หมอชนบทฟันธง พิษซีแอลเล่นงาน “หมอศิริวัฒน์” ดาบต่อไปเตรียมปลด “หมอวิชัย” ประธานบอร์ด อภ.หมอวิทิต ผอ.อภ.ชี้เหมือนผีป่าเข้าบ้าน ต้องเตรียมคาถาไล่ไปอยู่ในคุกเหมือน “รักเกียรติ” ลั่นให้จับตาเมกะโปรเจกต์ สร้างโรงงานยักษ์ อภ.ชี้ สงสัยอยากผลักเอ็นจีโอ-ชาวบ้าน ไปอยู่ข้างพันธมิตรฯไวๆ
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข กรณี นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล จากเลขาธิการ อย.เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วย้าย นพ.ชาตรี บานชื่น จากอธิบดีกรมการแพทย์ มาเป็นเลขาธิการ อย.แทน และย้าย นพ.เรวัต วิศรุตเวชจากผู้ตรวจราชการ เป็นอธิบดีกรมการแพทย์นั้น ล้วนมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ทั้งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาลอย่างชัดเจน ซึ่งปกติจะมีการโยกย้ายช่วงเดือนเม.ย.และ ต.ค.แต่ครั้งนี้โยกย้ายกลางเดือน ก.พ.แสดงถึงการลุกลี้ลุกลนมาก ตั้งใจเอาใจบริษัทยา และตัดไม้ข่มนามข้าราชการที่ทำซีแอลเชือดไก่ให้ลิง เพื่อเอาใจบริษัทยาหรือไม่
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงนอกฤดูกาลจะกระทำก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่าง เช่น มีตำแหน่งระดับสูงว่าง หรือเกิดเหตุการณ์ที่ข้าราชการระดับสูงบางคนทำผิดวินัยชัดแจ้ง เช่น ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จึงจำเป็นต้องปลด หรือย้ายข้าราชการท่านนั้นลง และย้ายหมุนคนอื่นขึ้นมาแทน กรณีนี้ นพ.ศิริวัฒน์ ถูกลดตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการ เป็นเพราะมีความผิดเนื่องจากที่ตั้งใจดำเนินการเรื่องซีแอลและช่วยประเทศไทยต่อรองราคายามากจนเกินไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างประเทศไม่พอใจหรืออย่างไร หรือเป็นเพราะบริษัทยาต่างประเทศได้ตั้งกรรมการสอบหมอศิริวัฒน์แล้วกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ไปอยู่ที่อื่น
“ปกติการย้ายนอกฤดูกาล จะได้รับการยอมรับก็ต่อเมื่อมีการย้ายข้าราชการบางท่านที่มีผลงานดี ให้เลื่อนตำแหน่งและย้ายคนผิดลง แต่งานนี้นอกจากหมอศิริวัฒน์ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กลับมีการย้ายคนที่พึ่งถูกลงโทษทางวินัย ตัดเงินเดือนเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างและได้รับอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 มาแทนในหน่วยงานที่ทุกคนทราบดีว่ามีแรงเสียดทานสูงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้ประกอบการโดยเฉพาะด้านยา และพึ่งเกิดปัญหากับบริษัทยาต่างประเทศ ประเทศไทยต้องการคนที่กล้าประกาศอิสรภาพต่อประเทศมหาอำนาจบ้าง แล้วคนที่มาแทนกล้ามากกว่าหรือ ถ้ากล้าจริงทำไมจึงเกิดเมื่อครั้งอยู่กรมหน่วยงานเดิมจึงยอมรับใช้ผู้มีอำนาจจนต้องเผชิญวิบากกรมเป็นตราบาปตลอดชีวิต คุ้มหรือไม่ และที่สำคัญคนที่ได้รับการสนับสนุนครั้งนี้บางคนในแวดวงชาวสาธารณสุขรู้กันดีว่ายี้แค่ไหน” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
