ปลัด สธ.ทำไปได้ ชม “ไชยา” เผยไม่ถึงเดือน ท่านรัฐมนตรี “ไชยา” สร้างผลงานเพื่อประชาชน 11 เรื่อง
นพ.ปราชญ์ บุณวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2551 เกือบ 1 เดือน มีผลงาน 11 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ 1.การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือแพทย์และผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ 2.การขยายหน่วยไตเทียมเพิ่ม ดูแลผู้ป่วยโรคไต ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท 3.การดำเนินการเรื่องซีแอล ให้เกิดความรอบคอบ ยึดประโยชน์ของประชาชน ให้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพและราคาถูก
4.การประกาศกวาดล้างโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น เนื่องจากคาดว่าปีนี้จะมีการระบาดของโรคนี้สูง มุ่งเน้นให้ตัวแทนชาวบ้าน อสม.มีส่วนร่วม 5.การดูแลขวัญกำลังใจ อสม.ซึ่งจะมีข่าวดีในวันอสม.แห่งชาติ ในวันที่ 20 มีนาคม 2551 ที่จะถึงนี้
6.การดูแลขวัญกำลังใจ แพทย์ที่ไปปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากปีนี้แพทย์จบน้อยกว่าปีที่แล้ว 200 กว่าคน แพทย์ภาคใต้จะขาดแคลนยิ่งขึ้น แพทย์ที่ไปปฏิบัติงาน จะได้รับความก้าวหน้าทางราชการ เช่น การลาศึกษาต่อ 7.การบริจาคอวัยวะ จัดว่าเป็นนโยบายแห่งชาติ ซึ่งยังไม่มีรัฐบาลใดทำมาก่อน โดยใช้อวัยวะบริจาคจากบุคคลที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุและอยู่ในภาวะที่สมองตายแล้ว ผู้บริจาค 1 คน จะต่อชีวิตผู้ป่วยได้ 7 คน โดยจะเอาผลงานนี้พิจารณาให้ความดีความชอบผู้บริหารโรงพยาบาลหรือสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ ด้วย
8.เรื่องระบบการสุขาภิบาลน้ำสะอาด ส้วม ให้กรมอนามัยดำเนินการ 9.การส่งเสริมสุขภาพ ปรับพฤติกรรมประชาชนให้มีสุขภาพดี 10.การผลักดันความก้าวหน้าให้ผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชน และค่าตอบแทนวิชาชีพที่เหมาะสมกับปริมาณงานรับผิดชอบ 11.เรื่องความปลอดภัยอาหาร ถือว่าเป็นงานหลักและปีนี้จะเพิ่มความเข้มข้น
อนึ่งผู้สื่อข่าวรายงาน โครงการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือแพทย์และผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ เป็นกองทุนตาม พ.ร.บ.กองทุนชดเชยความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีการดำเนินการมาก่อนนายไชยา เป็น รมว.โดย นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข เป็นผู้นำเงินบริจาคคนแรกจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท ในสมัยที่ศาลพิพากษาตัดสินคดีผ่าตัดไส้ติ่งแล้วเสียชีวิตที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับการบริจาคอวัยวะ ที่สมัย นพ.มงคล ได้มีการลงนามความร่วมมือกับสภากาชาดไทยในการร่วมกันรณรงค์ให้มีการบริจาคอวัยวะมากขึ้น ซึ่ง นพ.มงคล ได้ร่วมบริจาคอวัยวะภายในการแถลงข่าวด้วยเช่นกัน อีกทั้งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมานานแล้ว
ในส่วนขวัญกำลังใจแพทย์ที่ไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า หากไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวที่มีความเสี่ยงแล้ว สามารถลาศึกษาต่อได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข แล้ว
ส่วนการส่งเสริมปรับพฤติกรรมของประชาชนให้มีสุขภาพดี รวมถึงเรื่องนโยบายเรื่องส้วมสะอาด ความปลอดภัยของอาหารล้วนเป็นภารกิจหลักของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องปฏิบัติ และได้ดำเนินการปฏิบัติมาก่อนที่นายไชยาจะมาดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว