xs
xsm
sm
md
lg

นครหลวงไทยพอใจยอดแอลทีเอฟ เผย80%ลูกค้าขายคืนแล้วลงทุนต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.นครหลวงไทยพอใจแคมเปญกระตุ้นกองทุน "แมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว" เผยลูกค้าที่ขายหน่วยลงทุนออกไปแล้ว มีการกลับเข้ามาลงทุนต่อถึง 80% ชี้ปัจจัยภาษียังจูงใจผู้ถือหน่วยได้ พร้อมประเมินภาพรวมทั้งระบบปีนี้ แอลทีเอฟขยายตัวต่อ เชื่อเงินลงทุนใหม่ยังมีอีกเยอะ แถมคนลงทุนต่อที่ต้องการใช้สิทธิภาษียังมี

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทออกแคมเปญกระตุ้นการลงทุนผ่านกองทุนเปิดแมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท เพื่อให้นักลงทุนที่ต้องการขายหน่วยลงทุนหลังถือครบมาแล้ว 5 ปีปฏิทิน ซื้อหน่วยลงทุนกลับเข้ามาอีก ในช่วงวันที่ 1-15 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยพบว่ามีสัดส่วนการลงทุนต่อถึง 80% ของนักลงทุนที่ขายคืนหน่วยลงทุนออกไปทั้งหมด

สำหรับจุดประสงค์ของการออกแคมเปญดังกล่าว เพื่อเป็นการแจ้งให้ลูกค้าที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวทราบช่วงเวลาที่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการดูแลผลประโยชน์ทางภาษีให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่ ซึ่งปีนี้เองเป็นปีแรกสำหรับลูกค้าที่มีการลงทุนมาตั้งแต่ปี 2547 สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้แล้วโดยไม่ต้องคืนสิทธิภาษี โดยผู้ถือหน่วยที่มีการขายหน่วยลงทุนออกไปแล้ว มีการลงทุนต่อเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้ ก็จะได้รับของสมนาคุณตามจำนวนเงินที่ลงทุน ซึ่งจำนวนเงินลงทุนดังกล่าว จะนำไปรวมกับยอดที่ซื้อเข้ามาในช่วงปลายปีด้วย

ทั้งนี้ นักลงทุนที่ลงทุนตั้งเเต่ 20,000-49,000 บาท จะได้รับของสัมนาคุณเป็นกระติกสูญญากาศ ลงทุนตั้งเเต่ 50,000-149,999 บาทรับเครื่องชั่งดิจิตอล หากลงทุนตั้งเเต่ 150,000-299,999 บาท รับของสัมนาคุณเป็นเตาไฟฟ้า เเละลงทุนตั้งเเต่ 300,000 บาทขึ้นไปจะได้รับหม้อตุ๋นฟรี ซึ่งในช่วงของการขายคืนหน่วยลงทุนช่วงที่ 2 ในเดือนตุลาคม บริษัทก็จะมีแคมเปญในลักษณะดังกล่าวออกมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ถือหน่วยที่ถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปีปฏิทินแล้ว แต่ไม่ต้องการขายหน่วยลงทุนออกมา หากมีการลงทุนต่อไปจนถึงสิ้นปี ก็จะได้ของสมนาคุณด้วยเช่นกัน

สำหรับกองทุนเปิดแมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว ได้กำหนดช่วงเวลาขายคืนหน่วยลงทุนได้ปีละ 2 ครั้งตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งกองทุน ซึ่งในช่วงแรกกำหนดไว้ในสิบห้าวันแรกของเดือนเมษายน และสิบห้าวันแรกของเดือนตุลาคม ของทุกปีภายในเวลา 13.00 น. โดยผู้ถือหน่วยจะได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน ภายใน 3 วันทำการถัดจากวันสั่งขายคืนหน่วยลงทุน (เฉพาะกรณี ที่รับเงินค่าขายผ่านธ.นครหลวงไทย) และภายใน 5 วันทำการถัดจากวันขายคืนหน่วยลงทุน (กรณีที่รับเงินค่าขายผ่านธนาคารอื่นๆ)

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง และมีความมั่นคงในฐานะการเงิน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนจะได้เงินปันผลจากการลงทุน โดยจะจ่ายในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสะสมดังกล่าว หรือกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลนั้น แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ในรูปของการจ่ายเงินปันผล ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาจึงต้องเสียภาษีจากเงินปันผลดังกล่าวด้วย ผู้ลงทุนจะได้กำไรส่วนเกินจากการลงทุน ในกรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุน ณ.วันที่ผู้ถือหน่วยทำการขายคืน มีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าหน่วยลงทุน ณ.วันที่ผู้ถือหน่วยทำการซื้อกองทุน ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ไม่ถือว่าเป็นการจ่ายเงินปันผล ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาจึงไม่ต้องเสียภาษีกำไรส่วนเกิน

โดย ณ วันที่ 11 เมษายน 2551 กองทุนเปิดแมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 375.60 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุน 12.2426 บาท ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ -2.18% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเดียวกัน 2.61% โดยตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทน -4.79%

"กองทุนนี้เหมาะสมกับเงินลงทุนของลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากการลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง และมีความมั่นคงในฐานะการเงิน"

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ถึงแม้ในปีนี้ จะเป็นปีแรกที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว จะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนออกมาได้เป็นปีแรก แต่ก็เชื่อว่าภาพรวมทั้งระบบของกองทุนดังกล่าวจะสามารถขยายตัวได้อีก เพราะยังมีนักลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางส่วนที่ขายหน่วยลงทุนออกไปแล้ว ก็มีการกลับเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ยังมีสิทธิลดหย่อนภาษีอยู่ในตัวของมันเอง แต่ถ้าซื้อครบแล้วไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อเหมือนช่วงครบอายุการลงทุน ตรงนั้นน่าจะมีผลกระทบมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น