บุรีรัมย์ มีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้ บังคับบัญชาของพ.ต.อ.สังวรณ์ ไปอุ้มบุคคลมาในยามวิกาลเพื่อให้การใส่ร้าย ส.จ.อีกทีมหนึ่ง ซึ่งกลุ่มผู้สมัคร ส.จ.ที่ถูกใส่ร้ายได้ร้องเรียนไปยัง กกต.บุรีรัมย์ให้ พ.ต.อ.สังวรณ์พ้นจากการปฎิบัติหน้าที่ ดังนั้นการที่ กกต.กลางออกมายืนยันว่า พ.ต.อ.สังวรณ์ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีนั้น ถือว่าสวนกับพฤติกรรมที่พ.ต.อ.สังวรณ์ ดำเนินการอยู่ อยากฝากไปยังองค์กรต่างๆ ที่ออกมาปกป้อง พ.ต.อ.สังวรณ์ว่า อย่าคุ้มครองคนที่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม การที่พ.ต.อ.สังวรณ์ถูกย้ายไปจ.ศรีสะเกษนั้นถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะคนที่มีความรู้ความสามารถเช่นนี้เหมาะกับการไปแก้ไขปัญหาเรื่องไม้พะยุง อย่าเอาเข้ามายุ่งกับการเมือง เพราะการเมืองไม่ได้เข้ามายุ่งกับการโยกย้ายครั้งนี้
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า ทำไมคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านคำสั่งปรับย้ายพ.ต.อ.สังวรณ์ไม่ใช่องค์กรภาคประชาชนแต่เป็นนักการเมือง อกหัก เป็นนักการเมืองสอบตกมารวมตัวกันแล้วอ้างตัวเป็นองค์กรภาคประชาชน ขอให้คนเหล่านี้ประกาศตัวให้ชัดว่า เคลื่อนไหวในนามพรรคการเมือง ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบ
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่ มีการโยกย้ายพ.ต.อ.สังวร ณ์ ว่า ส่วนตัวเห็นว่า ไม่น่ามาจากการทำหน้าที่กกต. แต่น่าจะมาจากพฤติกรรมส่วนตัวเนื่องจาก พ.ต.อ.สังวรณ์ นำบุคคลที่มีหมายจับจากศาลมาเป็นพยานในสำนวนการให้ใบแดงที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายสมชัย ได้นำเอกสารที่เป็น สำเนาภาพของบุคคลที่เป็นพยานในสำนวนดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวดู ซี่งนายสมชัย กล่าวว่า ภาพนี้ได้มาจากส่วนหนึ่งของสำนวนในคดีดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายสมชัย อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระขณะนั้นตนไม่ได้รับการประสานงานจาก สภ.อ.อาจสามารถ ว่านายเปียงเป็นผู้ต้องหา คดีอาญาในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด และตนไม่เคยรู้จักนายเปียง มาก่อน จนกระทั้งได้รับแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้งที่ อ.พลับพลา จ.บุรีรัมย์ จากนายเปียง ในช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา
ซึ่งนายเปียงนำชาวบ้านอ.พลับพลาชัย เข้าแจ้งต่อ กกต.บุรีรัมย์ ว่าได้รับเงินจากหัวคะแนนพรรคพลังประชาชนให้ไปลงคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน จึงขอให้มีการสอบสวน ส่วนกรณี ที่ถูกกล่าวหาว่าตนละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่จับกุมนายเปียง ทั้งที่มีหมายจับจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ดนั้น เชื่อว่าเป็นการพยายามทำลายน้ำหนักพยานในคดีซื้อเสียง ซึ่งตนดำเนินคดีโดยมีนายเปียงเป็นพยาน
พ.ต.อ.สังวรณ์ กล่าวยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแน่นอน เพราะหลังจากได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ จ.ศรีสะเกษแล้ว ก็ทราบว่ามีคำสังให้พ.ต.อ.สมบัติ คงพิบูลย์ รองผู้บังคับการจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นคนสนิทกับนายเนวิน ชิดชอบ เข้ามาแทนตน
นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตผู้สมัครส.ส.บุรัรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวถึง กรณีที่ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการจ.บุรีรัมย์ และคณะกรรมการ การเลือกตั้งจ.บุรีรัมย์ (กกต.บุรีรัมย์) ถูกย้ายไปช่วยราชการที่จ.ศรีสะเกษ ว่า ตนพร้อมด้วยนายพีระพงษ์ เฮงสวัสดิ์ นายขจรธน จุดโต และนายหนูแดง วันกลางซ้าย อดีตผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน ขอเรียกร้องให้ปรับย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่จ.บุรีรัมย์เช่นเดิม เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมมีอำนาจ การเมืองเข้ามาแทรกแซง เพราะพ.ต.อ.สังวรณ์รับผิดชอบหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการการเมืองตระกูลดังในจ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สังวรณ์ก็ปฏิบัติหน้าที่ อย่างเคร่งครัด จนทำให้อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต1 ได้ใบแดงทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการทบทวนคำสั่งพวกตนจะนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุม เรียกร้องกับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานต่อไป เพราะถ้าไม่มีพ.ต.อ.สังวรณ์พวกตนเกรงว่าจะไม่มีใครกล้ามาสอบสวนเอาผิดคดีความของนักการเมืองใหญ่ในจ.บุรีรัมย์ จะปล่อยคนเลวไปไม่ได้
