xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา เก็บออมก่อนใช้..ไม่ใช่รอให้เหลือเก็บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ทุกวันนี้ผมต้องทำงานเยอะมาก การทำงานก็เพื่อเงิน เพราะยังคงมีภาระครอบครัวที่ต้องส่งลูกทั้งสองเรียนหนังสืออยู่ นอกจากนี้แล้วยังต้องออมเพื่อที่อนาคตจะได้ทำงานให้น้อยลง เพราะทุกวันนี้ทำงานมากพอสมควร คิดว่าประมาณอายุซัก 45 – 50 ปี จะได้เกษียณตัวเองโดยไม่ต้องทำงาน นี่คือความใฝ่ฝันของผม”

สัปดาห์นี้ "ผู้จัดการคุยกับนักลงทุน" ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ **อาจารย์อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา** ผู้ที่มีประสบการณ์ในการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรหลายๆ องค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมาในวันนี้จะนำเสนอรูปแบบของการทำงานและการออมเงินของอาจารย์อภิวุฒิ เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้พิจารณา หรือตัดสินใจนำไปปฏบัติตาม

อาจารย์อภิวุฒิ เริ่มพูดถึงความรับผิดชอบในงานว่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับให้คำปรึกษาด้านพัฒนาบุคลากร และพัฒนาองค์กร และเป็นบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ ที่เปิดทำการมาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ปัจจุบันบริษัทได้ทำการอบรมให้กับพนักงานบริษัทใหญ่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย เป็นต้น ซึ่งในส่วนของบลจ.ทหารไทยนั้น บริษัทจะเข้าไปอบรมให้กับพนักงานทุก ๆ สองอาทิตย์ เพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ในอนาคตอาจารย์บอกว่ามีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งยังคงเน้นประเทศในแถบอินโดจีนอยู่ โดยเฉพาะเวียดนาม เพราะประเทศดังกล่าวมีอัตราการเติบโตอย่างในเชิงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาด้นพัฒนาบุคลากรให้แก่บริษัทในเวียดนามประมาณ 4- 5 บริษัท แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทข้ามชาติ เช่นธนาคารเอเอ็นแซท (เอเชียนิวซีแลนด์แบงก์)

ทั้งนี้ จากการสัมภาษณ์พูดคุย "ผู้จัดการกองทุน"ได้มีโอกาสทราบถึงผลงานในอดีตของอาจารย์ว่า ก่อนหน้านี้อาจารย์ทำงานครั้งแรกที่สายการบินค่าเธ่แปซิฟิก

ต่อด้วยการทำงานที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย และหลังจากนั้นได้ย้ายมาทำงานอยู่ที่บริษัทไทยอินดัสแก๊ส ในตำแหน่งผู้จัดการธุรกิจ สุดท้ายก่อนที่จะมาตั้งบริษัทเป็นของตัวเองที่บริษัทการ์เดียนอินดัสทรี ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ซึ่งดูในส่วนของตลาดในประเทศและตลาดอินโดจีน

โดยกว่าจะทำงานให้ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้อาจารย์มีหลักและแนวคิดในการทำงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ 1. ต้องอาศัยโอกาสที่จะมีมา
และ 2. ในเรื่องของความพร้อมซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอในเรื่องของการศึกษา และนำทั้ง2 สิ่งนี้เข้ามารวมด้วยกัน โดยใครที่สามารถทำอย่างที่อาจารย์อภิวุฒิกล่าวได้นั้น อาจารย์มั่นใจว่าทุกคนจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

สำหรับในเรื่องของการออม "ปัจจุบันผมแบ่งการออมเงินออกเป็น 4 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกจะนำเงินไปลงทุนตลาดหุ้น โดยจะเทรดหรือลงทุนผ่านทางอินเตอร์เน็ต 2. ออมด้วยการลงทุนในกองทุนรวมโดยเฉพาะในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ของบริษัทที่น่าเชื่อถือ 3.ออมด้วยการฝากเงินไว้กับธนาคาร และสุดท้ายออมด้วยการทำประกันชีวิต เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญในสิ่งที่เราไม่สามารถจะคาดคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต"

