“หญิงอ้อ” ต่อสายเคลียร์ “ป๋าเปรม”ขอ “แม้ว” กลับไทยแลกหยุดเคลื่อนไหวและเลิกเล่นการเมืองเพื่อเดินสู่ความสมานฉันฑ์ พร้อมให้ คมช.ดูแลความปลอดภัย ระบุเหตุ “พจมาน” ไม่เข้าพบที่บ้านสี่เสาเพราะไม่ต้องการให้เอิกเกริก ขณะที่ พชป.ย้ำ “สมัคร” เท่านั้นที่จะนั่งนายกฯ พร้อมยุ “ยุทธ ตู้เย็น” ขึ้นประธานสภาฯ ส่วน “ประวิตร” มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น รมว.กห.เพื่อประนีประนอมกับ คมช. ด้าน “เพื่อแผ่นดิน” นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค ลงมติเข้าร่วมรัฐบาลวันนี้ หลังเสียงแตกเป็น 2 ส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คุณหญิง พจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยอ้างว่า เพื่อมาต่อสู้คดีตามหมายจับเกี่ยวกับที่ดินรัชดา และ การปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยคุณหญิงพจมานใช้วงเงินประมาณ 6 ล้านบาท ในการประกันตัวออกไป
โดย มีกระแสข่าวว่า หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 วัน คุณหญิงพจมาน ได้ติดต่อประสานไปยังคนสนิทของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ เพื่อขอเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งคุณหญิงพจมานได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.อ.เปรม โดยในครั้งนี้ คุณหญิงพจมานไม่ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ แต่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพูดคุยกันระหว่าง คุณหญิงพจมาน กับ พล.อ.เปรม ครั้งนี้ ได้มีการขอร้องเพื่อให้ พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางกลับประเทศ และจะหยุดการเคลื่อนไหว และเดินหน้าสู่ความสมานฉันท์ ขณะเดียวกันยังได้ขอร้องให้ พล.อ.เปรม ประสานไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อดูแล ความปลอดภัยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังเดินทางกลับ ทั้งนี้การพูดคุยกันมีเงื่อนไขว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องไม่เล่นการเมืองในรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็ได้รับปากว่าจะปฏิบัติตาม รวมถึงเรื่องคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่คุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางไป พบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ครั้งนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่อยากให้เอิกเกริก และเป็นข่าวมาก เพราะเกรงว่าจะเกิดภาพไม่ดี รวมถึงไม่อยากให้ พล.อ.เปรม ไม่สบายใจ จึงได้มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พล.อ.เปรมว่า ได้มีการวิเคราะห์ว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้เห็นว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้เห็นชอบ ครม. ชุดใหม่ของ พรรคพลังประชาชน และอยู่เบื้องหลังการเมือง ดูจากตัวบุคคลที่ปล่อยออกมาว่า พยายามให้เห็นว่าเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.เปรม และ เป็นพวก ลูกป๋า
รับเป็นไปได้“ประวิตร”นั่ง รมว.กห.
