ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ไชยา” รมว.สาธารณสุข หนีข้าวสารปลุกเสกไล่ผีป่าของแพทย์ชนบท ลงพื้นที่ตรวจราชการเมืองย่าโม ย้ำย้าย เลขาธิการ “อย.” เป็นเรื่องความเหมาะสม ท้าอีกให้ไปฟ้องศาลหากไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมไล่ให้ไปตรวจสอบเบื้องลึกประวัติ “นพ.ศิริวัฒน์” ก่อนเป็นเลขาฯ อย.ขู่แพทย์ชนบทบุกกระทรวงไล่ผีป่า ทำได้แต่ต้องอยู่ในกรอบ กม.แย้มเตรียมใช้วิธีกดดันบอร์ด อภ.ลาออกเกินครึ่ง เล่นงาน นพ.วิชัย พ้นประธานบอร์ด อภ.
วันนี้ (29 ก.พ.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการบริจาคอวัยวะ และตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงกรณีการโยกย้ายสับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ว่า การย้ายเป็นเรื่องปกติทั่วไป เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรี ก็มักจะมีการสับเปลี่ยนผู้บริหารเพื่อให้เกิดความคล่องตัว เหมาะสม การย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล จากเลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขนั้น ถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นการทำงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะการให้บริการประชาชนให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด
“เชื่อมั่นว่า ฝีมือของ นพ.ศิริวัฒน์ สามารถทำได้ดี ขณะเดียวกัน ก็จะออกคำสั่งให้ นพ.ศิริวัฒน์มาช่วยทำงานซีแอลยาต่อ ทำหนาที่ต่อรองราคายาเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องเช่นเดิม การทำซีแอลเป็นสิ่งที่ดีสามารถทำยามีราคาต่ำลง ประชาชนเข้าถึงยามากขึ้นและประหยัดงบประมาณได้อีกทางหนึ่ง” นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ตนไม่ได้ล้มโครงการทำซีแอลยา ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวง 3 กระทรวงหลักหาข้อสรุปอยู่ ล่าสุด ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์จะดูแลให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาในเรื่องโรคมะเร็งใช้งบประมาณ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คิดว่าจะดูแลเรื่องนี้ได้ ส่วนการจะยกเลิกการทำซีแอลยาหรือไม่นั้น จะมีการประชุมหารือในหลักการและเหตุผลกันอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หาก นพ.ศิริวัฒน์ จะไปยื่นฟ้องศาลเพื่อขอความเป็นธรรมในการถูกโยกย้าย ก็เป็นเรื่องของท่านที่สามารถทำได้ จะไปร้องศาลที่ไหนก็ได้ เพราะการย้ายครั้งนี้เพื่อความเหมาะสม ซึ่งบางคนมองแต่คนอื่นทำงาน แต่ตัวเองไม่ได้มองว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง
“วันนี้เรามีศาลปกครอง ถ้าคิดว่าผมรังแกก็ไปร้องได้ ร้องไปเลย ก็ให้ลองไปดูประวัติกันลึก ๆ ก่อนที่จะมาเป็นเลขาธิการ อย. จากคนที่ได้รับเงินเดือน 1.5 แสนบาท วันนี้มาเป็น เลขา อย.ได้เงินเดือน 50,000 บาท มันมีอะไรหรือไม่ แต่ผมมองว่าท่านเป็นผู้เสียสละตั้งใจทำงานก็เลยย้ายมาเป็นผู้ตรวจฯ จะได้ทำงานขับเคลื่อนนโยบายที่ผมให้ไป คืออยากให้ถึงระดับรากหญ้า” นายไชยา กล่าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ชมรมแพทย์ชนบทรวมตัวกันเดินทางมาทำพิธีไล่ผีป่า ออกจากกระทรวงสาธารณสุข ด้วยการจุดไต้ นำน้ำมนต์และข้าวสารเสกมาปัดเป่ากระทรวง ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 ก.พ.) จะมีการสั่งสอบทางวินัย หรือไม่นั้น นายไชยา กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าแพทย์เหล่านี้ทำผิดระเบียบหรือผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ถ้าทำตามกฎหมายหรือถูกต้องก็ว่ากันไม่ได้
“สถาบันแพทย์เป็นสถาบันที่สังคมและพวกเรายอมรับ ฉะนั้นการทำอะไรที่อยู่ในความเหมาะสมก็เป็นเรื่องที่ดีไม่อยู่นอกเหนือกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทำเกินเลยแล้วต้องพิจารณา แต่วันนี้ผมไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมาราชการที่ต่างจังหวัด คงไม่ได้อยู่เจอแพทย์ชนบท” นายไชยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณแพทย์ชนบทที่แสดงความเป็นห่วงหลายเรื่อง และเห็นว่าขณะนี้ทั้งผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ แพทย์ควรจะใช้เวลาดูแลรักษาสุขภาพประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ แก้ปัญหาสุขภาพ ให้ประชาชนมีสุขภาพดีไม่เจ็บป่วย ซึ่งขณะนี้มีหลายเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ เช่น โรคไข้เลือดออก ปัญหาโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ขอความเห็นใจว่าสิ่งที่ทำจะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
นายไชยา ยังกล่าวถึงกรณี นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง ว่า ตนเองอยู่มาหลายกระทรวง พอมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี คนที่เป็นบอร์ดโดยมารยาทต้องลาออก ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา การพิจารณาบอร์ดใหม่มักจะพิจารณาคนของบอร์ดเก่าก่อน
โดยดูผลงานแต่ละท่าน ถ้ามีผลงานดีก็ให้กลับมาใหม่แทบจะทุกคน นั่นคือ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่การพิจารณาให้กลับเข้ามาต้องดูที่ผลงาน เพราะรายงานการประชุมของคณะบอร์ดจะต้องมีบันทึกการประชุมอยู่แล้ว ดูว่าแต่ละท่านทำงานเป็นอย่างไร แสดงความคิดเห็นในการขับเคลื่อนหน่วยงานที่รับผิดชอบไปได้ขนาดไหน นั่นคือ ความสำคัญในการพัฒนาองค์กร
ต่อข้อถามที่ว่า หาก นพ.วิชัย ยังยืนยันไม่ลาออกจะทำอย่างไร นายไชยา กล่าวว่า เรื่องนี้ขอชี้แจงเช่นนี้ว่า ถ้าบอร์ดมีอยู่ 10 ท่านหากลาออกไป 6 ท่าน จะเป็นอย่างไร ก็ทำงานไม่ได้ เพราะบอร์ดมีไม่ถึงครึ่ง ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ เหมือนสภาผู้แทนราษฎรที่มีองค์ประชุมอยู่ 480 คน หากมีไม่ถึง 270 คน ก็ประชุมและทำงานไม่ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ นายไชยา ยังแสดงความคิดเห็นกรณีที่จะ เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษากระทรวงที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ว่า ในรายละเอียดไม่ทราบ แต่ดูจากข่าว คิดว่าจากประสบการณ์ของท่านที่เคยอยู่ในต่างประเทศนาน 10 เดือน รวมถึงเคยไปบรรยายในมหาวิทยาลัยต่างๆ และพบผู้นำประเทศหลายประเทศ ก็น่านำมาใช้กับประเทศไทยให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี