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีของ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สายนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สังวรณ์มีพฤติกรรมหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริต โดยเฉพาะกรณีการให้ใบแดงผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.บุรีรัมย์ ที่มีการนำบุคคลที่ถูกออกหมายจับคดีงัดตู้เซฟมาเป็นพยานในคดี เปรียบเสมือนการยืมมือโจรมาใช้ ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายศุภชัย กล่าวว่า นอกจากนี้การเลือกตั้งส.จ.บุรีรัมย์ มีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้ บังคับบัญชาของพ.ต.อ.สังวรณ์ ไปอุ้มบุคคลมาในยามวิกาลเพื่อให้การใส่ร้าย ส.จ.อีกทีมหนึ่ง ซึ่งกลุ่มผู้สมัคร ส.จ.ที่ถูกใส่ร้ายได้ร้องเรียนไปยัง กกต.บุรีรัมย์ให้ พ.ต.อ.สังวรณ์พ้นจากการปฎิบัติหน้าที่ ดังนั้นการที่ กกต.กลางออกมายืนยันว่า พ.ต.อ.สังวรณ์ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีนั้น ถือว่าสวนกับพฤติกรรมที่พ.ต.อ.สังวรณ์ ดำเนินการอยู่ อยากฝากไปยังองค์กรต่างๆ ที่ออกมาปกป้อง พ.ต.อ.สังวรณ์ว่า อย่าคุ้มครองคนที่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม การที่พ.ต.อ.สังวรณ์ถูกย้ายไปจ.ศรีสะเกษนั้นถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะคนที่มีความรู้ความสามารถเช่นนี้เหมาะกับการไปแก้ไขปัญหาเรื่องไม้พะยุง อย่าเอาเข้ามายุ่งกับการเมือง เพราะการเมืองไม่ได้เข้ามายุ่งกับการโยกย้ายครั้งนี้
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า ทำไมคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านคำสั่งปรับย้ายพ.ต.อ.สังวรณ์ไม่ใช่องค์กรภาคประชาชนแต่เป็นนักการเมือง อกหัก เป็นนักการเมืองสอบตกมารวมตัวกันแล้วอ้างตัวเป็นองค์กรภาคประชาชน ขอให้คนเหล่านี้ประกาศตัวให้ชัดว่า เคลื่อนไหวในนามพรรคการเมือง ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบ
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่ มีการโยกย้ายพ.ต.อ.สังวร ณ์ ว่า ส่วนตัวเห็นว่า ไม่น่ามาจากการทำหน้าที่กกต. แต่น่าจะมาจากพฤติกรรมส่วนตัวเนื่องจาก พ.ต.อ.สังวรณ์ นำบุคคลที่มีหมายจับจากศาลมาเป็นพยานในสำนวนการให้ใบแดงที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายสมชัย ได้นำเอกสารที่เป็น สำเนาภาพของบุคคลที่เป็นพยานในสำนวนดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวดู ซี่งนายสมชัย กล่าวว่า ภาพนี้ได้มาจากส่วนหนึ่งของสำนวนในคดีดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายสมชัย อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระขณะนั้นตนไม่ได้รับการประสานงานจาก สภ.อ.อาจสามารถ ว่านายเปียงเป็นผู้ต้องหา คดีอาญาในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด และตนไม่เคยรู้จักนายเปียง มาก่อน จนกระทั้งได้รับแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้งที่ อ.พลับพลา จ.บุรีรัมย์ จากนายเปียง ในช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา
ซึ่งนายเปียงนำชาวบ้านอ.พลับพลาชัย เข้าแจ้งต่อ กกต.บุรีรัมย์ ว่าได้รับเงินจากหัวคะแนนพรรคพลังประชาชนให้ไปลงคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน จึงขอให้มีการสอบสวน ส่วนกรณี ที่ถูกกล่าวหาว่าตนละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่จับกุมนายเปียง ทั้งที่มีหมายจับจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ดนั้น เชื่อว่าเป็นการพยายามทำลายน้ำหนักพยานในคดีซื้อเสียง ซึ่งตนดำเนินคดีโดยมีนายเปียงเป็นพยาน
พ.ต.อ.สังวรณ์ กล่าวยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแน่นอน เพราะหลังจากได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ จ.ศรีสะเกษแล้ว ก็ทราบว่ามีคำสังให้พ.ต.อ.สมบัติ คงพิบูลย์ รองผู้บังคับการจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นคนสนิทกับนายเนวิน ชิดชอบ เข้ามาแทนตน