“ไชยา” แผลงฤทธิ์ เด้ง! “หมอศิริวัฒน์” พ้นเก้าอี้เลขาฯ อย.เข้ากรุผู้ตรวจ สธ. ระบุแค่ย้ายตามความเหมาะสม หมอชนบทฟันธง พิษซีแอลเล่นงาน ชี้ดาบต่อไปตรียมปลด “หมอวิชัย-หมอวิทิต” พ้นองค์การเภสัชฯ ลั่นให้จับตาเมกะโปรเจกต์ สร้างโรงงานยักษ์ อภ. ขณะที่ปลัดสธ.ใบ้กินชั่วขณะบอกไม่รู้ แถมเดินหนี เอ็นจีโอหนุนฟ้องร้องโยกย้ายไม่ชอบธรรม
วานนี้ (26 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข(สธ.) เสนอคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 8, 9 2.นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย. และ3.นพ.เรวัต วิศรุตเวช ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 8, 9 ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์
"ไชยา"ตอบตามบทย้ายเพื่อความเหมาะสม
นายไชยา กล่าวว่า การโยกย้ายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอลแต่อย่าง เป็นเพียงการย้ายเพื่อความเหมาะสม ให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับใครเป็นการส่วนตัว แต่ดูจากประวัติการทำงานที่ผ่านมา
ที่สำคัญการย้ายในครั้งนี้ ก็อยู่ในระนาบเดียวกัน ระดับ 10 ไประดับ 10 ไม่ได้ลดตำแหน่งลง จะเป็นอธิบดีหรือผู้ตรวจราชการก็เหมือนกัน ไม่ได้มีศักดิ์ศรีน้อยกว่า ซึ่งข้าราชการอยู่ในตำแหน่งไหน ก็ต้องทำงานได้เหมือนกัน
ชมเปาะ"หมอชาตรี"เจ๋งจริง
นายไชยา กล่าวต่อว่าจากการพูดคุยและเห็นประวัติการทำงานของ นพ.ชาตรี บานชื่น ก็เห็นว่ามีประสบการณ์ทำงานมาก ยังมีไฟที่จะทำงานเรื่องนี้ มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ซึ่งการทำซีแอล ต้องมีการดูแลเรื่องของคุณภาพยาให้มีประสิทธิภาพ เชื่อว่า นพ.ชาตรี จะสามารถทำงานได้
ส่วนเมื่อถามถึงกรณีนพ.ชาตรี ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยมีนพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดสธ.เป็นประธานและยังไม่ได้ผลสรุปการสอบสวน นั้น นายไชยา กล่าวว่า เรื่องมันจบไปแล้ว มีการตัดเงินเดือน ลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว และหากการสอบสวนยังไม่จบ กระบวนการการย้ายนพ.ชาตรีออกมาก็เพื่อให้ยุติธรรม ให้เกิดความโปร่งใส
“มาบอกว่าเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล ผมอยากถามว่าย้ายข้าราชการเป็นเรื่องใหญ่หรือ ผมเพิ่งเข้ามาก็ต้องย้าย เพื่อให้ทำงานราบรื่น อย่าคิดว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้ง อย่างเช่นการย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสุนัยมีประสบการณ์พร้อมที่จะสามารถทำงานได้ทันที” สำหรับกระบวนการทำซีแอลขณะนี้ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง หากรมว.พาณิชย์ไม่ป่วยก็คงเสร็จไปแล้ว”นายไชยา กล่าว
ปลัด สธ.บอกไม่รู้-เดินหนี
ทั้งนี้ ภายหลังจากมีข่าวการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ถึงเหตุผลที่ใช้ในการโยกย้าย แต่นพ.ปราญช์ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอให้สอบถาม รมว.สธ. หรือโฆษก สธ.
เมื่อถามว่า ทำไมจึงต้องสอบถามรมว.สธ.เมื่อปลัดเป็นผู้เสนอรายชื่อ นพ.ปราชญ์ ดั้เดินหนีและไม่ให้รายละเอียดใดๆ เมื่อถามว่า เป็นคำสั่งให้มีการโยกย้ายหรือไม่ ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ อีกเช่นกัน
ฟันธงเชือดเซ่นซีแอล
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การโยกย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล จากเลขาธิการ อย. เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วย้ายนพ.ชาตรี บานชื่น จากอธิบดีกรมการแพทย์มาเป็นเลขาธิการ อย.แทนล้วนมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ทั้งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาลอย่างชัดเจน ซึ่งปกติจะมีการโยกย้ายช่วงเดือนเม.ย.และต.ค. แต่ครั้งนี้โยกย้ายกลางเดือน ก.พ. แสดงถึงการลุกลี้ลุกลนมาก ตั้งใจเอาใจบริษัทยาและตัดไม้ข่มนามข้าราชการที่ทำซีแอล
สำหรับกรณี นพ.ศิริวัฒน์ถูกลดตำแหน่งเป็นผู้ตรวจฯราชการ เป็นเพราะมีความผิดเนื่องจากที่ตั้งใจดำเนินการเรื่องซีแอลและช่วยไทยต่อรองราคายามากจนเกินไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างประเทศไม่พอใจหรืออย่างไร หรือเป็นเพราะบริษัทยาต่างประเทศได้ตั้งกรรมการสอบนพ.ศิริวัฒน์แล้ว จึงต้องย้ายนพ.ศิริวัฒน์ไปอยู่ที่อื่น
”หมอวิชัย-หมอวิทิต”จ่อเด้งพ้น อภ.