“กรณีซีแอลรัฐมนตรีอ้างว่าไม่มีข้อมูล ทั้งๆ ที่คุณหมอศิริวัฒน์ เป็นเลขาฯ อย.เรียกมาถามเมื่อใดก็ได้ แต่ได้สอบถามคุณหมอศิริวัฒน์แล้ว พบว่า ยังไม่เคยถูกเรียกมาพบแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า นพ.ศิริวัฒน์ โดนพิษซีแอล เด้งอย่างแน่นอน”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวต่อว่า ดังนั้น ต่อไปนี้ขอให้เตรียมใช้ยาราคาแพง เพราะรัฐบาลส่งสัญญาณไม่ให้ทำซีแอลอย่างแน่นอน ข้าราชการอื่นๆ ที่ตั้งใจทำงานก็จะเกรงกลัวว่าจะโดนย้ายเหมือน นพ.ศิริวัฒน์ บริษัทยาก็จะฮึกเหิม คิดว่าประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้นของบริษัทยาแล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ดังนั้น ดาบต่อไปที่เกี่ยวเนื่องกับการทำซีแอล เชื่อว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สัปดาห์หน้า นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม อดีตประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ และนพ.วิทิต อรรถเชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เตรียมถูกปลดแน่
“ต่อไปทั้งหมอวิชัย และหมอวิทิต คงถูกปลดไปตามๆ กัน ในข้อหาตั้งใจช่วยประเทศชาติให้เป็นเอกราชมากเกินไป ตั้งใจทำซีแอลและช่วยทำให้ราคายาภายในประเทศลดลงมากไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างชาติไม่พอใจ และล่าสุด ทั้ง 2 ท่าน ช่วยประหยัดงบก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนมากไป ทำให้เสียมาตรฐานราคา เช่น งบก่อสร้างโรงงานจากเดิมราคาประมาณ 950 ล้านบาท รัฐบาลในอดีตยุคเจ้ากระทรวงไม่ใช่ผู้ชายบอกว่า ไม่พอของบรัฐบาลเพิ่มประมาณ 300 ล้าน ปรากฎว่า ยุค นพ.มงคล ที่มี นพ.วิชัย เป็นประธานบอร์ด และ นพ.วิทิต เป็นผู้อำนวยการสามารถจัดจ้างได้เหลือประมาณ 500 ล้านบาทเศษ ประหยัดกว่าเดิมถึง 400-700 ล้านบาท”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจับตามอง คือ จะมีโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ทำให้หลายคนแลบลิ้นเลียปาก คือ จะมีการก่อสร้างโรงงานขององค์การเภสัชฯที่มีมูลค่ามาก ทำให้นี่อาจเป็นตัวเร่งทำให้ต้องมีการโยกย้ายแพทย์ทั้ง 2 ท่านออกจากตำแหน่งโดยเร็ว สังคมจึงควรจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์บอบช้ำใน สธ.อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีทุจริตยา 1,400 ล้าน ชาวสาธารณสุขได้มาถกและคุยกัน และ นพ.บรรลุ ศิริพานิช ได้เปรียบเทียบให้ฟังว่า เป็นเพราะมีผีป่าบุกเข้าในบ้านเพียงตัวเดียว แต่ผีบ้านซึ่งมีหลายตัวไม่สามัคคีกัน ผีป่าจึงบุกเข้ามากัดกินภายในบ้าน ทำให้บ้านเราเน่าเหม็น ซึ่งชมรมแพทย์ชนบท เห็นว่า เหตุการณ์กำลังซ้ำรอยเดิม จึงอยากให้แพทย์ทุกคนที่เปรียบเป็นเหมือนผีบ้าน จับตาหลายๆ เรื่องเหล่านี้ และเตรียมคาถาความดี ร่วมมือกัน แผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ อย่าใจไม้ใส้ระกำกับประชาชนเจ้าของเรือนชาน เหมือนพวกผีป่า ที่จ้องจะเข้ามากัดกินเจ้าของบ้าน ช่วยกันไล่ผีป่าให้ไปอยู่ในคุกอเวจีเหมือนผีรักเกียรติด้วย” ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะคัดค้านเรื่องซีแอลทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งเชื่อว่าคนไทยฉลาดขึ้น เพราะไม่ได้กินยาบ้า คงไม่ยอม และผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้มีมาก จึงเชื่อได้ว่า ครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ผลักให้เอ็นจีโอและชาวบ้านที่ไม่พอใจเรื่องนี้ กลับไปอยู่ฟากพันธมิตรฯ เร็วกว่าที่คิด คิดไม่ถึงว่ารัฐบาลที่เคยได้เครดิตได้มิตรจากการทำ 30 บาท มาถึงยุคนี้กลับต้องการเพื่อนน้อยลง และต้องการเพิ่มศัตรูโดยไม่จำเป็น
