xs
xsm
sm
md
lg

ปีหนูทองเศรษฐกิจภาคตะวันออกไม่สดใส ยกเว้นท่องเที่ยวที่ยังสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชัชวาล ศุภชยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก
ศูนย์ข่าวศรีราชา -เชื่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกปี 51จะไม่สดใสจากปัจจัยฉุดรั้งสำคัญด้านราคาน้ำมันและค่าเงินบาท จนส่งผลกระทบต่อภาวะการจ้างงาน ผลกำไรจากการลงทุนและการส่งออกจนประชาชนชะลอการใช้จ่ายและหันมาออมเงินมากขึ้น แต่การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจเดียวที่สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่นได้ ซึ่งคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวรัสเซียในเมืองพัทยาจะเติบโตไม่น้อยกว่า 100%

“ผู้จัดการรายวัน ” สำรวจความคิดเห็นกลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว การเงินและการลงทุนพบส่วนใหญ่มองภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกไปในทิศทางเดียวกันว่าอาจไม่ฉลุยเช่นหลายปีก่อน เหตุสำคัญเพราะปัจจัยฉุดรั้งทั้งเรื่องน้ำมันและเงินบาทที่แข็งเกินไปจนส่งผลกระทบต่อภาวะการจ้างงานและการตัดสินใจใช้จ่ายของประชาชน

ในทางกลับกันกลับหันมาให้ความสำคัญกับการออมเงินมากขึ้น โดยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นมีผลต่อการสร้างตัวเลขผลกำไรจากการลงทุน อย่างไรก็ดียังคงมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่พอจะเห็นทิศทางสดใสจากการโหมเปิดตลาดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

นายนิยม จุฬาเสรีกุล นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ชี้การส่งออกมันสำปะหลังที่เติบโตจากปี 2550 จะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2551 จากความต้องการวัตถุดิบทั้งในประเทศแถบยุโรปและเอเชียที่มีสูงขึ้นจากผลของการเกิดวิกฤต การณ์ทางธรรมชาติและความต้องการพลังงานทดแทนจากทั่วโลกที่หันมาพึ่งพาวัตถุดิบทางธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตทางรายได้จากการส่งออกมันสำปะหลังไทย ในส่วนของค่าขนส่งที่ปรับสูงถึง 80% โดยเฉพาะค่าเฟสเรือ จากเดิมอัตรา ขนส่งจากไทยไปยุโรปอยู่ที่ 48-50 เหรียญสหรัฐต่อตัน วันนี้ขยับเป็น 98 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ค่าขนส่งจากไทยไปจีนเดิม 20 เหรียญต่อตัน ก็ขยับเกือบ 40 เหรียญต่อตัน

“แม้ในปีนี้ แนวโน้มการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเราจะได้เยอะ ด้วยตัวเลขผลกำไรที่จะมีไม่น้อยกว่าหมื่นล้าน แต่ก็ต้องเจอกับค่าขนส่งที่สูงขึ้น รวมทั้ง ค่าเงินบาทที่แข็งตัว แต่ก็ยังโชคดีที่คู่ค้าต่างประเทศเขากล้าสู้ราคา แต่โอกาสดีๆ อย่างดีวันหนึ่งก็ต้องถึงจุดสิ้นสุด เพราะเมื่อวัตถุดิบมีราคาแพงเขาก็ต้องหาพลังงานด้านอื่นทด แทน ดังนั้นในวันนี้รัฐบาลควรหันมาส่งเสริมการผลิตพลังงานธรรมชาติและพลังงานทด แทนด้วยการใช้วัตถุดิบในประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งหากรัฐบาลดำเนินนโยบายนี้จะทำให้เกษตรกรทั่วประเทศลืมตาอ้าปากได้”

นายนิยม ยังเผยถึงการเปิดเขตเศรษฐกิจจีน-อาเซียนว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกมันสำปะหลังไทยหรือแม้แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ เพราะแม้ว่าสินค้าเกษตรของจีนจะมีราคาถูก แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าในด้านคุณภาพแล้วยังต่ำเมื่อเทียบกับสินค้าเกษตรของไทย

เชื่อภาคใช้จ่ายยังไม่กระเตื้อง แต่เงินออมโต

นายสุรศักดิ์ จงเกื้อตระกูล ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี เผยว่าแม้ตลอดปี 2550 ภาวะการใช้จ่ายภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจะอยู่ในขั้นชะลอตัวจากปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของประชาชนและนักลงทุน นั่นก็คือราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าเงินบาทที่แข็งเกินไปจนกระทบต่อภาวะการจ้างงานและการลงทุนใหม่ ทำให้ประชาชนระมัดระวังด้านการใช้จ่ายมากขึ้น

ในส่วนของการออมกลับพบว่าไม่ชะลอตาม โดยจังหวัดชลบุรีมียอดการออมเงินในระบบสูงถึง 1. 7 แสนล้านบาท มากกว่าหลายจังหวัดในภาคตะวันออกและสมุทรปราการ รวมทั้งนนทบุรี ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเป็นรองเพียงกรุงเทพฯ จังหวัดเดียว
พัทยา ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครองใจคนทั่วโลก แม้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายประเภทจะอยู่ในช่วงขาลง แต่ท้องถิ่นยังมีรายได้จากส่วนนี้ต่อเนื่อง
“ปัจจัยที่ทำให้ไม่เกิดการใช้จ่ายในภาคประชาชน นอกจากจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันและค่าเงินบาทแล้ว นโยายของรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมาไม่มีความแน่ชัดและไม่กล้าอนุมัติงบประมาณในการลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง จนไม่ก่อให้ เกิดความเคลื่อนไหวทางการเงิน”

