xs
xsm
sm
md
lg

"ไชยา" โยก ขรก.ส่อขัด รธน.ย้าย ”พงศ์เทพ” นั่งหน้าห้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายผู้ป่วยเดินหน้าถอดถอน "ไชยา" ให้เหตุผล 4 ข้อจวกไม่มีความเหมาะสมเป็นรมว.สธ. ขณะที่ม็อบเชลียร์ร่วมร้อยคนเดินทางมาให้กำลังใจเจ้ากระทรวง ด้าน “ไชยา” ลุแก่อำนาจสั่งปลัดสธ.ย้าย "หมอพงศ์เทพ" ช่วยงานที่หน้าห้อง “หมอปราชญ์” ป้องเจ้านายให้ถอดถอนตนเองด้วย พร้อมชมหน้าตาเฉยสร้างผลงานเพื่อประชาชนถึง 11 เรื่อง “หมอชูชัย” ชี้ชัดส่อขัด รธน. 5 มาตราลั่นปัญหาจะนำสู่ความรุนแรงในไม่ช้า

วานนี้ (6 มี.ค.) ที่บริเวณหน้าอาคารสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีกลุ่มวิทยุชุมชนชมรมคนรู้ใจ ศูนย์กลางประชาชนแห่งประเทศไทยกว่า 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งบรรยากาศการชุมนุมเต็มไปด้วยความวุ่นวาย กลุ่มผู้ชุมนุมต่างตะโกนว่า “พวกเราไม่มีใครจ้างแต่มาด้วยใจ ขอสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง”

จากนั้นนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน เลขาธิการศูนย์กลางประชาชนแห่งประเทศไทยและประธานชมรมคนรู้ใจ คลื่นวิทยุชุมชน  87.75 เป็นตัวแทนมอบช่อดอกไม้ให้นายไชยา โดยมีนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.เป็นผู้รับแทน

หนุน รบ.เลือกตั้งให้ รมต.ทำงานต่อ

นายชูพงษ์กล่าวว่า รัฐมนตรีเข้ามายังไม่ได้ทำงานอะไร ก็จะลงชื่อถอดถอน เมื่อรัฐบาลที่ผ่านมาโยกย้ายข้าราชการครั้งละ 400-500 คน ไม่เคยมีใครออกมาทำอะไร แต่นี่พยายามสร้างเงื่อนไขว่าข้าราชการถูกรังแก ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดอำนาจอีกครั้ง ดังนั้น พวกเราต้องมาแสดงจุดยืนสนับสนุนผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่มาจากยึดอำนาจ

ด้าน นายธนากร ปั้นงาม อายุ 62 ปี ชาวนนทบุรี อาชีพค้าขาย หนึ่งในสมาชิกชมรมคนรู้ใจ กล่าวว่า ตนมาให้กำลังใจรัฐมนตรีไม่ได้มาเป็นตัวก่อกวน แต่มาเพื่อความถูกต้อง เพราะรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง ตนเป็นประชาชนและเป็นคนเลือกเข้ามา ขอให้ฟังเสียงประชาชนที่เป็นกลาง ส่วนการโยกย้ายข้าราชการ เพียง 4 คนของสธ. ก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องโยกย้ายข้าราชการที่ทำงานด้วยกันได้

ม็อบไล่ไชยาคึกคัก-ยอดบริจาคล้น

ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวง ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายเภสัชกรชนบท เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ประมาณ 50  คน ตั้งเต้นท์ชั่วคราวสำหรับลงรายชื่อผู้ที่ร่วมถอดถอนรัฐมนตรี
 
สำหรับเอกสารการถอดถอนนายไชยา ด้านหน้าระบุเหตุผลที่ต้องถอดถอนนายไชยา 4 ข้อ และด้านหลังเป็นแบบฟอร์มการลงลายมือชื่อ เพื่อขอให้วุฒิสภาถอดถอนนายไชยา  สะสมทรัพย์  โดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา164 โดยการลงลายมือชื่อให้ประธานวุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา 270 ออกจากตำแหน่งได้ โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.cl4life.net หรือ www.consumerthai.org และส่งไปที่ ตู้ ปณ. 119 ปณจ.7 คลองหลวง 12120
 
ทั้งนี้ภายหลังการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง มีประชาชนและข้าราชการเดินทางมาร่วมลงรายชื่อถอดถอนนายไชยาจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีประชาชนสนใจบริจาคเงินเพื่อเสียค่าปรับสำหรับการส่งเสียงรบกวนในสถานที่ราชการและสำหรับเป็นกองทุนในการถอดถอนนายไชยาต่อไป โดยมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเบื้องต้นโดยใช้เวลาเพียงไม่นานนักรวมเป็นจำนวนเงิน 4,634.50 บาท
 