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข กรณี นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล จากเลขาธิการ อย.เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วย้าย นพ.ชาตรี บานชื่น จากอธิบดีกรมการแพทย์ มาเป็นเลขาธิการ อย.แทน และย้าย นพ.เรวัต วิศรุตเวชจากผู้ตรวจราชการ เป็นอธิบดีกรมการแพทย์นั้น ล้วนมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ทั้งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาลอย่างชัดเจน ซึ่งปกติจะมีการโยกย้ายช่วงเดือนเม.ย.และ ต.ค.แต่ครั้งนี้โยกย้ายกลางเดือน ก.พ.แสดงถึงการลุกลี้ลุกลนมาก ตั้งใจเอาใจบริษัทยา และตัดไม้ข่มนามข้าราชการที่ทำซีแอลเชือดไก่ให้ลิง เพื่อเอาใจบริษัทยาหรือไม่
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงนอกฤดูกาลจะกระทำก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่าง เช่น มีตำแหน่งระดับสูงว่าง หรือเกิดเหตุการณ์ที่ข้าราชการระดับสูงบางคนทำผิดวินัยชัดแจ้ง เช่น ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จึงจำเป็นต้องปลด หรือย้ายข้าราชการท่านนั้นลง และย้ายหมุนคนอื่นขึ้นมาแทน กรณีนี้ นพ.ศิริวัฒน์ ถูกลดตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการ เป็นเพราะมีความผิดเนื่องจากที่ตั้งใจดำเนินการเรื่องซีแอลและช่วยประเทศไทยต่อรองราคายามากจนเกินไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างประเทศไม่พอใจหรืออย่างไร หรือเป็นเพราะบริษัทยาต่างประเทศได้ตั้งกรรมการสอบหมอศิริวัฒน์แล้วกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ไปอยู่ที่อื่น
“ปกติการย้ายนอกฤดูกาล จะได้รับการยอมรับก็ต่อเมื่อมีการย้ายข้าราชการบางท่านที่มีผลงานดี ให้เลื่อนตำแหน่งและย้ายคนผิดลง แต่งานนี้นอกจากหมอศิริวัฒน์ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กลับมีการย้ายคนที่พึ่งถูกลงโทษทางวินัย ตัดเงินเดือนเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างและได้รับอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550 มาแทนในหน่วยงานที่ทุกคนทราบดีว่ามีแรงเสียดทานสูงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้ประกอบการโดยเฉพาะด้านยา และพึ่งเกิดปัญหากับบริษัทยาต่างประเทศ ประเทศไทยต้องการคนที่กล้าประกาศอิสรภาพต่อประเทศมหาอำนาจบ้าง แล้วคนที่มาแทนกล้ามากกว่าหรือ ถ้ากล้าจริงทำไมจึงเกิดเมื่อครั้งอยู่กรมหน่วยงานเดิมจึงยอมรับใช้ผู้มีอำนาจจนต้องเผชิญวิบากกรมเป็นตราบาปตลอดชีวิต คุ้มหรือไม่ และที่สำคัญคนที่ได้รับการสนับสนุนครั้งนี้บางคนในแวดวงชาวสาธารณสุขรู้กันดีว่ายี้แค่ไหน” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
