บลจ. บัวหลวง เป็นปลื้มหลังไอพีโอกองทุนเปิดบัวหลวงโครงพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF) นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีจากยอดจองซื้อกว่า 447.57 ล้านบาท เผยสิ้นปีนี้เตรียมเปิดกองทุนอาร์เอ็มเอฟเพิ่มอีก 1 กองทุนไว้รองรับความต้องการนักลงทุนที่ยังมีอยู่
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ IN-RMF ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7-21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดจองซื้อจากนักลงทุนสูงถึง 477.57 ล้านบาท
โดยเป็นการเสนอขายผ่านเครือข่ายของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงในงาน Money Expo 2008 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่านักลงทุนได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้กลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวนั้นมีทั้งนักลงทุนที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของธนาคารกรุงเทพ และบลจ. บัวหลวง ที่เคยลงทุนในกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟมาก่อน รวมถึงลูกค้าเดิมที่เคยลงทุนในกองทุนรวมประเภทอื่นๆ ของ บลจ. ด้วยที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน นอกจากนี้แล้วฐานลูกค้าใหม่กลุ่มใหม่ยังได้ให้ความสนใจอีกด้วย
“ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวมมากขึ้น และให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนลดภาษีอย่าง RMF และ LTF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว) เพราะนอกจากโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมด้วย สำหรับการจัดตั้งกองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ ตอนนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะวันนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน จำเป็นต้องเริ่มลงทุนด้านต่างๆ อีกครั้ง หลังจากมีการชะลอการลงทุนภายในประเทศไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา” นายวศิน กล่าว
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เช่น บริษัทในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง ขนส่งและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นต้น
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุนอาร์เอ็มเอฟ กองที่ 5 ของ บลจ.บัวหลวง และหลังจากที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนั้นลงทุนจากการเปิดขายครั้งแรกแล้วนั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดขายให้กับนักลงทุนที่สนใจซื้อได้อีกครั้ง ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 นี้เป็นต้นไป
นายวศิน กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดกองทุนอาร์เอ็มเอฟเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุนไว้รองรับนักลงทุนที่ยังมีความต้องการที่จะเข้ามาลงทุนอีก และในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บลจ. ได้เปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ (B25RMF) ซึ่งกองทุนดังกล่าวนั้นลูกค้าได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมี ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 924.74 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 9.78 บาทต่อหน่วย
โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนระยะยาวในตราสารแหน่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) กำหนดให้ลงทุนได้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ของกองทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งมีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน และหรือเงินฝาก และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดให้ลงทุนได้ ทั้งนี้ ในส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุนจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ IN-RMF ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7-21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดจองซื้อจากนักลงทุนสูงถึง 477.57 ล้านบาท
โดยเป็นการเสนอขายผ่านเครือข่ายของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงในงาน Money Expo 2008 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่านักลงทุนได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้กลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวนั้นมีทั้งนักลงทุนที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของธนาคารกรุงเทพ และบลจ. บัวหลวง ที่เคยลงทุนในกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟมาก่อน รวมถึงลูกค้าเดิมที่เคยลงทุนในกองทุนรวมประเภทอื่นๆ ของ บลจ. ด้วยที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน นอกจากนี้แล้วฐานลูกค้าใหม่กลุ่มใหม่ยังได้ให้ความสนใจอีกด้วย
“ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวมมากขึ้น และให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนลดภาษีอย่าง RMF และ LTF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว) เพราะนอกจากโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมด้วย สำหรับการจัดตั้งกองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ ตอนนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะวันนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน จำเป็นต้องเริ่มลงทุนด้านต่างๆ อีกครั้ง หลังจากมีการชะลอการลงทุนภายในประเทศไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา” นายวศิน กล่าว
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เช่น บริษัทในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง ขนส่งและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นต้น
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุนอาร์เอ็มเอฟ กองที่ 5 ของ บลจ.บัวหลวง และหลังจากที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนั้นลงทุนจากการเปิดขายครั้งแรกแล้วนั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดขายให้กับนักลงทุนที่สนใจซื้อได้อีกครั้ง ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 นี้เป็นต้นไป
นายวศิน กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดกองทุนอาร์เอ็มเอฟเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุนไว้รองรับนักลงทุนที่ยังมีความต้องการที่จะเข้ามาลงทุนอีก และในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บลจ. ได้เปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ (B25RMF) ซึ่งกองทุนดังกล่าวนั้นลูกค้าได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมี ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 924.74 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 9.78 บาทต่อหน่วย
โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนระยะยาวในตราสารแหน่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) กำหนดให้ลงทุนได้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ของกองทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งมีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน และหรือเงินฝาก และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดให้ลงทุนได้ ทั้งนี้ ในส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุนจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