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นผู้แถลงเหตุผล 4 ข้อ ในการถอดถอนรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า การกระทำของนายไชยาเข้าข่ายให้รัฐเสียหาย โดยเฉพาะการประกาศทบทวนซีแอลยารักษาโรคมะเร็ง 4 รายการ ทำให้บริษัทยาอ้างว่าไทยประกาศซีแอลอย่างไม่สมบูรณ์ในกรณียาสลายลิ่มเลือดหัวใจ โคลพิเกรล และกลัวถูกฟ้องร้องทำให้บริษัทคาดิลาของอินเดียขอปรึกษานักกฎหมายและชะลอการนำเข้ายา  2.1 ล้านเม็ดเป็นเวลา 1 เดือน มีมูลค่าความเสียหายต่อรัฐขั้นต่ำ 248,378,550 บาท ขณะที่มีผู้ป่วยในระบบหลักประกัน 164,500 คน ที่ต้องได้รับยาโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ที่ต้องได้รับยา ทั้งนี้ การทบทวนการทำซีแอล เป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

นอกจากนี้ นายไชยายังไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการคุ้มครองประโยชน์ผู้ป่วยและผู้บริโภค แต่กับมีพฤติกรรมเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูประบบสุขภาพ ทั้งนี้ นับว่า รมว.สธ.ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ทั้งในด้านกฎหมาย และจริยธรรม สมควรที่วุฒิสภาจะดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง

ทำไปได้ชมไชยามีผลงาน 11 เรื่อง
 
ด้าน นพ.ปราชญ์ กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิกการทำซีแอลทุกรายการอย่างแน่นอน ทั้งนี้อยากให้เข้าใจตนเองและรัฐมนตรีด้วย หากจะล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนท่านรัฐมนตรี ก็ขอให้ล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนตนด้วย

จากนั้น น.พ.ปราชญ์ เปิดเผยว่า นายไชยาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.51 เกือบ 1 เดือน มีผลงาน 11 เรื่อง ด้วยกันได้แก่ 1.การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือแพทย์และผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ 2.การขยายหน่วยไตเทียมเพิ่ม ดูแลผู้ป่วยโรคไต ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท 3.การดำเนินการเรื่องซีแอลให้เกิดความรอบคอบ 4. การประกาศกวาดล้างโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น 5. การดูแลขวัญกำลังใจอสม. ซึ่งจะมีข่าวดีในวันอสม.แห่งชาติ ในวันที่ 20 มี.ค.ที่จะถึงนี้ 6.การดูแลขวัญกำลังใจ แพทย์ที่ไปปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7.การบริจาคอวัยวะ โดยจะเอาผลงานนี้พิจารณาให้ความดีความชอบผู้บริหารโรงพยาบาลหรือสาธารณสุขจังหวัด 8.เรื่องระบบการสุขาภิบาลน้ำสะอาด ส้วม 9.การส่งเสริมสุขภาพปรับพฤติกรรมประชาชนให้มีสุขภาพดี 10.การผลักดันความก้าวหน้าให้ผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชน และค่าตอบแทนวิชาชีพที่เหมาะสมกับปริมาณงานรับผิดชอบ 11.เรื่องความปลอดภัยอาหาร
               
อนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าผลงานของนายไชยาที่นพ.ปราชญ์ยกตัวอย่างนั้น ส่วนใหญ่ทางกระทรวงได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว

"ไชยา" สั่ง "หมอพงศ์เทพ" นั่งหน้าห้อง
      
นายไชยา กล่าวถึงกระแสข่าวที่ตนเองได้มอบหมายด้วยวาจาให้นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ไปพิจารณาเกี่ยวกับนพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทให้มาทำงานหน้าห้องของตนเองว่า เป็นความจริง โดยได้ให้นพ.ปราชญ์เป็นผู้พิจารณาเองว่าจะดำเนินการอย่างไร

ด้าน นพ.พงศ์เทพ ซึ่งปัจจุบันเป็นนายแพทย์ 8 สำนักงานพัฒนาสุขภาพชุมชน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คำสั่งโยกย้ายให้มาช่วยราชการที่หน้าห้องทำงานนายไชยาแต่อย่างใด หากนพ.ปราชญ์เรียกไปหารือแบบพี่ๆ น้องๆ ก็คงไปหารือตามหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชา แต่หากมีคำสั่งโยกย้ายคงจะต้องขอดูเหตุผลการโยกย้ายว่าคืออะไร ไม่ใช่มีเหตุผลโยกย้ายอย่างหนึ่งแล้วขุดคุ้ยเรื่องอื่นมาเอาผิดตนเองในภายหลังต่างๆนานา หากเป็นเช่นนั้นก็จะคัดค้านคำสั่ง
 