“กรณีซีแอลรัฐมนตรีอ้างว่าไม่มีข้อมูล ทั้งๆ ที่คุณหมอศิริวัฒน์ เป็นเลขาฯ อย.เรียกมาถามเมื่อใดก็ได้ แต่ได้สอบถามคุณหมอศิริวัฒน์แล้ว พบว่า ยังไม่เคยถูกเรียกมาพบแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า นพ.ศิริวัฒน์ โดนพิษซีแอล เด้งอย่างแน่นอน”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวต่อว่า ดังนั้น ต่อไปนี้ขอให้เตรียมใช้ยาราคาแพง เพราะรัฐบาลส่งสัญญาณไม่ให้ทำซีแอลอย่างแน่นอน ข้าราชการอื่นๆ ที่ตั้งใจทำงานก็จะเกรงกลัวว่าจะโดนย้ายเหมือน นพ.ศิริวัฒน์ บริษัทยาก็จะฮึกเหิม คิดว่าประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้นของบริษัทยาแล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ดังนั้น ดาบต่อไปที่เกี่ยวเนื่องกับการทำซีแอล เชื่อว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สัปดาห์หน้า นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม อดีตประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ และนพ.วิทิต อรรถเชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เตรียมถูกปลดแน่
“ต่อไปทั้งหมอวิชัย และหมอวิทิต คงถูกปลดไปตามๆ กัน ในข้อหาตั้งใจช่วยประเทศชาติให้เป็นเอกราชมากเกินไป ตั้งใจทำซีแอลและช่วยทำให้ราคายาภายในประเทศลดลงมากไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างชาติไม่พอใจ และล่าสุด ทั้ง 2 ท่าน ช่วยประหยัดงบก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนมากไป ทำให้เสียมาตรฐานราคา เช่น งบก่อสร้างโรงงานจากเดิมราคาประมาณ 950 ล้านบาท รัฐบาลในอดีตยุคเจ้ากระทรวงไม่ใช่ผู้ชายบอกว่า ไม่พอของบรัฐบาลเพิ่มประมาณ 300 ล้าน ปรากฎว่า ยุค นพ.มงคล ที่มี นพ.วิชัย เป็นประธานบอร์ด และ นพ.วิทิต เป็นผู้อำนวยการสามารถจัดจ้างได้เหลือประมาณ 500 ล้านบาทเศษ ประหยัดกว่าเดิมถึง 400-700 ล้านบาท”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจับตามอง คือ จะมีโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ทำให้หลายคนแลบลิ้นเลียปาก คือ จะมีการก่อสร้างโรงงานขององค์การเภสัชฯที่มีมูลค่ามาก ทำให้นี่อาจเป็นตัวเร่งทำให้ต้องมีการโยกย้ายแพทย์ทั้ง 2 ท่านออกจากตำแหน่งโดยเร็ว สังคมจึงควรจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์บอบช้ำใน สธ.อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีทุจริตยา 1,400 ล้าน ชาวสาธารณสุขได้มาถกและคุยกัน และ นพ.บรรลุ ศิริพานิช ได้เปรียบเทียบให้ฟังว่า เป็นเพราะมีผีป่าบุกเข้าในบ้านเพียงตัวเดียว แต่ผีบ้านซึ่งมีหลายตัวไม่สามัคคีกัน ผีป่าจึงบุกเข้ามากัดกินภายในบ้าน ทำให้บ้านเราเน่าเหม็น ซึ่งชมรมแพทย์ชนบท เห็นว่า เหตุการณ์กำลังซ้ำรอยเดิม จึงอยากให้แพทย์ทุกคนที่เปรียบเป็นเหมือนผีบ้าน จับตาหลายๆ เรื่องเหล่านี้ และเตรียมคาถาความดี ร่วมมือกัน แผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ อย่าใจไม้ใส้ระกำกับประชาชนเจ้าของเรือนชาน เหมือนพวกผีป่า ที่จ้องจะเข้ามากัดกินเจ้าของบ้าน ช่วยกันไล่ผีป่าให้ไปอยู่ในคุกอเวจีเหมือนผีรักเกียรติด้วย” ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะคัดค้านเรื่องซีแอลทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งเชื่อว่าคนไทยฉลาดขึ้น เพราะไม่ได้กินยาบ้า คงไม่ยอม และผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้มีมาก จึงเชื่อได้ว่า ครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ผลักให้เอ็นจีโอและชาวบ้านที่ไม่พอใจเรื่องนี้ กลับไปอยู่ฟากพันธมิตรฯ เร็วกว่าที่คิด คิดไม่ถึงว่ารัฐบาลที่เคยได้เครดิตได้มิตรจากการทำ 30 บาท มาถึงยุคนี้กลับต้องการเพื่อนน้อยลง และต้องการเพิ่มศัตรูโดยไม่จำเป็น