คณะลูกขุนสหรัฐ ตั้งข้อหา 7 กระทง สองสามีภรรยา ติดสินบน "จุฑามาศ" เพื่อแลกกับการได้สัญญาเป็นผู้จัดเทศกาลภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ "ดีเอสไอ" ลุยสอบเส้นทางเงิน ยันหลักฐานชัด คาด 1 เดือน ส่ง ป.ป.ช.เชือด "สุวิทย์" เชื่อทุจริตทำงานเป็นทีม จี้คณะทำงานสอบข้อเท็จจริง ขยายผลลากคอเข้าคุก
วานนี้(18 ม.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี 17 ม.ค.ว่า คณะลูกขุนใหญ่ได้มีมติเมื่อคืนวันพุธที่ 16 ม.ค. ให้ตั้งข้อหาแก่ นายเจอรัลด์ กรีน วัย 75 ปี และนางแพตริเชีย กรีน ภรรยา วัย 52 ปี จากพฤติการณ์จ่ายเงินสินบนหลายต่อหลายครั้งในระหว่างช่วงเวลา 5 ปี ให้แก่นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ตามเอกสารตั้งข้อกล่าวหาระบุว่า สามีภรรยากรีนได้จ่ายเงินรวม 900,000 ดอลลาร์ ให้แก่นางจุฑามาศ เพื่อให้ได้รับสัญญาเป็นผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2545- 2550
สามีภรรยากรีน ถูกตั้งข้อหาคราวนี้รวม 7 กระทง ในการกระทำผิดละเมิดรัฐบัญญัติการกระทำทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ หากพวกเขาถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริง ก็อาจถูกลงโทษจำคุกได้สูงสุดกระทงละ 5 ปี รวมทั้งสิ้น 35 ปี
พวกเจ้าหน้าที่อัยการสหรัฐฯที่ทำคดีนี้ให้การว่า สามีภรรยากรีนได้พยายามอำพรางการจ่ายสินบนโดยอาศัยธุรกิจต่างๆหลายแห่ง, มีการให้ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ปลอม, รวมทั้งการจ่ายเงินผ่านคนกลางหลายคน อาทิ บุตรสาวของนางจุฑามาศ
ทางด้าน นางจุฑามาศ ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่ผิดปกติจากสามีภรรยากรีน โดยได้กล่าวกับรอยเตอร์ในเดือนธันวาคมว่า ตนไม่ทราบอะไรทั้งนั้นในเรื่องการจับกุมสามีภรรยากรีน ที่แคลิฟอร์เนียคราวนี้
หลักฐานชัดเตรียมส่ง ป.ป.ช.เชือด
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินการในส่วนเงินจำนวน 9 ล้านดอลลาร์ ที่โอนเข้ามายังบัญชีผู้เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่นางจุฑามาศ รวมทั้งบุตรสาว เพื่อตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวโอนไปยังบัญชี หรือผู้เกี่ยวข้องบุคคลใดบ้าง และจะนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบสำนวนในคดีความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อรัฐ (ฮั้วประมูล) กรณีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์มเฟสติวัล คาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐาน ค่อนข้างชัดเจน
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอ ประสานไปยัง ททท. เพื่อขอข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน นอกจากนี้ยังส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากเจ้าหน้าที่ ททท.ไปกว่า 10 ปาก ทั้งนี้ยังขอเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งต้องประสานกับเอฟบีไอ ของสหรัฐฯว่า ทุกบริษัทมีที่อยู่ที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริษัทที่เข้าร่วมประมูลงานพบเอกสารหลักฐาน น่าเชื่อว่าเป็นบริษัทของนายเจอรัลด์ กรีน เกือบทุกบริษัท เนื่องจากพบว่าที่อยู่ของการโอนเงินเข้าบัญชีบุตรกสาวของอดีตผู้ว่าฯ ททท.ไปยังบัญชีประเทศอังกฤษ มาจากที่อยู่เดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญตัวนางจุฑามาศ มาสอบปากคำแต่อย่างใด
สอบขยายผลหาคนทำผิด