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้ขอให้เตรียมเตรียมใช้ยาราคาแพง เพราะรัฐบาลส่งสัญญาณไม่ให้ทำซีแอลอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทยาก็จะฮึกเหิมคิดว่าไทยตกเป็นเมืองขึ้นของบริษัทยาแล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
ทั้งนี้ ดาบต่อไปที่เกี่ยวเนื่องกับการทำซีแอล เชื่อว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สัปดาห์หน้า นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม อดีตประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ และนพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เตรียมถูกปลดแน่
“ต่อไปทั้งหมอวิชัย และหมอวิทิตคงถูกปลดไปตามๆ กัน ในข้อหาตั้งใจช่วยประเทศชาติให้เป็นเอกราชมากเกินไปตั้งใจทำซีแอลและช่วยทำให้ราคายาภายในประเทศลดลงมากไป ล่าสุดทั้ง 2 ท่านช่วยประหยัดงบก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนมากไป ทำให้เสียมาตรฐานราคา เช่นงบก่อสร้างโรงงานจากเดิมราคาประมาณ 950 ล้านบาท รัฐบาลในอดีตบอกว่าไม่พอของบรัฐบาลเพิ่มประมาณ 300 ล้าน ปรากฎว่ายุคนพ.มงคล ที่มีนพ.วิชัยเป็นประธานบอร์ดฯ และนพ.วิทิตเป็นผู้อำนวยการสามารถจัดจ้างได้เหลือประมาณ 500 ล้านบาทเศษ ประหยัดกว่าเดิมถึง 400-700 ล้านบาท”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่น่าจับตามองคือจะมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่ทำให้หลายคนแลบลิ้นเลียปากคือ จะมีการก่อสร้างโรงงานขององค์การเภสัชฯที่มีมูลค่ามาก ทำให้อาจเป็นตัวเร่งทำให้ต้องมีการโยกย้ายแพทย์ทั้ง 2 ท่านออกจากตำแหน่งโดยเร็ว สังคมจึงควรจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
หนุน"หมอศิริวัฒน์"ฟ้อง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า สนับสนุนให้นพ.ศิริวัฒน์ฟ้องร้องต่อความไม่ชอบธรรม ซึ่งมูลนิธิฯ มีทนายความมากมายที่พร้อมจะทำเรื่องให้ เพราะไม่อยากให้ข้าราชการที่ได้รับความไม่เป็นธรรมลุกขึ้นต่อสู้ และตั้งข้อสังเกตว่าการโยกย้ายดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องซีแอล เพราะเป็นการนอกฤดูกาลโยกย้าย และขอให้จับตาดูบุคลากรที่ดำเนินการเกี่ยวกับซีแอล อาทิ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม และตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการสรรหา
“อยากให้รัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายไชยาดำเนินการในเรื่องใดๆ แล้วไม่ต้องมีประชาชนออกมาคัดค้านบ้าง ไม่อยากเห็นรัฐบาลเข้ามาเพื่อตั้งหน้าตั้งตาล้างบางบุคคลที่ไม่ใช่ฝั่งของตัวเองอย่าผลักดันหรือบีบบังคับให้ประชาชนต้องออกไปรวมตัวคัดค้านตามท้องถนน”น.ส.สารี กล่าว
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การโยกย้ายดังกล่าวทำให้เกิดความสงสัยคล้ายกับกรณีของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่โดนโยกย้ายเพราะที่ผ่านมามีการดำเนินการเกี่ยวกับคดีของพรรคไทยรักไทยเดิม ซึ่งการย้ายในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเพราะเข้าข่ายรังแก และเป็นระเบิดเวลาให้รมว.สาธารณสุขด้วย
"หมอศิริวัฒน์"ปฏิเสธให้สัมภาษณ์
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ระบุเพียงว่า พร้อมรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา โดยเมื่อโทรศัพท์ติดต่ออีกหลายครั้ง ก็ไม่มีการเปิดโทรศัพท์แต่อย่างใด
ขณะที่ นพ. ชาตรี กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องและไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะมีการโยกย้ายไปอยู่อย. เพิ่งทราบข่าวและรู้สึกแปลกใจมากกว่า ส่วนการทำงานในตำแหน่งเลขาฯอย.ยังไม่ได้คิดมาก่อน
