ออมต่อเนื่องสไตล์ Wealth Plus ลงทุนน้อยๆ...แต่เก็บไว้ใช้นานๆ

การออมกับโครงการเซฟวิ่งเเพลนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) หลายๆที่ ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปมากขึ้น เนื่องจากประชาชนหลายคนเริ่มหาช่องทางการออมเงินเเบบใหม่ที่ให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่า การฝากเงินไว้กับธนาคาร หรือหาช่องทางที่ลงทุนเเล้วสามารถนำไปลดหย่อนภาษี ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมก็เป็นคำตอบหนึ่งในนั้น วันนี้ ทีมงานผู้จัดการกองทุนรวม จะพาไปรู้จักโครงการ "Wealth Plus" การออมรูปเเบบใหม่ของ บลจ.กรุงไทย

สมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของโครงการ Wealth Plus ว่า ตอนปลายปี 2550 ทางบลจ.มีโอกาสเข้าไปพบผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย จึงได้พูดคุยว่า เราอยากขยายฐานผู้ลงทุนในตลาดหุ้น เราจึงกลับมาดูว่ากองทุนไหนที่พร้อมทำโครงกล่าวดังกล่าวรวมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ

หลังจากนั้น เรากลับมาดูว่ากองทุนไหนพร้อมที่สุด ซึ่งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF) น่าจะเหมาะที่สุด เพราะทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนระยะยาวที่สำคัญการลงทุนในรูปแบบดังกล่าวเป็นการออมเพื่อวัยเกษียณ์ โดยเราเริ่มโครงการ Wealth Plus กับพนักงานในเครือ กรุงไทย ก่อน

"สิ่งที่เราทำต่อมาคือ ขยายฐานลูกค้า จากพนักงานในเครือกรุงไทย เป็นผู้ที่ลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ.กรุงไทย ก็ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจาก Wealth Plus ตัดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาทเท่านั้น ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการก็คิดว่า Wealth Plus เหมือนเป็นการออมเงินอย่างหนึ่ง

"สมชัย" บอกถึงสาเหตุที่ตัดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาทว่า อยากให้ Wealth Plus เป็นโครงการที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ซึ่งคนไทยยังคำนึงถึงอนาคตน้อยมาก จากการวิจัยเรื่องการมีชีวิตของมนุษย์ ส่วนใหญ่พบว่า ผู้ชายมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 72 ปี ส่วนผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยที่ 79 ปี ถ้าเราเกษียณ์ตอนอายุ 60 ปี ระยะเวลาที่เราอยู่นั้นเราก็ไม่มีรายได้จากที่ไหนซึ่งตามความเป็นจริงนั้นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็ไม่พอให้เราใช้จ่าย เนื่องจากค่าของเงินที่เรามีจะน้อยกว่าเงินที่เราลงในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสมัยที่ยังมีงานอยู่ บวกกับสภาพปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นในอนาคต

โดยผู้ที่มีรายได้น้อยก็สามารถลงทุนในกองทุน RMF เเละ LTF ได้เช่นกัน ส่วนผู้ที่ลงทุนการนำไปลดหย่อนภาษีก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหน่วยลงทุนตอนปลายปี ซึ่งในช่วงปลายปีราคาหน่วยลงทุนราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เเละที่สำคัญผู้ที่เข้ารวมโครงการ Wealth Plus ก็ได้รับของรางวัลเหมือนกับผู้ที่ลงทุนตอนปลายปีเช่นกัน

เเต่เดิมทางเรามีการตัดบัญชีธนาคารของลูกค้าที่ลงทุนกับทางบลจ.อยู่เเล้ว โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นกองทุนไหน ซึ่งส่วนมากจะเป็นลูกค้าขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่ทำโปรเเกมเซฟวิ่งเเพน ซึ่งโครงการ Wealth Plus จะเป็นตัวช่วยเรื่องของการออมให้กับลูกค้าระดับล่าง หรือผู้ที่มีรายได้น้อย