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.) ให้สัมภาษณ์ ก่อนประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงกรณีกระแสข่าวที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.)ได้เสนอให้พรรคพิจารณา พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามีและแกนนำยังไม่ได้หารือหรือคุยกับกองทัพแต่อย่างใด ซึ่งบุคคลที่จะมารับตำแหน่งนี้สามารถเป็นได้ทั้งคนในและคนนอกพรรค หากทำให้ทุกฝ่ายเกิดความ สบายใจซึ่งกันและกัน ส่วนการที่เสนอชื่อของ พล.อ.ประวิตร เพื่อเป็นผู้มาประสานรอยร้าวระหว่างคมช.และพรรคหรือไม่นั้น เห็นว่าอาจมีความเป็นไปได้ เพราะทุกคนก็อยากให้เกิดความสมานฉันท์เกิดขึ้น
นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงข่าวที่ระบุว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยอมให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล แต่นายกรัฐมนตรีต้องไม่ใช่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคว่า เราเป็นพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นหากนายสมัครไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวปล่อยเท่านั้น ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน
“เรืองโรจน์”อ้อมแอ้มให้พรรคตัดสิน
ขณะที่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่ อพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ มาเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งดังกล่าวว่า เป็นมติของพรรคที่จะให้ใครเป็นอะไร ตนไม่มีหน้าที่ ต้องบอกว่าใครจะเป็นอะไร นั่งตำแหน่งใด ซึ่งคนที่เป็นทหารระดับสูงก็สามารถเป็นรัฐมนตรีกลาโหมได้ทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบกก็เหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกลาโหม พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า เป็นได้ หากเคยเป็นผู้นำของกองทัพมาก่อนก็มีความเหมาะสม ส่วนจะเป็นการหารือกับคมช.หรือไม่ เชื่อว่าคมช.จะไม่เข้ามายุ่ง มีแต่คนอื่นที่จะดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือหากต้องคุยกันจริงก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นนายทหารรุ่นพี่ รุ่นน้องกัน คุยกันง่าย และอย่าสร้างภาพว่า คมช.น่ากลัว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้เจรจากับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่เคยพบกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คิดว่า คงเป็นห่วงเรื่องทางบ้านมากกว่า ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายหากจะไปคุยกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพราะต่างเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายสมัคร จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหากเป็นรัฐบาล ตนเห็นว่าเมื่อพรรคชนะการเลือกตั้ง หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนไว้ใจ ถ้าไปเปลี่ยนก็ผิดกติกา
ย้ำ“สมัคร”เท่านั้นที่เป็นนายกฯ
ต่อมา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมการเลือกตั้งใหม่ ในพื้นที่ที่ผู้สมัครของพรรคที่ได้รับใบเหลือง
ส่วนกระแสข่าวนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน อาจไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ ยืนยันอีกครั้งว่าพรรค ไม่ได้เตรียมนายกรัฐมนตรีสำรองไว้ เมื่อพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นพรรคยืนยันว่าในวันเปิดประชุมสภาฯ นายสมัคร จะได้รับการเสนอชื่อเป็น นายกรัฐมนตรีแน่นอน อีกทั้งนายสมัครก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถ จนนำพรรคชนะการเลือกตั้ง ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใด คาดว่าน่าจะมาจากนอกพรรค ซึ่งมีเจตนาทำให้เกิดความสับสนขึ้น
ส่วนบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น พรรคได้เตรียมบุคคล ที่มีความรู้ความเหมาะสมไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ส่วนกระแสข่าวนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคอาจได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯนั้น ยอมรับว่านายยงยุทธมีความเหมาะสมแต่ก็ไม่ได้มีเพียงคนเดียว ซึ่งรายชื่อที่นำมาพิจารณาเป็นประธานสภาฯ ส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ก็ต้องมีการปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราก็ต้องขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมด้วย
ลั่นสุดสัปดาห์นี้รู้ผลร่วมรัฐบาล
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าภายในวันที่ 17-18 ม.ค.น่าจะมีการประกาศร่วมรัฐบาลของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหา น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว
สำหรับกระแสข่าว นพ.สุรพงษ์จะดำรงตำแหน่งรมว.คลังนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นเพียงข่าวที่มาจากภายนอกพรรค ขณะนี้ยังไม่มีการคุยกันถึงเรื่องนี้ ต้องรอให้มีการประกาศร่วมรัฐบาลแล้วจึงมาตกลงกันในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีการแบ่งโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้วหรือไม่ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า คงต้องการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึง นโยบายและการทำงานร่วมกัน แล้วค่อยมาพิจารณาบุคคลาการที่เหมาะสม คาดว่าภายในเดือนนี้ทุกอย่างจะชัดเจน
ดิ้นฟ้องศาล ปค.โละทิ้งคดี กกต.
