“พลังแม้ว” ดิ้นปัดนอมินีไทยรักไทย เตรียมแจงกฤษฎีกา 7 ม.ค.นี้ ลุ้นพลิกใบแดงบุรีรัมย์ อ้างข้อมูลใหม่ไม่ใช่ความเห็นของกกต.ในพื้นที่ ยังหัวหมอข้องใจทำไมไม่เรียกว่าที่ ส.ส.ไปชี้แจงก่อน ส่วนการก่อม็อบถือเป็นสิทธิของชาวบ้านทำได้
วันนี้ (5 ม.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีว่าที่ ส.ส.ของพรรคที่ยังไม่ได้รับการรับรองเป็นผู้สมัครจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ว่าที่ ส.ส.ที่ถูกเรียกชี้แจงเตรียมให้ข้อมูลต่อ กกต. เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าไม่ได้กระทำความผิด และเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในระหว่างการประชุมฝ่ายกฎหมายได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมกรณีว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ ทั้ง 3 คนได้ใบแดง เป็นข้อมูลที่แตกต่างจากที่เป็นข่าว เพราะจริงๆ แล้ว กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ได้เสนอให้ใบแดงแก่ว่าที่ ส.ส.ทั้ง 3 คน จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจว่าขั้นตอนการได้รับใบแดงอยู่ที่ขั้นตอนใด และถ้า กกต.บุรีรัมย์ ไม่ได้เสนอใบแดง เมื่อถึง กกต.กลางแล้ว ทำไมจึงไม่มีการเรียกว่าที่ ส.ส.ไปชี้แจง ทั้งนี้ พรรคมีเอกสารหลักฐานที่ระบุคำพูดของผู้อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์ที่บอกว่าไม่เคยให้ใบแดงกับว่าที่ ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์
“พรรคพลังประชาชนจะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 มกราคมนี้ว่า กระบวนการให้ใบแดง อาจไม่สอดคล้องกับระเบียบที่กำหนดไว้ เพื่อขอให้เป็นกรณีศึกษา เพราะตอนนี้ยังมีว่าที่ ส.ส.อีกกว่า 70 คนที่ยังไม่ได้รับการรับรอง” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
ส่วนการชุมนุมของประชาชนที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่ไม่พอใจการให้ใบแดง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนที่เป็นสิทธิทำได้ หากอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ต่อข้อถามว่าพรรคพลังประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่มีการชุมนุมเกิดขึ้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีกรณีเกิดขึ้นแล้วมีปัญหา หรือมีกรณีแปลกประหลาดให้ใบแดงเกิดขึ้น ประชาชนมีสิทธิที่จะสอบถามได้ และถ้า กกต.พิจารณาอย่างชัดเจน เที่ยงธรรมแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไร กกต.ได้
เมื่อถามว่า กกต.ยังไม่รับรองว่าที่ ส.ส.พรรคอีกหลายคนจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมีกรอบเวลาที่ต้องเปิดสมัยประชุมสภา จึงเชื่อว่า กกต.จะสามารถดำเนินการได้ทันกำหนด ส่วนใครเป็นรัฐบาลถือเป็นประเด็นทางการเมือง การที่พรรคพลังประชาชนจับมือกับ 3 พรรคเล็ก เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน ส่วนความชัดเจนของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่นั้น ไม่สามารถระบุได้ ต้องไปถามทั้งสองพรรคเอง
ส่วนกรณีที่มีข่าวระบุว่าพื้นที่ใดที่พรรคพลังประชาชนได้ใบแดงจะเทคะแนนให้กับพรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาลนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนจะใช้ดุลยพินิจตัดสินใจเองได้ว่าจะเลือกใคร
ส่วนว่าที่ ส.ส.เขต 1 ลำปาง ได้รับใบเหลือง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รอ กกต.พิจารณาว่าจะมีเลือกตั้งใหม่วันใด จากนั้นผู้สมัครคนเดิมจะได้หาเสียง เพราะเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและได้รับการเลือกตั้งกลับมาอีก
นอกจากนี้ นพ.สุรพงษ์ แถลงภายหลังการประชุมฝ่ายกฎหมายว่า เป็นการหารือเตรียมการชี้แจงกรณีที่มีการยื่นเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา ที่กล่าวหาว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคการเมืองไทยรักไทยว่าไม่เป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหาส่วนกรณีการแจกจ่ายวีซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายของพรรค เพราะวีซีดีที่พรรคจัดทำเน้นเรื่องการปราศรัยของแกนนำพรรค การชี้แจงนโยบายด้านต่างๆ
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน ได้นำภาพถ่ายเอกสารสี นายเปียง โสมวิเศษ ซึ่งเป็นพยานที่แจ้งกับ กกต.จ.บุรีรัมย์ว่าผู้สมัครของพรรค เขต 2 จังหวัดบุรีรัมย์ แจกเงินซื้อเสียง โดยได้นำหมายศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ออกหมายจับนายเปียงในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน จึงตั้งข้อสังเกต นายเปียงเป็นผู้ต้องหา แต่ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ ทั้งที่จะต้องถูกนำตัวส่งดำเนินคดี จึงต้องการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ว่าเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ อาจวางตัวไม่เป็นกลาง
/0110