"เราคาดว่า โครงการ Wealth Plus จะเป็นทางเลือกการออมชนิดหนึ่งของผู้กำลังตัดสินใจออมเงิน ซึ่งเราได้ตั้งเป้ายอดลูกค้าของ กองทุน RMF ไว้ที่ 3,000 รายเเละกองทุน LTF ที่ 3,000 รายเช่นกัน" สมชัยกล่าว

เปิดกองทุนRMFเเละLTF
สมชัย ยังบอกอีกว่า ทางเรากำลังจะเพิ่มกองทุน RMF4 ที่ลงทุนใน Money market สำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อย สำหรับกองทุน RMF เเละ LTF ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. กรุงไทย ได้เเก่ 1.กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KSRMF) ซึ่งมีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามที่มีผลประกอบการและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารอื่นๆ และ/หรือเงินฝาก ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2.กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 1 (RMF1) เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารแห่งหนี้ และหรือเงินฝาก รวมทั้งหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อกฏหมาย ก.ล.ต. อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยในสถานการณ์ที่เหมาะสม กองทุนจะลงทุนส่วนใหญ่ในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งทุน

3.กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 (RMF2) มีนโยบายที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่บริษัทพิจารณาแล้วว่าผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัลมีความมั่นคง และมีความสามารถในการชำระหนี้ และตราสารหนี้นั้นให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง ซึ่งตราสารหนี้ดังกล่าวรวมถึงพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ และตราสารหนี้อื่น ๆ รวมทั้งเงินฝาก โดยในการพิจารณาตัดสินใจลงทุน บริษัทจัดการอาจจะปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้แต่ละประเภทข้างต้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะเวลาต่าง ๆ กัน

4.กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 3 ( RMF3) เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มี กระทรวงการคลังค้ำประกันและตราสารทางการเงินอื่นที่ผู้ออกหรือผู้รับรองรับอาวัลหรือค้ำประกันตราสารมีความมั่นคงสูงมี ความเสี่ยงต่ำ รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนด

5.กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) มีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามที่มีผลประกอบการและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารอื่นๆ ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note)ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

6.กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KTLF) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม รวมทั้งลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือเงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)

7.กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว70/30 (KTLF70/30) เป็นกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน รวมทั้งลงทุนในตราสารทุน ตราสารแห่งหนี้ในประเทศ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)

8.กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET50 ( KSET50LTF) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุน โดยพิจารณาดัชนี SET50 เป็นเกณฑ์มาตรฐาน โดยสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับน้ำหนักที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

ความพิเศษมีที่ KTAM เท่านั้น
นอกจากความพิเศษของโครงการ Wealth Plus ที่ให้ตัดบัญชีขั้นต่ำที่ 500 บาทเเล้ว บลจ.กรุงไทยยังมีความพิเศษให้กับผู้ที่ลงทุนในกองทุน RMF ด้วยคือ บลจ.กรุงไทย จะทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยวางเเผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1-3 ซึ่งกองทุนเปิดเปิดกรุงไทยวางเเผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 1 เเละ 2 ได้ทำประกันไว้กับบริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยกรรมธรรม์ที่ได้รับ คือ 1.เสียชีวิต 2.สูญเสียอวัยวะ 3.ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เเละ4.อุบัติเหตุจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากผู้ถือหน่วยเสียชีวิตจ่าย 1 เท่าของจำนวนเงินที่ลงทุน โดยคิดจาก NAV ณ วันที่เสียชีวิตเเต่ไม่เกิน 4 ล้านบาท

ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยวางเเผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 3 ได้ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไว้กับกับ บริษัทเมืองไทยประกันภัย โดยกรรมธรรม์ที่ได้รับคือ 1.เสียชีวิต 2.สูญเสียอวัยวะ 3.ทุพพลถาพถาวรสิ้นเชิง 4.อุบัติเหตุจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ เเละ5.การถูกทำฆ่าหรือถูกทำร้ายร่างกายโดยเจตนา ซึ่งหากผู้ถือหน่วยเสียชีวิตจ่าย 1 เท่าของจำนวนเงินที่ลงทุน โดยคิดจาก NAV ณ วันที่เสียชีวิตเเต่ไม่เกิน 4 ล้านบาท