“ต้องถามว่าหากจะให้ผมไปเป็นหน้าห้องก็ต้องถามว่าไปทำหน้าที่อะไร หากเป็นเสมียนทำหน้าที่เอกสาร ผมเรียนเป็นหมอจะให้มานั่งทำงานเอกสาร ถือว่าใช้คนไม่เหมาะกับงาน แต่ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากระบบราชการจะสู้ถึงที่สุด”นพ.พงศ์เทพ กล่าว

ขณะที่นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเล็ก อย่าเอามาทำให้เป็นประเด็น ให้อภัยกัน ตอนนี้ต้องสมานฉันท์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการสั่งย้ายจริงหรือไม่ นพ.ปราชญ์ได้เดินหนี และกล่าวว่า ให้ไปถามโฆษกกระทรวงแทน และจะเรียกนพ.พงศ์เทพ มาคุยเอง ไม่มีอะไร  เป็นเรื่องเข้าใจผิด ถือเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่มีอะไร คุยกันได้ ตอนนี้ นพ.พงศ์เทพ ก็มาช่วยราชการที่กระทรวงอยู่แล้ว ถ้าจะย้ายอีกก็ไม่รู้จะย้ายไปไหน
 
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุที่นายไชยากดดันให้นพ.ปราชญ์ย้ายนพ.พงศ์เทพอย่างกะทันหันเมื่อคืนวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพราะนพ.พงศ์เทพได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการตอบโจทย์หลังจากที่นายไชยาได้เข้าร่วมออกอากาศสดด้วย

"หมอชูชัย" ชี้ส่อขัดรัฐธรรมนูญ

น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการว่า การใช้อำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือรัฐมนตรีต้องไม่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ  แต่การโยกย้ายข้าราชการขณะนี้ได้เกิดคำถามว่าอาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ใน 5 มาตรา คือ 1. มาตรา 3 ที่ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงเป็นคำถามถึงการใช้อำนาจโยกย้ายว่า เป็นไปตามหลักนิติธรรมหรือไม่  2. มาตรา 266 ระบุว่า ส.ส.และส.ว.ต้องไม่ใช้อำนาจก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และผู้อื่นโดยการบรรจุโยกย้ายข้าราชการ ตำแหน่งของข้าราชการ

ส่วนกรณีที่รมว.สธ สั่งย้ายนพ.พงศ์เทพด้วยวาจา โดยให้ปลัดสธ.ย้ายมาอยู่หน้าห้องรัฐมนตรี ถือเป็นการก้าวก่ายและแทรกแซงอย่างชัดเจน เพราะรัฐมนตรีมีอำนาจโยกย้ายข้าราชการในระดับ 10 และ 11 เท่านั้น  ส่วนข้าราชการระดับ 8 เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวง
 
3. มาตรา 270 กรณีการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ส่อในทางทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งการโยกย้ายนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ออกจากตำแหน่งเลขาธิการอย. โดยให้เหตุผลว่าไม่สนองต่อนโยบาย โดยไม่ระบุนโยบายที่ชัดเจน อาจเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ 4. มาตรา 279 ที่ระบุถึงจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า การโยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง และการลงโทษ ต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรมและคำนึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลดังกล่าวด้วย จึงต้องพิจารณาว่า การย้ายนพ.ศิริวัฒน์ ที่ไม่มีประวัติมัวหมองถูกต้องหรือไม่  และ 5. ในมาตรา 64 วรรค 2 ระบุว่า ข้าราชการมีเสรีภาพในการรวมกลุ่มเช่นเดียวกับคนทั่วไป โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินและบริการสาธารณะ ซึ่งการที่มีคำสั่งถึงข้าราชการสธ.ทั่วประเทศ ห้ามลงชื่อถอดถอนนั้น ถือว่าอาจขัดต่อกฎหมาย และการเคลื่อนไหวของแพทย์ชนบทก็ไม่ได้ใช้เวลาราชการ และไม่ได้เรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
 
“การโยกย้ายข้าราชการที่มีคุณธรรม เชื่อว่าจะนำมาสู่ความรุนแรงในไม่ช้า เพราะประชาชนเริ่มมีความรู้สึกไม่พอใจถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น” นพ.ชูชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น