ผู้จัดการรายวัน - ปิคนิค ดิ้นยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง หลังโดนเจ้าหนี้สถาบันการเงินรุมทึ้งทรัพย์สินจนก่อให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ บวกกับงบการเงินปีนี้ส่วนทุนติดลบกว่า 1.2 พันล้านบาท ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมย้ายเข้ากลุ่มบจ.ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หากส่วนทุนติดลบติดต่อ 3 ปีจริง และให้เวลาแก้ไขคุณสมบัติอีก 2 ปี ก่อนจะเด้งไปอยู่ในกลุ่ม NPG
นายสุเทพ อัคควุฒิไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 บริษัทได้ยื่นต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 2/2551 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้ศาลพิจารณารับคำร้อง และศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2551 เวลา 9.00 น.
สำหรับสาเหตุที่ต้องนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ สืบเนื่องจาก PICNI มีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเจ้าหนี้ได้ทำการอายัดและยึดทรัพย์สินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง อาทิ เงินสด หุ้นของบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด และหุ้นของบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัทได้รับได้รับผลกระทบและขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ
ประกอบกับงบการเงินประจำปี 2550 ซึ่งเป็นงบภายในของบริษัทมีส่วนทุนติดลบเป็นเงินจำนวนประมาณ 1,258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง รวมทั้งมีสินทรัพย์ลดลงจากการที่บริษัทถูกบังคับโอนหุ้นเวิลด์แก๊สให้กับเจ้าหนี้ ดังนั้นเมื่อผู้สอบบัญชีดำเนินการจัดทำงบการเงินบริษัทเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
***ตลท.เล็งย้ายเข้ากลุ่ม NPG
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากงบการเงินปี 2550 ของปิคนิคที่มีส่วนทุนติดลบประมาณ 1,258 ล้านบาท นับเป็นการติดลบติดต่อกัน 3 ปีแล้ว ซึ่งเข้าเกณฑ์ฟื้นฟูกิจการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะย้ายหุ้นปิคนิคไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย (NC) และถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขาย ซึ่งหากยังไม่สามารถแก้ไขคุณสมบัติได้ภายใน 2 ปีได้ จะถูกย้ายไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินการไม่ได้ตามกำหนด (NPG)
" ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องรอให้ปิคนิคแจ้งงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบงบการเงินแล้วมาให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อน หากมีส่วนทุนติดลบจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้ซื้อขายประมาณ 30 วัน ก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (NC) และหากยังไม่สามารถแก้ไขผลการดำเนินงานให้มีกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาสภายในเวลา 2 ปี ยังไม่สามารถกลับมาเทรดหมวดปกติได้ แต่จะย้ายเข้าไปในกลุ่ม NPG"
ส่วนกรณีที่ปิคนิคได้ยื่นต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น นางภัทรียา กล่าวว่า ต้องรอให้บริษัทแจ้งผลการพิจารณาของศาลล้มละลายกลางก่อน
***บลจ.กรุงไทยยันไม่ค้าน
ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด หนึ่งในเจ้าหนี้ปิกนิก กล่าวว่า บริษัทคงไม่ยื่นคัดค้านที่ปิคนิคจะขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพราะมองว่าหลังฟื้นฟูกิจการแล้ว ปิคนิคน่าจะมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และทำให้มีเงินมาชำระหนี้กับทางบริษัทได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องขึ้นกับเจ้าหนี้รายใหญ่ด้วยว่ามีความเห็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธนาคารพาณิชย์ เพราะตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้ว ทางผู้บริหารแผนฟื้นฟูจะต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมาเพื่อเสนอต่อเจ้าหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็จะดูแผนนั้นว่าเป็นอย่างไร ก่อนจะมีการลงมติต่อแผนดังกล่าวว่าเห็นชอบหรือไม่
"การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น อาจจะใช้ระยะเวลาบ้าง แต่ถ้านับเวลาการยื่นฟ้องร้องเพื่อให้ปิคนิคชำระคืนหนี้ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อปิคนิค ทำการฟื้นฟูจนกิจการแข็งแกร่ง ได้ผู้ถือหุ้นใหม่ใส่เงินเข้ามา ก็น่าจะเป็นผลดีกับเจ้าหนี้เอง เราจึงคิดว่าจะไม่ยื่นคัดค้าน" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า PICNI ได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2550 ปรากฏว่า ฐานะการดำเนินงานณ วันที่ 30 กันยายน 2550 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,034.61 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,869.73 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 164.88 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนสินทรัพย์รวม 8,959.91 ล้านบาท หนี้สินรวม 8,101.23 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 858.68 ล้านบาท
นายสุเทพ อัคควุฒิไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 บริษัทได้ยื่นต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 2/2551 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้ศาลพิจารณารับคำร้อง และศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2551 เวลา 9.00 น.
