ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - 2 ส.ส.“พลังแม้ว” เขต 2 “ยี้ห้อยนคร” จองเวรไม่เลิก บุกร้องกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด จี้สอบเอาผิดวินัย “รอง ผบก.” ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เผยเป็น กกต.บุรีรัมย์ ฝ่ายสืบสวนสอบสวนที่เคยถูกม็อบ “ยี้ห้อยนคร” เหตุไม่พอใจ “ใบแดง” 3 ว่าที่ ส.ส.พลังแม้วเขต 1 ด้านเจ้าตัวชี้แจงทำหน้าที่ 2 สถานะ ทั้งตำรวจ-กกต.ยืนยันไม่ทราบพยานซื้อเสียงเลือกตั้งหนีหมายจับ แฉเบื้องหลังการเรียน เพราะต้องการให้ออกจากพื้นที่เพื่อจะได้ทำอะไรได้สะดวกมากขึ้น
วันนี้ (15 ม.ค.) นายรังสิกร ทิมาตฤกะ และ นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.เขต 2 บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน (พปช.) เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ให้สอบเอาผิดวินัยร้ายแรง และเร่งรัดให้ดำเนินคดีอาญา กับ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นหนึ่งในกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.สังวรณ์ ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุมปราบปราม สืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น แต่ไม่ทำการจับกุม นายเปียง โสมวิเศษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ จ.411/2548 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน” ซึ่งหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งที่ นายเปียง ได้มาพบ พ.ต.อ.สังวรณ์ ที่สำนักงาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะพยานคดีซื้อเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
ด้าน พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนจาก ส.ส.ทั้ง 2 คน ว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และในเบื้องต้นจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว หากพบว่า พ.ต.อ.สังวรณ์ ได้กระทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
พร้อมทั้งยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งจะได้ส่งเรื่องไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในกรณีดังกล่าวด้วย
ทางด้าน พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตกุล รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ กกต.บุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ทำการจับกุม นายเปียง โสมวิเศษ ผู้ต้องหาที่มีหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด แต่กลับนำนายเปียงมาเป็นพยานในคดีซื้อเสียงนั้น ข้อเท็จจริงแล้วเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะตนทำหน้าที่ 2 ตำแหน่ง คือ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน และรองผู้บังคับการ ในเมื่อมีผู้นำข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดเลือกตั้งมาร้องเรียน ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน และก็ไม่ทราบมาก่อนว่า นายเปียง เป็นผู้ต้องหาที่หนีหมายจับ หากทราบก็คงจะดำเนินการจับกุมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า กรณีที่มีการร้องเรียนตนเพียงต้องการให้ออกจากพื้นที่มากกว่า เพื่อจะได้ทำอะไรได้สะดวกขึ้นมากกว่า
อนึ่ง พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตกุล รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งใน กกต.บุรีรัมย์ ที่ถูกกลุ่มนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ระดมประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงหน้า สำนักงาน กกต.บุรีรัมย์ และกดดันขับไล่ออกจากพื้นที่ติดต่อกัน 3 ครั้ง ช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ กกต.กลางพิจารณาให้ใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3 ยกทีม และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 17 ม.ค.นี้
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่ม ส.ส.บุรีรัมย์ พรรค พปช.ได้แจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.สังวรณ์ ในกรณีดังกล่าวด้วย