อาจารย์บอกอีกว่า “ทุกวันนี้ผมต้องทำงานเยอะมาก การทำงานก็เพื่อเงิน เพราะยังคงมีภาระครอบครัวที่ต้องส่งลูกทั้งสองเรียนหนังสืออยู่ นอกจากนี้แล้วยังต้องออมเพื่อที่อนาคตจะได้ทำงานให้น้อยลง เพราะทุกวันนี้ทำงานมากพอสมควร คิดว่าประมาณอายุซัก 45 – 50 ปี จะได้เกษียณตัวเองโดยไม่ต้องทำงาน นี่คือความใฝ่ฝันของผม”

อาจารย์อภิวุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทำงานมาพอสมควรอาจารย์จึงต้องหาเวลาพักผ่อนให้กับครอบครัวด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการพักผ่อนกับครอบครัวจะเป็นช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของทุกๆ สิ้นปี ซึ่งสถานที่ที่ชอบไปมากที่สุดได้แก่จังหวัดทางภาคเหนือหรือสถานที่ที่มีอากาศเย็น ๆ เนื่องจากเราเป็นครอบครัวใหญ่มีผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัวด้วยกัน 4 ท่านคือคุณพ่อคุณแม่ผมและคุณพ่อคุณแม่ภรรยา รวมถึงลูก ๆ อีก 2 คน ดังนั้นจึงต้องสรรหาที่พักผ่อนให้มีอากาศที่เย็นและมีความสะดวกสบายแก่สมาชิกในครอบครัวด้วยทุกครั้งเสมอ

สำหรับรายได้แรกที่อาจารย์สามารถหามาได้ด้วยตัวเองนั้น เป็นการทำงานครั้งแรกเมื่อ 22 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเงินเดือนก้อนแรกนั้นได้มาประมาณ 1,500 บาท ในสมัยก่อนถือว่ามากพอสมควรสำหรับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และด้วยความที่ยังมีวุฒิภาวะน้อยอยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้นการจัดสรรเงินในช่วงดังกล่าวจึงยังไม่มี เมื่อเงินเดือนออกเมี่อไหร่จะใช้หมดทุกที หลังจากนั้นผ่านไป 10 ปีจึงคิดได้ว่าเราควรเก็บสตางค์เพื่อสร้างครอบครัวให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

อาจารย์ยังบอกต่ออีกว่า หลังจากมีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว จากประสบการณ์ดังกล่าวจึงได้มีการนำมาปลูกฝั่งให้กับลูก ๆ ทั้งสองคนด้วย ซึ่งที่ผ่านมาจะซื้อกระปุกออมสินให้กับลูก ๆ ทั้งสองและให้เค้าทั้งสองคนแข่งกันหยอดกระปุกว่าใครจะเต็มก่อนกัน และถ้าใครเต็มก่อนคนนั้นจะได้รางวัล ซึ่งก็สามารถสร้างความสนุกใปให้กับลูก ๆ ทั้งสองคนได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างวินัยในการออมไปในตัวอีกด้วย

สุดท้ายอาจารย์ฝากบอกว่า สำหรับคนที่อายุน้อย ๆ มักจะไม่ค่อยคิดถึงอนาคตมากนัก เราจึงไม่ค่อยเห็นผู้ที่อายุยังน้อยให้ความสำคัญในเรื่องของการออมเงินมากนัก ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่มีอายุน้อยควรที่จะรู้จักจัดสรรเรื่องของการออมมากขึ้น เนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะรับทราบได้เลยว่าอนาคตจะเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น นอกจากนี้แล้วการออมยังเป็นการฝึกวินัยอย่างหนึ่งอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครคิดที่จะเริ่มออมในตอนนี้ควรที่จะ “เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้แล้วค่อยคิดที่จะมาเก็บ

ชื่อ – นามสกุล      อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
วันเดือนปีเกิด       10 กรกฎาคม 2509
จบการศึกษา        ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์
                           ปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์
                           ปริญญาโท สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) 

                           คณะบริหารธุรกิจ
งานปัจจุบัน          กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด

กำลังโหลดความคิดเห็น