“ไชยา” สั่งยับยั้ง “หมอชาตรี” ลาออกจากราชการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมล้างมลทินคดีคอมพิวเตอร์ 900 ล้าน ชี้หมอไม่ผิดต้องสู้ความจริง แย้มหวั่นเสียค่าโง่ 1,200 ล้าน ให้บริษัทเอกชน
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า นพ.ชาตรี มาพบเพื่อชี้แจงเหตุผลการลาออกและเหตุผลที่ไม่ต้องการนั่งในตำแหน่งเลขาธิการ อย.เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อรมว.สาธารณสุขเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เป็นการส่งคนเข้าไปหาผลประโยชน์ตามที่มีผู้กล่าวหา รวมทั้งติดตามเรื่องหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีปลัดกระทรวงสาธารณสุขสั่งลงโทษข้าราชการ ซึ่งลงนามโดยนพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.เทียม อังสาชน ผอ.รพ.สระบุรี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพ และ นายวริทธิ์นันท์ จินดาถาวรกิจ นิติกร 7 ว.กลุ่มกฎหมาย ขอความเป็นธรรมกรณีที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนข้าราชการทั้ง 4 คน ดังกล่าว และตั้งกรรมการสอบสวนวินัยโดยไม่ชอบธรรม ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ได้ชี้ชัดว่า การกระทำของปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน
นายไชยา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 900 ล้านบาทของกระทรวงสาธารณสุข ตนไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดกระทรวงจึงไม่อยากจบเรื่อง ทั้งๆ ที่ผลสอบสวนก็ออกมาแล้วว่า นพ.ชาตรี และคณะกรรมการไม่ได้มีความผิด ไม่ได้ทำให้กระทรวงเสียหาย แต่มีความพยายามที่จะบอกว่ากระทรวงเสียหาย เรื่องนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องชี้แจงให้ได้ว่ากระทรวงเสียหายตรงไหน ในเมื่อยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง เงินก็ส่งคืนกระทรวงการคลังไปแล้ว ขณะที่เรื่องนี้บริษัทกำลังฟ้องร้องกระทรวงสาธารณสุขอยู่ เรียกค่าเสียหายถึง 1,200 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าโครงการเสียอีก ซึ่งก็ดูแปลกๆ ว่า ทำไมจึงจะต้องไปทำเรื่องให้ดูเหมือนจะเอื้อประโยชน์กับบริษัท
“ผมในฐานะ รมต.เกรงว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสียค่าโง่เหมือนกรณีทางด่วน และเงินก็ไม่ใช่น้อย เรื่องนี้ ทางอัยการก็เคยทำหนังสือท้วงติงมาแล้วว่า การสั่งลงโทษข้าราชการ โดยระบุว่าทำให้กระทรวงเสียหาย อาจจะสอดคล้องกับคำฟ้องของบริษัท ทำให้กระทรวงต้องจ่ายเงินซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ผมคงไม่ยอมแน่” นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการเพื่อให้ความเป็นธรรม นพ.ชาตรี นั้น เป็นไปตามขั้นตอนโดยได้สั่งการให้ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว และได้ขอร้องไม่ให้ นพ.ชาตรี ลาออก เนื่องจากยังอยากให้อยู่ช่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขต่อ ที่สำคัญขณะนี้ รายชื่อที่ผ่านครม.ในการแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 3 คน อยู่ในขั้นตอนของการเสนอโปรดเกล้าฯเพื่อลงพระปรมาภิไธย เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
“ผมไม่เข้าใจว่า อย.มีแต่คนอยากไปนั่ง แต่มี นพ.ชาตรี คนเดียวไม่อยากไป ซึ่งท่านก็ให้เหตุผลว่า อาจจะเกิดความเสื่อมเสียต่อผม ที่ถูกกล่าวหาว่า เอาคนไปนั่งหาผลประโยชน์ ซึ่งผมไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะได้มอบอำนาจให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สธ.เป็นผู้กำกับดูแลอย. อยู่แล้ว แต่เมื่อนพ.ชาตรี กลัวจะเสียชื่อเสียงหรืออึดอัดใจนั้น ก็อาจจะหาวิธียืมตัวนพ.ชาตรี มาช่วยราชการที่สำนักงาน รมต.และหาคนใหม่ไปรักษาการเลขา อย.แทนไปก่อนในระหว่างการสอบข้อเท็จจริง”นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวด้วยว่า ตนขอให้ นพ.ชาตรี อยู่ทำงานต่อ จนกว่าจะกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีคืนมาได้ และจัดการเรื่องทุกอย่างให้โปร่งใสเสียก่อน เพราะหากท่านไม่ผิดท่านไม่ควรหลบ หรือตัดช่องน้อยออกไปก่อน สู้ความจริงจบแล้ว หาก นพ.ชาตรี จะลาออกตอนนั้น ตนก็คงไปขวางไม่ได้ และอยากให้ทุกฝ่ายสบายใจ จากกันไปโดยไม่ต้องโกรธเกลียดกัน