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติให้ฝ่ายกฎหมายชุดใหญ่ประชุมในวันที่ 16 ม.ค. เวลา 9.00 น. เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนของกกต. เพราะมีหลักฐานชัดเจน มีเทปบันทึกการให้สัมภาษณ์ ของพ.ต.ท.รังษี เยาวลักษณ์ ที่ระบุถึงความสัมพันธ์ของ พล.ต.ต.ชัยยะ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมทั้งหมายเลขพาสปอร์ตที่ต่อกัน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.ชัยยะ ได้ไปร่วมงานบวช นายสนธิ ซึ่งจะใช้หลักฐานดังกล่าวยื่นต่อ ศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครองฉุกเฉินทั้ง 67 คดี ที่กกต.ตัดสินโดยตำรวจสันติบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้สอบสวนมีความไม่เป็นกลาง และใช้อำนาจโดยมิชอบ
ที่ประชุมยุ“ยุทธตู้เย็น”เหมาะปธ.สภา
พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้นายสมัครได้กล่าวย้ำกับสมาชิกว่ารู้สึกเป็นกังวลมือสกปรกยังไม่เลิกบงการ พยายามที่จะยุบพรรคพลังประชาชน ในขั้นตอนของ กกต.รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรม ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐนตรีนั้น นายสมัครไม่รู้สึกกังวล ในที่ประชุมนายยงยุทธ และนพ.สุรพงษ์ รวมทั้งสมาชิกต่างยืนยันว่าหัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น กระแสข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการปล่อยข่าว นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการ หยอกล้อว่านายยงยุทธ ควรเป็นประธานสภา ขณะที่นายยงยุทธ ระบุว่า พรรคมองไว้ หลายคน ตนก็ไม่สันทัดในข้อกฎหมาย แต่ก็คงจะมีขุนค้อนคนใดคนหนึ่ง เข้าไปทำหน้าที่ ส่วนกระแสข่าวที่เกิดอย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์เกี่ยวกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือแต่อย่างใด
เพื่อแผ่นดินยังเสียงแตก
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสาย บรรดาแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินได้เข้าหารือกับนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค ที่บ้านย่านถนนพัฒนาการ หลังจากที่แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลระหว่างฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการเข้าร่วมรัฐบาลอาทิ นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รองหัวหน้าพรรคและนาย สุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค และฝ่ายที่เห็นควรเข้าร่วมรัฐบาลของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค นาย ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตกรรมการสภานโยบายและยุทธศาสตร์
ทั้งที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เคยประกาศว่าจะประกาศความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวพร้อมพรรคชาติไทยหลังวันที่ 17ม.ค..นี้ ล่าสุด นายสุวิทย์ ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเพื่อขอมติในการเข้าร่วมรัฐบาลในวันพุธที่ 16 ม.ค.นี้เวลา 10.00 น.โดยแต่ละฝ่ายต่างระดมกรรมการ บริหารพรรคในฝ่ายของตนเองให้เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งภายหลังการประชุมจะมีการประกาศจุดยืนของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการเข้าร่วมรัฐบาลด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมานายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำได้นัดหารือส.ส.ส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่บ้านพักริมน้ำของ นายสุชาติ เพื่อขอให้ไปเจรจากับผู้ใหญ่ ของพรรคพลังประชาชนให้ดำเนินการในการเลือกตั้งซ่อมให้คะแนนเป็นไปตาม ธรรมชาติ โดยไม่มีการเทคะแนนให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากทราบมาว่า พรรคพลังประชาชนจะมีการเทคะแนนให้กับผู้สมัครของบางพรรคการเมือง ในบางพื้นที่ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
โฆษก พผ.ชี้ต้องรอความชัดเจนบางอย่าง
นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้แกนนำพรรค ผู้บริหารพรรค และว่าที่ส.ส.ของพรรค จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนบางอย่างก่อนจึงจะสามารถแถลงต่อประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการได้หลังวันที่ 17 ม.ค.นี้แน่นอน
