xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา” โผล่โคราชสั่ง ผอ.รพ.ทั่วประเทศ-รุกขอบริจาค “อวัยวะ” ผู้ป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ไชยา” รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่โคราช สั่งเดินหน้าโครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติฯต่อเนื่อง เผยคนไทยมีปัญหาเจ็บป่วยเรื้อรังมากปีละ 1 ล้านคน และรอการบริจาคเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะชุบชีวิตผู้ป่วยระยะสุดท้ายอีกจำนวนมาก ตั้งเป้าปี ’51 มีผู้บริจาคอวัยวะ 500 ราย ระบุทั่วประเทศมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรอผ่าตัดกว่า 2,000 ราย ต้องการไตมากสุด สั่ง ผอ.โรงพยาบาลทั่วประเทศเจรจาขอบริจาคอวัยวะจากผู้ป่วยสมองตาย

วันนี้ (29 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการบริจาคอวัยวะ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์โรคหัวใจ, ศูนย์สั่งการ 1669 และ ระบบการรักษาพยาบาล ระหว่างโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมากับโครงการในเครือข่าย

โดยมี นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และมีบรรดาผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะ รวมทั้งผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมกว่า 250 คน

ทั้งนี้ เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานตามโครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 มิ.ย.2549 ตั้งเป้ารับบริจาคอวัยวะเพื่อผ่าตัดปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่มีอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไม่สามารถทำงานได้จำนวน 500 ราย

นายไชยยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไทยมีปัญหาเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังมากขึ้น ที่พบมาก ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคปอด ที่เกิดจากการเสื่อมของถุงลมปอด มีผู้ป่วยปีละประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งโรคดังกล่าวรักษาไม่หายขาด และทำให้อวัยวะสำคัญคือ หัวใจ ไต ปอด ตับ ตับอ่อน เสียการทำงานอย่างถาวร รักษาไม่หายขาด จะต้องใช้การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ทดแทน เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ชุบชีวิตใหม่ให้สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ ซึ่งขณะนี้วงการแพทย์ไทยสามารถทำได้แต่ปัญหาใหญ่ คือการขาดแคลนอวัยวะที่จะนำมาปลูกถ่าย เนื่องจากที่ผ่านมาคนไทยมักมีความเชื่อว่า หากบริจาคอวัยวะจะทำให้เกิดชาติหน้ามีอวัยวะไม่ครบ 32 จึงมีผู้บริจาคน้อยมาก

นายไชยา กล่าวอีกว่า หลังจากดำเนินโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ 1 มิ.ย.2549-31 ธ.ค.2550 มีผู้บริจาคอวัยวะเพียง 140 รายจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 200 ราย และได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะให้ผู้ป่วยโรคไตวาย โรคตับ ตัดอ่อน ปอด และโรคหัวใจได้เพียง 303 ราย มากที่สุดคือปลูกถ่ายไต 247 ราย รองลงมาได้แก่ ตับ 44 ราย และหัวใจ 8 ราย เฉลี่ยผู้บริจาค 1 รายช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ 5-6 ราย ทางกระทรวง จึงขยายโครงการออกไปจนถึงปลายปี 2551

ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรอการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยจำนวน 2,198 ราย มากที่สุดคือ ไต 2,003 ราย รองลงมาคือตับ 149 ราย หัวใจและปอด 23 ราย หัวใจ 8 ราย และเฉพาะปอด ไตและตับ ไตและตับอ่อน อย่างละ 5 ราย ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่รออยู่

“ให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั้ง 95 แห่ง เจรจาขอบริจาคอวัยวะกับญาติผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ที่บาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุจราจรที่อยู่ในภาวะสมองตายไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้วโดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะที่โรงพยาบาลศูนย์ทั้ง 25 แห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่รับบริจาค มีทีมดูแลการผ่าตัดนำอวัยวะออก” นายไชยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเปิดโครงการบริจาคอวัยวะแล้ว คณะของ นายไชยา ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพตำบล ของ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 2 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดไข้เลือดออก ที่ อ.สูงเนิน ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น