อย่างไรก็ดีในปี 2551 แม้ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ภาคการใช้จ่ายของประชาชนก็น่าจะยังคงไม่กระเตื้องขึ้น เป็นเพราะปัจจัยฉุดรั้งที่สำคัญทั้ง 2 ประการยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะแก้ไขปัญหานี้เพื่อสร้างความมั่นใจทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด

ผลไม้ล้น – ประมงต้นทุนสูงปัญหาใหญ่เศรษฐกิจ ตอ.

นายสุพจน์ เลียดปฐม ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เผยว่าปัญหาใหญ่ของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกโดยเฉพาะชาวสวนในจังหวัดตราด จันทบุรีและระยอง ที่จะต้องประสบตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เรื่อยไปจนถึงกลางปีก็คือจำนวนผลไม้ที่ล้นตลาด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยขาดผู้นำที่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้กับ เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยแล้ง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง โดยภาพที่อาจจะเห็นในปี 2551 ก็คือการทิ้งสวนของเกษตรกรหลังไม่สามารถระบายผลไม้ออกสู่ตลาดภายนอก ขณะที่ราคาผลไม้ก็จะตกต่ำกว่าปีก่อนๆ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการไม่สามารถหาตลาดรองรับได้

“เราก็ได้แต่ฝากความหวังว่าหลังจากที่ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่แล้วปัญหาต่างๆ จะได้รับการแก้ไข และแนวโน้มเศรษฐกิจน่าจะกระเตื้องขึ้นโดยที่ผ่านมาเกษตรกรในภาคตะวันออก ต้องรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจนส่งผลต่อค่าขนส่ง ปุ๋ยและต้นทุนการผลิตต่างๆ แต่การระบายผลไม้ที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในทุกปีกลับไม่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราขาดผู้นำที่กล้าตัดสินใจและแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง ดังนั้นในปี 51 หากรัฐบาลใหม่แก้ไขปัญหาที่ตกค้างไม่ได้ เราจะได้เห็นชาวสวนโค่นต้นผลไม้ หรือแม้แต่ภาพการก่อม็อบชาวสวน เพื่อเร่งให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือ”

ประธานหอการค้าจังหวัดตราด ยังเผยอีกว่าแม้จังหวัดตราดจะมีความเข้มแข็งเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเกาะช้างซึ่งเป็นจุดขายสำคัญ แต่ก็ยังพบว่าราคาน้ำมันได้ทำให้การเดินทางของคนไทยลดลง และเมื่อดูจากสถิติตัวเลขการเติบโตของนักท่อง เที่ยวที่เดินทางเข้ามายังเกาะช้างตั้งแต่ปี 2549 จนถึง 2550 พบว่าแม้จะมีอัตราเติบโตแต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ

อุตฯท่องเที่ยว ปัจจัยบวกหนึ่งเดียวที่ยังสดใส

นายชัชวาล ศุภชยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เผยว่าแม้การเข้าพักของเมืองพัทยาในปี 2550 จะไม่สู้ดีนักเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ จากปัจจัยหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจและราคาน้ำมันแต่ยังถือว่าดีกว่าในหลายเมืองท่องเที่ยวของประ เทศ เพราะพัทยามีจุดขายคือกิจกรรมที่หลากหลายจึงมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวภาพรวมการท่องเที่ยวจะดีขึ้นจากความชัดเจนทางการเมือง และการมีรัฐบาลที่มาไทยเป็นตลาดหลักตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามคาดว่ายอดการเข้าพักในปี 2551 และจากการเลือกตั้ง ซึ่งย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยในสายตาต่างชาติ

เช่นเดียวกับนายอัครวิชย์ เทพาสิต รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคกลาง เขต 3 (พัทยา) ที่เผยถึงการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่าง ชาติในเมืองพัทยาตลอดปี 2550ว่าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย โดยคาดว่าในปี 2551 นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเติบโตอีกไม่น้อยกว่า 100% ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางไปเปิดบูทประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกันระหว่าง ททท. พัทยากับภาคเอกชนและเมืองพัทยา ในงาน Leisure 2007 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียในช่วงปลายเดือนกันยายน 2550 ที่ประสบผลสำเร็จเกินคาด

โดยเอกชนที่ร่วมเดินทางไปเปิดบูทประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวได้รับการติดต่อให้ทำสัญญาซื้อ-ขายโปรแกรมท่องเที่ยวล่วงหน้า ขณะที่บางโรงแรมมียอดจองห้องพักจนถึงปี 2551 ที่สำคัญนายสุพจน์ ธีรเกาศัลย์ เอกอัครราชทูตประจำประเทศรัสเซีย ยังต้องการให้ภาครัฐและเอกชนเมืองพัทยาจัดงานเทศกาลที่เมืองพัทยาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งเป้าเดินทางมาเยือนเมืองพัทยาปีละครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น