ส่วนผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ถูกยิงเข้าไปในบ้านนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง และอุกอาจมาก จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการหาผู้กระทำมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
“ขนาดผู้สมัครส.ส.ยังถูกรุกรานข่มขู่ถึงชีวิตกันแล้วประชาชนชาวบ้านตาดำ ๆ จะมีความความปลอดภัยได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนความรู้สึกและความศรัทธาต่อการเมืองไทยน้อยลงทุกวัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คุณหญิง พจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยอ้างว่า เพื่อมาต่อสู้คดีตามหมายจับเกี่ยวกับที่ดินรัชดา และ การปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยคุณหญิงพจมานใช้วงเงินประมาณ 6 ล้านบาท ในการประกันตัวออกไป
โดย มีกระแสข่าวว่า หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 วัน คุณหญิงพจมาน ได้ติดต่อประสานไปยังคนสนิทของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ เพื่อขอเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งคุณหญิงพจมานได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.อ.เปรม โดยในครั้งนี้ คุณหญิงพจมานไม่ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ แต่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพูดคุยกันระหว่าง คุณหญิงพจมาน กับ พล.อ.เปรม ครั้งนี้ ได้มีการขอร้องเพื่อให้ พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางกลับประเทศ และจะหยุดการเคลื่อนไหว และเดินหน้าสู่ความสมานฉันท์ ขณะเดียวกันยังได้ขอร้องให้ พล.อ.เปรม ประสานไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อดูแล ความปลอดภัยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังเดินทางกลับ ทั้งนี้การพูดคุยกันมีเงื่อนไขว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องไม่เล่นการเมืองในรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็ได้รับปากว่าจะปฏิบัติตาม รวมถึงเรื่องคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่คุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางไป พบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ครั้งนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่อยากให้เอิกเกริก และเป็นข่าวมาก เพราะเกรงว่าจะเกิดภาพไม่ดี รวมถึงไม่อยากให้ พล.อ.เปรม ไม่สบายใจ จึงได้มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พล.อ.เปรมว่า ได้มีการวิเคราะห์ว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้เห็นว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้เห็นชอบ ครม. ชุดใหม่ของ พรรคพลังประชาชน และอยู่เบื้องหลังการเมือง ดูจากตัวบุคคลที่ปล่อยออกมาว่า พยายามให้เห็นว่าเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.เปรม และ เป็นพวก ลูกป๋า
รับเป็นไปได้“ประวิตร”นั่ง รมว.กห.
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.) ให้สัมภาษณ์ ก่อนประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงกรณีกระแสข่าวที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.)ได้เสนอให้พรรคพิจารณา พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามีและแกนนำยังไม่ได้หารือหรือคุยกับกองทัพแต่อย่างใด ซึ่งบุคคลที่จะมารับตำแหน่งนี้สามารถเป็นได้ทั้งคนในและคนนอกพรรค หากทำให้ทุกฝ่ายเกิดความ สบายใจซึ่งกันและกัน ส่วนการที่เสนอชื่อของ พล.อ.ประวิตร เพื่อเป็นผู้มาประสานรอยร้าวระหว่างคมช.และพรรคหรือไม่นั้น เห็นว่าอาจมีความเป็นไปได้ เพราะทุกคนก็อยากให้เกิดความสมานฉันท์เกิดขึ้น
นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงข่าวที่ระบุว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยอมให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล แต่นายกรัฐมนตรีต้องไม่ใช่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคว่า เราเป็นพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นหากนายสมัครไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวปล่อยเท่านั้น ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน