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยังคงยืนยันที่จะให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ในคดีการจ่ายสินบนดำเนินการต่อไป โดยจะทำงานควบคู่กับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วย
ทั้งนี้เพราะการทำงานของคณะกรรมการฯ และคณะทำงานฯ ดังกล่าว จะเป็นฝ่ายรวบรวมเอกสารข้อมูลการจัดงานบางกอกฟิล์มฯ ตั้งแต่ปี 46-49 เพื่อนำส่งข้อมูลให้แก่ ป.ป.ช. และ ดีเอสไอ ซึ่งล่าสุดได้สอบถามไปยัง 2 หน่วยงานแล้วว่า ต้องการได้ข้อมูลเอกสารอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเอกสารที่ ดีเอสไอ ต้องการเพิ่มเติมคือ สัญญาว่าจ้าง และ หนังสือรับรองของบริษัทที่อยู่ในสหรัฐฯ ที่เข้ามารับงานดังกล่าว
ร.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการให้คณะทำงานสอบข้อเท็จจริงทั้งสองชุดของ กระทรวง และ ททท. ดำเนินการ คือ การค้นหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพื่อ ขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดหรือทุจริตในครั้งนี้ด้วย เพราะเชื่อว่า ไม่มีหัวหน้างานคนไหนจะทำงานลำพังเพียงผู้เดียว และยิ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างเช่นนี้ ยิ่งต้องมีคณะทำงานดูแลโครงการด้วย
"เท่าที่คุยเบื้องต้นกับคณะทำงานของ ททท. ผู้ทุจริตครั้งนี้ไม่ใช่ แค่อดีตผู้ว่าฯททท.เพียงคนเดียว เพราะการว่าจ้างต้องมีการทำเอกสรและรับรู้หลายคน ซึ่งหากพบว่าพนักงานคนใดร่วมกระทำผิดก็ จะส่งรายชื่อให้กับ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีต่อไป" ร.ท.สุวิทย์ กล่าว และว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คดีนี้ก็จะไม่หยุดชะงัก
รายงานข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะทำงานฯ ของ ททท. คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นพนักงานของ ททท. ในโครงการบางกอกฟิล์ม อย่างน้อย 10 คนโดยเฉพาะแผนกจัดซื้อจัดจ้าง
วานนี้(18 ม.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี 17 ม.ค.ว่า คณะลูกขุนใหญ่ได้มีมติเมื่อคืนวันพุธที่ 16 ม.ค. ให้ตั้งข้อหาแก่ นายเจอรัลด์ กรีน วัย 75 ปี และนางแพตริเชีย กรีน ภรรยา วัย 52 ปี จากพฤติการณ์จ่ายเงินสินบนหลายต่อหลายครั้งในระหว่างช่วงเวลา 5 ปี ให้แก่นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ตามเอกสารตั้งข้อกล่าวหาระบุว่า สามีภรรยากรีนได้จ่ายเงินรวม 900,000 ดอลลาร์ ให้แก่นางจุฑามาศ เพื่อให้ได้รับสัญญาเป็นผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2545- 2550
สามีภรรยากรีน ถูกตั้งข้อหาคราวนี้รวม 7 กระทง ในการกระทำผิดละเมิดรัฐบัญญัติการกระทำทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ หากพวกเขาถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริง ก็อาจถูกลงโทษจำคุกได้สูงสุดกระทงละ 5 ปี รวมทั้งสิ้น 35 ปี
พวกเจ้าหน้าที่อัยการสหรัฐฯที่ทำคดีนี้ให้การว่า สามีภรรยากรีนได้พยายามอำพรางการจ่ายสินบนโดยอาศัยธุรกิจต่างๆหลายแห่ง, มีการให้ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ปลอม, รวมทั้งการจ่ายเงินผ่านคนกลางหลายคน อาทิ บุตรสาวของนางจุฑามาศ
ทางด้าน นางจุฑามาศ ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่ผิดปกติจากสามีภรรยากรีน โดยได้กล่าวกับรอยเตอร์ในเดือนธันวาคมว่า ตนไม่ทราบอะไรทั้งนั้นในเรื่องการจับกุมสามีภรรยากรีน ที่แคลิฟอร์เนียคราวนี้
หลักฐานชัดเตรียมส่ง ป.ป.ช.เชือด
