หากใครติดตาม ผู้จัดการกองทุนรวม มาตลอดในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเราได้พยายามนำเสนอรูปแบบการออมแบบ Saving plan ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไปเเล้วหลายเเห่ง เพื่อส่งเสริมให้ผุ้ลงทุนเกิดการออมมากขึ้นในรูปแบบนี้มากขึ้น เพราะเราเห็นว่าได้ประโยชน์ทั้งในแง่ต้นทุนและผลตอบแทนที่จะได้รับ โดยก่อนหน้านี เราได้นำเสนอโปรแกรมการออมแบบ Saving plan ของ "กสิกรไทย-ยูโอบี เอวายเอฟ-กรุงไทย" ซึ่งเเต่ละเเห่ง มีการใช้ชื่อโครงการเเตกต่างกันไป เเต่ก็เป็นการออมในรูปเเบบ Saving plan เช่นกัน
ซึ่งทุกค่ายก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การลงทุนกับกองทุนรวมถือเป็นทางเลือกใหม่ในการออมเงินที่ให้ผลตอบเเทนที่ดีในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ลงทุนกับกองทุนรวมก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น วันนี้ ผู้จัดการกองทุนรวม จะพาไปดูแนวคิดการลงทุนแบบ Saving plan ของ บลจ.บัวหลวง กันบ้าง
วิศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บลจ.บัวหลวง เล่าให้ฟังว่า เราใช้ชื่อโปรเเกรมการออมว่า Dollar Cost Averaging ลงทุนอย่างชาญฉลาดกับการลงทุนเเบบถัวเฉลี่ย โดยเราเปิดให้บริการนี้มาตั้งเเต่ปี 2549 ซึ่งโครงการนี้ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี ทุกครั้งที่เราเสนอขายกองทุน เราจะใช้โครงการนี้เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกทาง เนื่องจากเราต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป เราก็ได้รับคำถามทุกครั้งเกี่ยวกับการลงทุนเเบบครั้งเดียวเเละเเบบถัวเฉลี่ยว่าลงทุนเเบบไหนดีกว่ากัน
"เราบอกไม่ได้ว่าการลงทุนครั้งเดียว กับการลงทุนถัวเฉลี่ยอันไหนดีกว่ากัน เพราะความชอบของลูกค้าเเต่ะละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งเราก็จะต้องถามลูกค้ากลับว่า เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร ถ้าคุณมีเป้าหมายมาก การลงทุนของคุณก็มากตามเป้าหมายของคุณเช่นกัน"
ขณะที่เป้าหมายของคนเรามีมากมีน้อยต่างกันไป โดยทั่วไปเเล้วการลงทุนนั้นต้องลงทุนด้วยเงินก้อนซึ่งในความเป็นจริงกว่าเราจะเก็บเงินได้ก็คงต้องใช้เวลา เเต่โครงการ Dollar Cost Averaging จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราลงทุนได้เลยไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะยังเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้เราถึงเป้าหมายได้เร็วอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. มีเป้าหมายการลงทุนในชีวิตเพื่อ 1.เพื่อการเกษียณ์ 2.นำไปเป็นมรดก 3.เที่ยวทั่วโลก เเละ4.เปลี่ยนรถยนต์ ใหม่ ทางบลจ.เราก็จะเเบ่งพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้าดูว่า ลูกค้าควรจะลงทุนในกองทุนประเภทอะไร ซึ่งการใช้การลงทุนเเบบถัวเฉลี่ยก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ให้ลูกค้าไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นกัน โดยเป็นการให้ลูกค้าเเบ่งเงินเพื่อการลงทุนที่ถูกต้อง เเละสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ทางเราได้รับการวิจัย รายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมการออม จากธนาคารกรุงเทพ ที่เป็นบริษัทเเม่มาดู เพื่อจะได้รู้ความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าการออมเงินในปัจจุบันยังมีทางให้เลือกน้อย โดยเฉพาะออมเงินเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด
ลงทุน Dollar Cost Averaging ดีอย่างไร