“เรืองโรจน์”อ้อมแอ้มให้พรรคตัดสิน
ขณะที่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่ อพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ มาเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งดังกล่าวว่า เป็นมติของพรรคที่จะให้ใครเป็นอะไร ตนไม่มีหน้าที่ ต้องบอกว่าใครจะเป็นอะไร นั่งตำแหน่งใด ซึ่งคนที่เป็นทหารระดับสูงก็สามารถเป็นรัฐมนตรีกลาโหมได้ทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบกก็เหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกลาโหม พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า เป็นได้ หากเคยเป็นผู้นำของกองทัพมาก่อนก็มีความเหมาะสม ส่วนจะเป็นการหารือกับคมช.หรือไม่ เชื่อว่าคมช.จะไม่เข้ามายุ่ง มีแต่คนอื่นที่จะดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือหากต้องคุยกันจริงก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นนายทหารรุ่นพี่ รุ่นน้องกัน คุยกันง่าย และอย่าสร้างภาพว่า คมช.น่ากลัว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้เจรจากับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่เคยพบกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คิดว่า คงเป็นห่วงเรื่องทางบ้านมากกว่า ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายหากจะไปคุยกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพราะต่างเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายสมัคร จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหากเป็นรัฐบาล ตนเห็นว่าเมื่อพรรคชนะการเลือกตั้ง หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนไว้ใจ ถ้าไปเปลี่ยนก็ผิดกติกา
ย้ำ“สมัคร”เท่านั้นที่เป็นนายกฯ
ต่อมา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมการเลือกตั้งใหม่ ในพื้นที่ที่ผู้สมัครของพรรคที่ได้รับใบเหลือง
ส่วนกระแสข่าวนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน อาจไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ ยืนยันอีกครั้งว่าพรรค ไม่ได้เตรียมนายกรัฐมนตรีสำรองไว้ เมื่อพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นพรรคยืนยันว่าในวันเปิดประชุมสภาฯ นายสมัคร จะได้รับการเสนอชื่อเป็น นายกรัฐมนตรีแน่นอน อีกทั้งนายสมัครก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถ จนนำพรรคชนะการเลือกตั้ง ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใด คาดว่าน่าจะมาจากนอกพรรค ซึ่งมีเจตนาทำให้เกิดความสับสนขึ้น
ส่วนบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น พรรคได้เตรียมบุคคล ที่มีความรู้ความเหมาะสมไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ส่วนกระแสข่าวนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคอาจได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯนั้น ยอมรับว่านายยงยุทธมีความเหมาะสมแต่ก็ไม่ได้มีเพียงคนเดียว ซึ่งรายชื่อที่นำมาพิจารณาเป็นประธานสภาฯ ส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ก็ต้องมีการปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราก็ต้องขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมด้วย
ลั่นสุดสัปดาห์นี้รู้ผลร่วมรัฐบาล
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าภายในวันที่ 17-18 ม.ค.น่าจะมีการประกาศร่วมรัฐบาลของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหา น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว
สำหรับกระแสข่าว นพ.สุรพงษ์จะดำรงตำแหน่งรมว.คลังนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นเพียงข่าวที่มาจากภายนอกพรรค ขณะนี้ยังไม่มีการคุยกันถึงเรื่องนี้ ต้องรอให้มีการประกาศร่วมรัฐบาลแล้วจึงมาตกลงกันในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีการแบ่งโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้วหรือไม่ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า คงต้องการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึง นโยบายและการทำงานร่วมกัน แล้วค่อยมาพิจารณาบุคคลาการที่เหมาะสม คาดว่าภายในเดือนนี้ทุกอย่างจะชัดเจน
ดิ้นฟ้องศาล ปค.โละทิ้งคดี กกต.