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินการในส่วนเงินจำนวน 9 ล้านดอลลาร์ ที่โอนเข้ามายังบัญชีผู้เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่นางจุฑามาศ รวมทั้งบุตรสาว เพื่อตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวโอนไปยังบัญชี หรือผู้เกี่ยวข้องบุคคลใดบ้าง และจะนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบสำนวนในคดีความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อรัฐ (ฮั้วประมูล) กรณีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์มเฟสติวัล คาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐาน ค่อนข้างชัดเจน
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอ ประสานไปยัง ททท. เพื่อขอข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน นอกจากนี้ยังส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากเจ้าหน้าที่ ททท.ไปกว่า 10 ปาก ทั้งนี้ยังขอเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งต้องประสานกับเอฟบีไอ ของสหรัฐฯว่า ทุกบริษัทมีที่อยู่ที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริษัทที่เข้าร่วมประมูลงานพบเอกสารหลักฐาน น่าเชื่อว่าเป็นบริษัทของนายเจอรัลด์ กรีน เกือบทุกบริษัท เนื่องจากพบว่าที่อยู่ของการโอนเงินเข้าบัญชีบุตรกสาวของอดีตผู้ว่าฯ ททท.ไปยังบัญชีประเทศอังกฤษ มาจากที่อยู่เดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญตัวนางจุฑามาศ มาสอบปากคำแต่อย่างใด
สอบขยายผลหาคนทำผิด
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยังคงยืนยันที่จะให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ในคดีการจ่ายสินบนดำเนินการต่อไป โดยจะทำงานควบคู่กับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วย
ทั้งนี้เพราะการทำงานของคณะกรรมการฯ และคณะทำงานฯ ดังกล่าว จะเป็นฝ่ายรวบรวมเอกสารข้อมูลการจัดงานบางกอกฟิล์มฯ ตั้งแต่ปี 46-49 เพื่อนำส่งข้อมูลให้แก่ ป.ป.ช. และ ดีเอสไอ ซึ่งล่าสุดได้สอบถามไปยัง 2 หน่วยงานแล้วว่า ต้องการได้ข้อมูลเอกสารอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเอกสารที่ ดีเอสไอ ต้องการเพิ่มเติมคือ สัญญาว่าจ้าง และ หนังสือรับรองของบริษัทที่อยู่ในสหรัฐฯ ที่เข้ามารับงานดังกล่าว
ร.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการให้คณะทำงานสอบข้อเท็จจริงทั้งสองชุดของ กระทรวง และ ททท. ดำเนินการ คือ การค้นหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพื่อ ขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดหรือทุจริตในครั้งนี้ด้วย เพราะเชื่อว่า ไม่มีหัวหน้างานคนไหนจะทำงานลำพังเพียงผู้เดียว และยิ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างเช่นนี้ ยิ่งต้องมีคณะทำงานดูแลโครงการด้วย
"เท่าที่คุยเบื้องต้นกับคณะทำงานของ ททท. ผู้ทุจริตครั้งนี้ไม่ใช่ แค่อดีตผู้ว่าฯททท.เพียงคนเดียว เพราะการว่าจ้างต้องมีการทำเอกสรและรับรู้หลายคน ซึ่งหากพบว่าพนักงานคนใดร่วมกระทำผิดก็ จะส่งรายชื่อให้กับ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีต่อไป" ร.ท.สุวิทย์ กล่าว และว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คดีนี้ก็จะไม่หยุดชะงัก
รายงานข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะทำงานฯ ของ ททท. คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นพนักงานของ ททท. ในโครงการบางกอกฟิล์ม อย่างน้อย 10 คนโดยเฉพาะแผนกจัดซื้อจัดจ้าง