สำหรับสาเหตุที่ต้องนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ สืบเนื่องจาก PICNI มีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเจ้าหนี้ได้ทำการอายัดและยึดทรัพย์สินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง อาทิ เงินสด หุ้นของบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด และหุ้นของบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัทได้รับได้รับผลกระทบและขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ
ประกอบกับงบการเงินประจำปี 2550 ซึ่งเป็นงบภายในของบริษัทมีส่วนทุนติดลบเป็นเงินจำนวนประมาณ 1,258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง รวมทั้งมีสินทรัพย์ลดลงจากการที่บริษัทถูกบังคับโอนหุ้นเวิลด์แก๊สให้กับเจ้าหนี้ ดังนั้นเมื่อผู้สอบบัญชีดำเนินการจัดทำงบการเงินบริษัทเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
***ตลท.เล็งย้ายเข้ากลุ่ม NPG
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากงบการเงินปี 2550 ของปิคนิคที่มีส่วนทุนติดลบประมาณ 1,258 ล้านบาท นับเป็นการติดลบติดต่อกัน 3 ปีแล้ว ซึ่งเข้าเกณฑ์ฟื้นฟูกิจการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะย้ายหุ้นปิคนิคไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย (NC) และถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขาย ซึ่งหากยังไม่สามารถแก้ไขคุณสมบัติได้ภายใน 2 ปีได้ จะถูกย้ายไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินการไม่ได้ตามกำหนด (NPG)
" ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องรอให้ปิคนิคแจ้งงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบงบการเงินแล้วมาให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อน หากมีส่วนทุนติดลบจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้ซื้อขายประมาณ 30 วัน ก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (NC) และหากยังไม่สามารถแก้ไขผลการดำเนินงานให้มีกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาสภายในเวลา 2 ปี ยังไม่สามารถกลับมาเทรดหมวดปกติได้ แต่จะย้ายเข้าไปในกลุ่ม NPG"
ส่วนกรณีที่ปิคนิคได้ยื่นต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น นางภัทรียา กล่าวว่า ต้องรอให้บริษัทแจ้งผลการพิจารณาของศาลล้มละลายกลางก่อน
***บลจ.กรุงไทยยันไม่ค้าน
ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด หนึ่งในเจ้าหนี้ปิกนิก กล่าวว่า บริษัทคงไม่ยื่นคัดค้านที่ปิคนิคจะขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพราะมองว่าหลังฟื้นฟูกิจการแล้ว ปิคนิคน่าจะมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และทำให้มีเงินมาชำระหนี้กับทางบริษัทได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องขึ้นกับเจ้าหนี้รายใหญ่ด้วยว่ามีความเห็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธนาคารพาณิชย์ เพราะตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้ว ทางผู้บริหารแผนฟื้นฟูจะต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมาเพื่อเสนอต่อเจ้าหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็จะดูแผนนั้นว่าเป็นอย่างไร ก่อนจะมีการลงมติต่อแผนดังกล่าวว่าเห็นชอบหรือไม่
"การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น อาจจะใช้ระยะเวลาบ้าง แต่ถ้านับเวลาการยื่นฟ้องร้องเพื่อให้ปิคนิคชำระคืนหนี้ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อปิคนิค ทำการฟื้นฟูจนกิจการแข็งแกร่ง ได้ผู้ถือหุ้นใหม่ใส่เงินเข้ามา ก็น่าจะเป็นผลดีกับเจ้าหนี้เอง เราจึงคิดว่าจะไม่ยื่นคัดค้าน" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า PICNI ได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2550 ปรากฏว่า ฐานะการดำเนินงานณ วันที่ 30 กันยายน 2550 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,034.61 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,869.73 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 164.88 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนสินทรัพย์รวม 8,959.91 ล้านบาท หนี้สินรวม 8,101.23 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 858.68 ล้านบาท