วานนี้ (26 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข(สธ.) เสนอคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 8, 9 2.นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย. และ3.นพ.เรวัต วิศรุตเวช ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 8, 9 ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์
"ไชยา"ตอบตามบทย้ายเพื่อความเหมาะสม
นายไชยา กล่าวว่า การโยกย้ายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอลแต่อย่าง เป็นเพียงการย้ายเพื่อความเหมาะสม ให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับใครเป็นการส่วนตัว แต่ดูจากประวัติการทำงานที่ผ่านมา
ที่สำคัญการย้ายในครั้งนี้ ก็อยู่ในระนาบเดียวกัน ระดับ 10 ไประดับ 10 ไม่ได้ลดตำแหน่งลง จะเป็นอธิบดีหรือผู้ตรวจราชการก็เหมือนกัน ไม่ได้มีศักดิ์ศรีน้อยกว่า ซึ่งข้าราชการอยู่ในตำแหน่งไหน ก็ต้องทำงานได้เหมือนกัน
ชมเปาะ"หมอชาตรี"เจ๋งจริง
นายไชยา กล่าวต่อว่าจากการพูดคุยและเห็นประวัติการทำงานของ นพ.ชาตรี บานชื่น ก็เห็นว่ามีประสบการณ์ทำงานมาก ยังมีไฟที่จะทำงานเรื่องนี้ มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ซึ่งการทำซีแอล ต้องมีการดูแลเรื่องของคุณภาพยาให้มีประสิทธิภาพ เชื่อว่า นพ.ชาตรี จะสามารถทำงานได้
ส่วนเมื่อถามถึงกรณีนพ.ชาตรี ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยมีนพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดสธ.เป็นประธานและยังไม่ได้ผลสรุปการสอบสวน นั้น นายไชยา กล่าวว่า เรื่องมันจบไปแล้ว มีการตัดเงินเดือน ลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว และหากการสอบสวนยังไม่จบ กระบวนการการย้ายนพ.ชาตรีออกมาก็เพื่อให้ยุติธรรม ให้เกิดความโปร่งใส
“มาบอกว่าเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล ผมอยากถามว่าย้ายข้าราชการเป็นเรื่องใหญ่หรือ ผมเพิ่งเข้ามาก็ต้องย้าย เพื่อให้ทำงานราบรื่น อย่าคิดว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้ง อย่างเช่นการย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสุนัยมีประสบการณ์พร้อมที่จะสามารถทำงานได้ทันที” สำหรับกระบวนการทำซีแอลขณะนี้ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง หากรมว.พาณิชย์ไม่ป่วยก็คงเสร็จไปแล้ว”นายไชยา กล่าว
ปลัด สธ.บอกไม่รู้-เดินหนี
ทั้งนี้ ภายหลังจากมีข่าวการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ถึงเหตุผลที่ใช้ในการโยกย้าย แต่นพ.ปราญช์ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอให้สอบถาม รมว.สธ. หรือโฆษก สธ.
เมื่อถามว่า ทำไมจึงต้องสอบถามรมว.สธ.เมื่อปลัดเป็นผู้เสนอรายชื่อ นพ.ปราชญ์ ดั้เดินหนีและไม่ให้รายละเอียดใดๆ เมื่อถามว่า เป็นคำสั่งให้มีการโยกย้ายหรือไม่ ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ อีกเช่นกัน
ฟันธงเชือดเซ่นซีแอล
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การโยกย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล จากเลขาธิการ อย. เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วย้ายนพ.ชาตรี บานชื่น จากอธิบดีกรมการแพทย์มาเป็นเลขาธิการ อย.แทนล้วนมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ทั้งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาลอย่างชัดเจน ซึ่งปกติจะมีการโยกย้ายช่วงเดือนเม.ย.และต.ค. แต่ครั้งนี้โยกย้ายกลางเดือน ก.พ. แสดงถึงการลุกลี้ลุกลนมาก ตั้งใจเอาใจบริษัทยาและตัดไม้ข่มนามข้าราชการที่ทำซีแอล
สำหรับกรณี นพ.ศิริวัฒน์ถูกลดตำแหน่งเป็นผู้ตรวจฯราชการ เป็นเพราะมีความผิดเนื่องจากที่ตั้งใจดำเนินการเรื่องซีแอลและช่วยไทยต่อรองราคายามากจนเกินไป ทำให้คุณพ่อบริษัทยาต่างประเทศไม่พอใจหรืออย่างไร หรือเป็นเพราะบริษัทยาต่างประเทศได้ตั้งกรรมการสอบนพ.ศิริวัฒน์แล้ว จึงต้องย้ายนพ.ศิริวัฒน์ไปอยู่ที่อื่น
”หมอวิชัย-หมอวิทิต”จ่อเด้งพ้น อภ.