"วิศิน" เล่าว่า การลงทุนเเเบบถัวเฉลี่ยนั้น สามารถลดความเสี่ยงเรื่องการลงทุนผิดจังหวะ โดยต้นทุนเฉลี่ยของเงินลงทุนในระยะยาวลดลง ขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้จำนวนหน่วยลงทุนมากกว่าการลงทุนเพียงครั้งเดียวในเเต่ละปี (ด้วยจำนวนเงินลงทุนที่เท่ากัน) เเละการลงทุนเเบบบถัวเฉลี่ย ยังเป็นการสร้างวินัยให้กับผู้ลงทุนเอง ที่สำคัญช่วยลดภาระที่จะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ตอนปลายปี ขณะเดียวกันการลงทุน Dollar Cost Averaging จะคล้ายกับการฝากเงินอย่างสม่ำเสมอ เเละไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการอีกด้วย
"ตัวช่วยเหล่านี้จะทำให้คนสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยวิธีนี้สามารถสร้างความมั่นใจให้กับกับนักลงทุนอีกด้วย โดยโครงการ Dollar Cost Averaging จะส่งผลดีให้กับผู้ที่ลงทุนในหุ้นมากที่สุด เช่น ถ้าคุณลงทุนครั้งเดียวความเสี่ยงจะมากกว่า ถ้าลงเเบบเฉลี่ยเท่าๆกัน ความเสี่ยงก็จะน้อยกว่า เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ลงทุนในตราสารหนี้จะเสียเปรียบซะทีเดียว"
ขั้นตอนง่ายๆกับ Dollar Cost Averaging
ขั้นตอนในการใช้บริการนี้คือ ต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดของบลจ.บัวหลวง โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องมีบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์กับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนเลือกระบุวันที่ 1 เเละหรือ 16 ของเดือน เเละจำนวนเงินที่ต้องการให้ธนาคารหักบัญชีเงินฝากเพื่อชี้อหน่วยลงทุน ในอนาคตจะมีการเพิ่มการตัดบัญชีจากธนาคารอื่นด้วย
สำหรับจำนวนเงินขั้นต่ำในการออมของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพียงเเค่ 500 บาทต่อครั้งเเละต่อกองทุนเท่านั้น โดยเงินเปิดบัญชีของกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเพียงเเค่ 2,000 บาท ส่วนกองทุนเปิดทั่วไปออมเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาทต่อครั้งเเละต่อกองทุน เเละเงินเปิดบัญชีกองทุนเปิดทั่วไปอยู่ที่ 5,000 บาท กองทุนที่สามารถใช้โปรเเกรม Dollar Cost Averaging นี้ใช้ได้ทั้งกองทุน RMFเเละLTF กองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม รวมไปถึงกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย โดยกองทุนที่ยกเว้นของบลจ.บัวหลวง คือ กองทุนเปิดธนทวี เท่านั้น
ส่วนกองทุน RMF ของบลจ.บัวหลวง มีดังนี้ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ เเละกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ ส่วนกองทุน LTF ได้เเก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว เเละกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25
วศิน กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การลงทุนเเบบมีเป้าหมาย จะช่วยให้เราถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วที่สุด ถึงเเม้เราจะมีเงินลงทุนในจำนวนน้อย เเต่ถ้าเราลงทุนเเบบน้อยๆอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนเราก็จะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วที่สุดเหมือนกัน เชื่อว่าโปรเเกรม Dollar Cost Averaging จะเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่อยากลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม ทีมงานผู้จัดการกองทุน เชื่อว่า การลงทุน Saving plan หรือ Dollar Cost Averaging จะได้ประโยชน์ทั้งผู้ถือหน่วยลงทุนเเละ บลจ. ที่สำคัญการลงทุนนี้จะช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย เติบโตได้ด้วยเช่นกัน...ครั้งหน้ามาตามกันต่อว่าทีมงานผู้จัดการกองทุนรวมจะนำข้อมูล Saving plan ของบลจ.ใดมาให้ติดตามกัน