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติให้ฝ่ายกฎหมายชุดใหญ่ประชุมในวันที่ 16 ม.ค. เวลา 9.00 น. เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนของกกต. เพราะมีหลักฐานชัดเจน มีเทปบันทึกการให้สัมภาษณ์ ของพ.ต.ท.รังษี เยาวลักษณ์ ที่ระบุถึงความสัมพันธ์ของ พล.ต.ต.ชัยยะ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมทั้งหมายเลขพาสปอร์ตที่ต่อกัน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.ชัยยะ ได้ไปร่วมงานบวช นายสนธิ ซึ่งจะใช้หลักฐานดังกล่าวยื่นต่อ ศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครองฉุกเฉินทั้ง 67 คดี ที่กกต.ตัดสินโดยตำรวจสันติบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้สอบสวนมีความไม่เป็นกลาง และใช้อำนาจโดยมิชอบ
ที่ประชุมยุ“ยุทธตู้เย็น”เหมาะปธ.สภา
พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้นายสมัครได้กล่าวย้ำกับสมาชิกว่ารู้สึกเป็นกังวลมือสกปรกยังไม่เลิกบงการ พยายามที่จะยุบพรรคพลังประชาชน ในขั้นตอนของ กกต.รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรม ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐนตรีนั้น นายสมัครไม่รู้สึกกังวล ในที่ประชุมนายยงยุทธ และนพ.สุรพงษ์ รวมทั้งสมาชิกต่างยืนยันว่าหัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น กระแสข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการปล่อยข่าว นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการ หยอกล้อว่านายยงยุทธ ควรเป็นประธานสภา ขณะที่นายยงยุทธ ระบุว่า พรรคมองไว้ หลายคน ตนก็ไม่สันทัดในข้อกฎหมาย แต่ก็คงจะมีขุนค้อนคนใดคนหนึ่ง เข้าไปทำหน้าที่ ส่วนกระแสข่าวที่เกิดอย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์เกี่ยวกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือแต่อย่างใด
เพื่อแผ่นดินยังเสียงแตก
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสาย บรรดาแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินได้เข้าหารือกับนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค ที่บ้านย่านถนนพัฒนาการ หลังจากที่แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลระหว่างฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการเข้าร่วมรัฐบาลอาทิ นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รองหัวหน้าพรรคและนาย สุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค และฝ่ายที่เห็นควรเข้าร่วมรัฐบาลของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค นาย ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตกรรมการสภานโยบายและยุทธศาสตร์
ทั้งที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เคยประกาศว่าจะประกาศความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวพร้อมพรรคชาติไทยหลังวันที่ 17ม.ค..นี้ ล่าสุด นายสุวิทย์ ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเพื่อขอมติในการเข้าร่วมรัฐบาลในวันพุธที่ 16 ม.ค.นี้เวลา 10.00 น.โดยแต่ละฝ่ายต่างระดมกรรมการ บริหารพรรคในฝ่ายของตนเองให้เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งภายหลังการประชุมจะมีการประกาศจุดยืนของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการเข้าร่วมรัฐบาลด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมานายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำได้นัดหารือส.ส.ส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่บ้านพักริมน้ำของ นายสุชาติ เพื่อขอให้ไปเจรจากับผู้ใหญ่ ของพรรคพลังประชาชนให้ดำเนินการในการเลือกตั้งซ่อมให้คะแนนเป็นไปตาม ธรรมชาติ โดยไม่มีการเทคะแนนให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากทราบมาว่า พรรคพลังประชาชนจะมีการเทคะแนนให้กับผู้สมัครของบางพรรคการเมือง ในบางพื้นที่ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
โฆษก พผ.ชี้ต้องรอความชัดเจนบางอย่าง
นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้แกนนำพรรค ผู้บริหารพรรค และว่าที่ส.ส.ของพรรค จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนบางอย่างก่อนจึงจะสามารถแถลงต่อประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการได้หลังวันที่ 17 ม.ค.นี้แน่นอน
ส่วนผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ถูกยิงเข้าไปในบ้านนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง และอุกอาจมาก จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการหาผู้กระทำมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
“ขนาดผู้สมัครส.ส.ยังถูกรุกรานข่มขู่ถึงชีวิตกันแล้วประชาชนชาวบ้านตาดำ ๆ จะมีความความปลอดภัยได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนความรู้สึกและความศรัทธาต่อการเมืองไทยน้อยลงทุกวัน”