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้ขอให้เตรียมเตรียมใช้ยาราคาแพง เพราะรัฐบาลส่งสัญญาณไม่ให้ทำซีแอลอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทยาก็จะฮึกเหิมคิดว่าไทยตกเป็นเมืองขึ้นของบริษัทยาแล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
ทั้งนี้ ดาบต่อไปที่เกี่ยวเนื่องกับการทำซีแอล เชื่อว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สัปดาห์หน้า นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม อดีตประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ และนพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เตรียมถูกปลดแน่
“ต่อไปทั้งหมอวิชัย และหมอวิทิตคงถูกปลดไปตามๆ กัน ในข้อหาตั้งใจช่วยประเทศชาติให้เป็นเอกราชมากเกินไปตั้งใจทำซีแอลและช่วยทำให้ราคายาภายในประเทศลดลงมากไป ล่าสุดทั้ง 2 ท่านช่วยประหยัดงบก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนมากไป ทำให้เสียมาตรฐานราคา เช่นงบก่อสร้างโรงงานจากเดิมราคาประมาณ 950 ล้านบาท รัฐบาลในอดีตบอกว่าไม่พอของบรัฐบาลเพิ่มประมาณ 300 ล้าน ปรากฎว่ายุคนพ.มงคล ที่มีนพ.วิชัยเป็นประธานบอร์ดฯ และนพ.วิทิตเป็นผู้อำนวยการสามารถจัดจ้างได้เหลือประมาณ 500 ล้านบาทเศษ ประหยัดกว่าเดิมถึง 400-700 ล้านบาท”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่น่าจับตามองคือจะมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่ทำให้หลายคนแลบลิ้นเลียปากคือ จะมีการก่อสร้างโรงงานขององค์การเภสัชฯที่มีมูลค่ามาก ทำให้อาจเป็นตัวเร่งทำให้ต้องมีการโยกย้ายแพทย์ทั้ง 2 ท่านออกจากตำแหน่งโดยเร็ว สังคมจึงควรจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
หนุน"หมอศิริวัฒน์"ฟ้อง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า สนับสนุนให้นพ.ศิริวัฒน์ฟ้องร้องต่อความไม่ชอบธรรม ซึ่งมูลนิธิฯ มีทนายความมากมายที่พร้อมจะทำเรื่องให้ เพราะไม่อยากให้ข้าราชการที่ได้รับความไม่เป็นธรรมลุกขึ้นต่อสู้ และตั้งข้อสังเกตว่าการโยกย้ายดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องซีแอล เพราะเป็นการนอกฤดูกาลโยกย้าย และขอให้จับตาดูบุคลากรที่ดำเนินการเกี่ยวกับซีแอล อาทิ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม และตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการสรรหา
“อยากให้รัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายไชยาดำเนินการในเรื่องใดๆ แล้วไม่ต้องมีประชาชนออกมาคัดค้านบ้าง ไม่อยากเห็นรัฐบาลเข้ามาเพื่อตั้งหน้าตั้งตาล้างบางบุคคลที่ไม่ใช่ฝั่งของตัวเองอย่าผลักดันหรือบีบบังคับให้ประชาชนต้องออกไปรวมตัวคัดค้านตามท้องถนน”น.ส.สารี กล่าว
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การโยกย้ายดังกล่าวทำให้เกิดความสงสัยคล้ายกับกรณีของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่โดนโยกย้ายเพราะที่ผ่านมามีการดำเนินการเกี่ยวกับคดีของพรรคไทยรักไทยเดิม ซึ่งการย้ายในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเพราะเข้าข่ายรังแก และเป็นระเบิดเวลาให้รมว.สาธารณสุขด้วย
"หมอศิริวัฒน์"ปฏิเสธให้สัมภาษณ์
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ระบุเพียงว่า พร้อมรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา โดยเมื่อโทรศัพท์ติดต่ออีกหลายครั้ง ก็ไม่มีการเปิดโทรศัพท์แต่อย่างใด
ขณะที่ นพ. ชาตรี กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องและไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะมีการโยกย้ายไปอยู่อย. เพิ่งทราบข่าวและรู้สึกแปลกใจมากกว่า ส่วนการทำงานในตำแหน่งเลขาฯอย.ยังไม่ได้คิดมาก่อน
